xs
xsm
sm
md
lg

“ปิยสวัสดิ์-พรชัย-คุรุจิต” ยันทำหน้าที่บอร์ด ปตท. 1 ก.ค.เมินเสียงต้าน อ้างชินแล้ว (ชมคลิป)

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ปิยสวัสดิ์” ควง“พรชัย-คุรุจิต” แถลงยืนยันพร้อมปฏิบัติหน้าที่บอร์ด ปตท. มีผลตั้งแต่พรุ่งนี้ (1 ก.ค.) ไม่หวั่นถูกเครือข่ายภาคประชาชนต่อต้าน ยืนยันทำเพื่อประโยชน์ชาติ เตรียมดันขายหุ้น ปตท.ในโรงกลั่น SPRC และบางจากลดข้อหาผูกขาด หนุนให้รัฐวิสาหกิจทั้งหมดอยู่ภายใต้ พ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้า ย้ำจะพา ปตท.กลับมาเป็นที่รักของประชาชนอีกครั้ง “คุรุจิต” ยื่นลาออกจากบอร์ด กฟผ.และเอสโซ่แล้วเพื่อความโปร่งใส




วันนี้ (30 มิ.ย.) นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ นายคุรุจิต นาครทรรพ และนายพรชัย รุจิประภา ได้เปิดแถลงข่าวด่วนเพื่อชี้แจงกรณีการได้รับการแต่งตั้งให้เป็นคณะกรรมการบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.เป็นต้นไป และมีเครือข่ายภาคประชาชนออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านการทำหน้าที่ดังกล่าว

นายปิยสวัสดิ์กล่าวว่า การทำหน้าที่ราชการอดีตที่ผ่านมายืนยันว่าไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้แก่การเมือง และทำหน้าที่อย่างดีที่สุด เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ ยืนยันว่าจะทำหน้าที่ใน ปตท.ให้ดีเช่นกัน และการกล่าวโทษของอีกฝ่ายนั้นจากเอกสารที่มีการเปิดเผยสามารถชี้แจงได้และขอบคุณที่ผู้ต่อต้านนั้นรวบรวมผลงานในอดีตที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศให้กับตน

“การคัดค้านจากบางกลุ่มไม่ได้เป็นปัญหาต่อการทำหน้าที่แต่อย่างใด และที่ผ่านมาก็ชินกับการคัดค้าน และก็ทำในสิ่งที่ถูกต้องมาโดยตลอด และ ปตท.วันนี้ที่เติบโตเป็นบริษัทขนาดใหญ่ คนไทยควรจะภาคภูมิใจ ยืนยันว่าจะทำให้ ปตท.กลับมาเป็นที่รักของประชาชนอีกครั้งหนึ่ง” นายปิยสวัสดิ์กล่าว

สำหรับกรณีการกล่าวหาว่ามีการถ่ายโอนทรัพย์สินของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) จนทำให้รัฐเสียหายนั้น ข้อเท็จจริงตรงกันข้ามว่ารัฐได้ประโยชน์จากการดำเนินการดังกล่าวอย่างมาก เพราะบริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือเอ็กโก้ และ บมจ.ราชบุรีโฮลดิ้ง ซึ่งระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ปัจจุบันถือว่าเป็นผลงานที่ทำให้รัฐ โดย กฟผ.สามารถระดมเงินมาขยายกิจการไฟฟ้าจากมูลค่าหุ้นที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล

อย่างไรก็ตาม การเป็นกรรมการใน ปตท.สิ่งที่จะผลักดันคือการสร้างความเป็นธรรมให้แก่ตลาดน้ำมันโดยเฉพาะส่วนของการค้าส่งน้ำมันซึ่งขณะนี้

บมจ.ปตท.ถูกมองว่าผูกขาดเพราะมีการถือหุ้นในโรงกลั่นทุกแห่งยกเว้นเอสโซ่ ทำให้ผูกขาดตลาดกว่า 50% ดังนั้น เห็นว่าจะต้องขายหุ้นที่ ปตท.ถือไว้ในโรงกลั่นสตาร์ปิโตรเลียมรีไฟน์นิ่งหรือ SPRC และ บมจ.บางจาก ออกทั้งหมดเพื่อทำให้ระบบมีการแข่งขันมากขึ้นจากปัจจุบันมีการแข่งขันแล้วแต่ยังไม่มากนัก นอกจากนี้จะเสนอให้รัฐบาล แก้ไข พ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้าให้หน่วยงานรัฐวิสาหกิจเข้าสู่การแข่งขันในระบบแท้จริง การทบทวนแผนการลงทุน 5 ปี โดยเฉพาะการลงทุนต่างประเทศก็คงจะต้องมาพิจารณาในรายละเอียดอีกครั้งแต่ขณะนี้ยังไม่ได้ทำงานจึงยังไม่สามารถระบุได้

ส่วนกรณีท่อก๊าซนั้น เห็นว่า ปตท.ควรจัดตั้งบริษัทเพื่อแยกการบริหารจัดการท่อก๊าซออกมาต่างหากจาก ปตท. และเปิดโอกาสให้บริษัทรายอื่นเข้ามาแข่งขันใช้บริการท่อร่วมกัน ส่งผลให้ราคาก๊าซมีการแข่งขันมากขึ้น ขณะเดียวกันการผลักดันให้ ปตท.มีธรรมาภิบาลปราศจากการแทรกแซงจากการเมืองในกิจการที่รัฐถือหุ้นก็เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องแก้ไข ซึ่งขึ้นอยู่กับกระบวนการคัดเลือกบุคคลที่เหมาะสมเข้ามาโดยกระทรวงการคลังในฐานะผู้ถือหุ้นจะมีบทบาทในการวางหลักเกณฑ์คัดเลือกคนที่โปร่งใสเข้ามาทำงาน ทำให้นักการเมืองไม่เข้ามาหาประโยชน์ในรัฐวิสาหกิจได้

นายคุรุจิต นาครทรรพ กรรมการ ปตท.กล่าวว่า หลักการทำงานของตนคือ ความซื่อสัตย์สุจริต ทำงานอย่างมืออาชีพ เพื่อให้เติบโตอย่างมั่นคง ดังนั้นการเป็นกรรมการ ปตท.จะไม่ทำให้ประชาชนผิดหวัง ซึ่งล่าสุดเพื่อไม่เกิดข้อครหาผลประโยชน์ทับซ้อน ตนได้ลาออกจากตำแหน่งกรรมการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และบริษัท เอสโซ่(ประเทศไทย) จำกัด มีผลวันที่ 1กรกฎาคม 2557

นายพรชัย รุจิประภา กรรมการ ปตท.กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาการทำงานในช่วงชีวิตข้าราชการก่อนจะเกษียณอายุในปี 2555 ตนไม่เคยทำให้อาชีพข้าราชการเสียหาย เพราะยึดแนวทางมาโดยตลอดว่าหากถูกสั่งให้ทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ตนจะไม่ทำ ส่วนการเข้ารับตำแหน่งบอร์ด ปตท.ครั้งนี้ เนื่องการ คสช.ได้เชิญมาให้ช่วยประชาชน ตนจึงตอบรับ เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องที่ควรทำ และเป็นสิ่งที่ถูกต้อง

“หลังเข้ารับตำแหน่งบอร์ด ปตท. จะเสนอให้การประชุมบอร์ด ปตท.ทุกครั้ง มีการแถลงข่าว เพื่อเปิดเผยข้อมูลให้ประชาชนรับทราบ เนื่องจากเรื่องนี้ถือเป็นประเด็นที่กลุ่มต่อต้านนำมาใช้เป็นข้ออ้างเรื่องการปกปิดข้อมูล” นายพรชัยกล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น