“อีเทอร์นิตี้” โหมงานลอจิสติกส์ หวัง 3 ปีทำรายได้ทะลุ 3 พันล้านบาท ลั่นทำรายได้ติดอันดับท็อปไฟว์ พร้อมเพิ่มจำนวนลูกค้าระดับโกลบอลเป็น 25 ราย หลังเซ็นสัญญา “ปตท. บริหารธุรกิจค้าปลีก” ให้บริการขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภคไม่รวมน้ำมันเชื้อเพลิง ป้อนร้าน “จิฟฟี่” 150 สาขาทั่วประเทศ แย้มแผนรับมือเออีซี เล็งพื้นที่ 1 หมื่น ตร.ม.ผุดคลังสินค้าใหม่หวังใช้เป็นฐานเปิดตลาดลาว
นายพูนศักดิ์ เธียไพรัตน์ ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บริษัท อีเทอร์นิตี้ แกรนด์ โลจิสติคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ETG เปิดเผยว่า ภายหลังจากการเปิดเขตประชุมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC ในปี 2558 งานด้านลอจิสติกส์จะเป็นกลไกสำคัญและจะทำให้เกิดการแข่งขันของผู้ให้บริการลอจิสติกส์จากหลายๆ ประเทศ ทั้งในเรื่องของบุคลากร เทคโนโลยี และต้นทุนการให้บริการ
ดังนั้น การจะก้าวขึ้นไปให้บริการในระดับภูมิภาคและระดับโลกได้นั้นจำเป็นต้องเตรียมพร้อมทั้งการบริหารงานภายในและการสร้างความเชื่อมั่นผ่านการให้บริการบริษัทขนาดใหญ่ในระดับโกลบอล
สำหรับภาพรวมธุรกิจของ ETG ในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมามีรายได้กว่า 700 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากปี 2556 ประมาณ 6.7% ขณะที่ตั้งเป้ารายได้ตลอดทั้งปี 1.5 พันล้านบาท หรือเติบโต 5% ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 1.6 พันล้านบาท หรือประมาณ 10% เนื่องจากสถานการณ์การเมืองและเศรษฐกิจในช่วง 6 เดือนแรกที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังคงมีแผนขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่องปีละประมาณ 120-150 ล้านบาท ทั้งในเรื่องของการเพิ่มรถขนส่ง รวมถึงการพัฒนาบุคลากรและเทคโนโลยี โดยในปี 2557 นอกจากบริษัทฯ จะยังคงลงทุนเพิ่มและทดแทนจำนวนรถขนส่งประมาณ 20 คัน คิดเป็นเงินประมาณ 100 ล้านบาทแล้ว บริษัทฯ ยังมีแผนขยายคลังสินค้าเพิ่มอีก 1 แห่งในพื้นที่ชายแดนติดกับ สปป.ลาว
นอกเหนือจากคลังสินค้าที่มีอยู่ในปัจจุบัน 6 แห่งคือ บริเวณถนนบางนา-ตราด 2 แห่ง อ.แหลมฉบัง จ.ชลบุรี 1 แห่ง อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา 1 แห่ง จ.นครศรีธรรมราช 1 แห่ง และ จ.เชียงใหม่ 1 แห่ง
“การเพิ่มคลังสินค้าใหม่ครั้งนี้คาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 100 ล้านบาท บนพื้นที่ประมาณ 1 หมื่นตารางเมตร โดยขณะนี้กำลังพิจารณาว่าจะเลือกพื้นที่ใด เช่น อุบลราชธานี อุดรธานี หนองคาย เป็นต้น เนื่องจากเราต้องการใช้คลังสินค้าใหม่แห่งนี้กระจายสินค้าเข้าไปยัง สปป.ลาว ส่วนเหตุที่ไม่เข้าไปลงทุนในพื้นที่ สปป.ลาว เนื่องจากมูลค่าการค้าไทย-ลาวส่วนมากจะมีปริมาณการค้าตามแนวตะเข็บชายแดนมากกว่านั่นเอง โดยขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการติดต่อเจรจากับพันธมิตรผู้ร่วมทุนทั้งในพื้นที่ฝั่งไทยและ สปป.ลาว ซึ่งหากการเจรจาไม่ลงตัวเราก็พร้อมจะลงทุนเองเช่นกัน โดยคาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินงานก่อสร้างได้ภายในไตรมาสแรกของปี 2558” นายพูนศักดิ์กล่าวว่า
หลังจากที่บริษัท ฮิตาชิ ทรานสปอร์ต ซิสเต็ม ประเทศญี่ปุ่น เข้ามาร่วมทุนกับ ETG เมื่อประมาณ 3 ปีที่ผ่านมา ทำให้ปัจจุบัน ETG มีลูกค้าเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในส่วนของลูกค้าระดับโลกหรือโกลบอลมีประมาณ 20 ราย เช่น บริดจสโตน เนสท์เล่ เซ็นทรัล โรบินสัน และอื่นๆ ส่งผลให้ ETG มีผลการดำเนินงานติดอันดับ 1 ใน 10 ผู้ประกอบการลอจิสติกส์ในประเทศไทย โดยตั้งเป้าหมายว่าภายใน 3 ปีจะสามารถติดอันดับ 1 ใน 5 ด้วยรายได้ประมาณ 2.5-3 พันล้านบาท พร้อมลูกค้าระดับโลกประมาณ 25 ราย
ล่าสุด ETG ได้ลงนามสัญญาความร่วมมือเป็นพันธมิตรกับ บริษัท ปตท.บริหารธุรกิจค้าปลีก จำกัด (PTTRM) หลังจากผ่านการคัดเลือกตามคุณสมบัติและเงื่อนไขที่กำหนด โดยสามารถชนะการประมูลเพื่อให้บริการขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภคไม่รวมน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อรองรับการให้บริการแก่ร้านสะดวกซื้อ “จิฟฟี่” 150 สาขาทั่วประเทศ มีกำหนดระยะเวลา 3 ปีจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2560 โดย ETG คาดว่าจะสามารถทำรายได้จากการให้บริการแก่ร้าน “จิฟฟี่” ปีละไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท