เกาะกระแส
00 แน่นอนว่าการปฏิรูปพลังงานย่อมเป็นหนึ่งในปัญหาสำคัญที่ชาวบ้านต้องการให้มีการปฏิรูปกันอย่างเป็นธรรม เพราะปัญหาพลังงานมีผลกระทบต่อปากท้อง ค่าครองชีพ สร้างความเดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้า ครอบคลุมแทบจะทุกครอบครัว และแน่นอนว่าแทบทุกสายตากำลังเพ่งมองไปที่ ปตท. ที่กำลังตกเป็นจำเลยว่า "เอาเปรียบขูดรีด" หากำไรบนความเดือดร้อนของชาวบ้าน ซึ่งปัญหาและความระแวง ความไม่พอใจดังกล่าวนับวันจะมีมากขึ้นเรื่อยๆ
00 รวบรัดตัดความก็คือ การมี คสช.โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คราวนี้ไหนๆ ก็ไหนๆ ชาวบ้านเขาลุ้นให้มีการปฏิรูป ล้างเหลือบไรที่เกาะกินปตท. เอาเปรียบมานานให้ให้หมดสิ้นไปเสียที เพราะถ้าคราวนี้ทำไม่ได้ หรือไม่ทำ มันก็มีโอกาสยากแล้ว แต่ขณะเดียวกันหากคสช. "ต้มชาวบ้าน" คิดว่ารู้ไม่ทัน หรือรู้ทัน แต่คงทำอะไรไม่ได้ ก็คงคิดผิด เพราะเวลานี้สิ่งที่ คสช. ยืนอยู่ได้ด้วยความมั่นคงก็เป็นเพราะ "ความศรัทธา" ที่เขามอบให้ ซึ่งสาเหตุแห่งความศรัทธาก็ย่อมมาจากการทำหน้าที่เพื่อประโยชน์ของคนส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นหลักการ และเหตุผลธรรมดา รับรู้กันได้ เพียงแต่ว่าในทางปฏิบัติอาจมีปัจจัยบางอย่างมาเกี่ยวข้อง นั่นคือ "ความหลง" หรือบางทีพออยู่ไปก็ "มั่นใจ" ในพลังของตัวเอง หลงคิดว่าไม่มีใครมาล้มตัวเองได้แล้ว นี่แหละคือสาเหตุแห่งความ "เสื่อม" และที่สำคัญมองข้ามไม่ได้เป็นอันขาดว่า ในยุคใหม่เป็นยุคของการสื่อสารออนไลน์ ชาวบ้านเป็นสื่อกันเอง สื่อสารข้อมูลฉับไว ก็ต้องสำเหนียกกันบ้าง เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน
00 บอกให้ก็ได้ว่า การตั้งบอร์ดชุดใหม่ของ ปตท. จำนวน 6 คน เข้าไปแทนคนเก่าที่ถูกกดดันให้ลาออก เนื่องจากคนเป็นของ ทักษิณ ชินวัตร เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาได้เริ่มได้ "กลิ่นทะแม่ง" แตะจมูกมาแต่ไกล ก็ไม่มีอะไรมากหรอก หากพิจารณาจากตัวบุคคลเป็นรายคน อย่างน้อยก็สองสามคนที่ทำให้มองด้วยความไม่น่าไว้ใจเลย พูดกันตรงๆ ก็ได้เอ้า รายแรกก็คือ ปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ อดีตรมว.พลังงาน พรชัย รุจิประภา อดีตปลัดกระทรวงพลังงาน และ คุรุจิต นาครทรรพ รองปลัดกระทรวงพลังงาน โดยเฉพาะคนแรกนี่ บอกตรงๆ ไม่ไว้ใจ และมีเสียง "ยี้" ดังกระหึ่มจากชาวบ้านที่ตื่นตัวและรู้ทัน ปตท.มาอย่างต่อเนื่อง การแต่งตั้งคนพวกนี้เข้ามา ย่อมส่งผลต่อความศรัทธาต่อคสช. เป็นบทพิสูจน์ด่านแรก นี่อาจเริ่มต้นของ "แต้มสะสม" ก็เป็นได้
00 ประกาศให้ชัดขึ้นมาอีกขั้นสำหรับโรดแมปของ คสช. ที่ยืนยันโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าภายใน 15 เดือนข้างหน้า ทุกอย่างจบ นั่นคือ มีรัฐบาลจากเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ ภายในปี 58 เริ่มจากการประกาศใช้รัฐธรรมนูญชั่วคราวภายในเดือนก.ค. จากนั้นภายในสองเดือน ก็จะมีสภานิติบัญญัติแห่งชาติ มีรัฐบาล มีสภาปฏิรูป มีรัฐธรรมนูญฉบับถาวร รวมขั้นตอนทุกเรื่องจนมีการเลือกตั้งโดยสมบูรณ์ นั่นคือคำสัญญาที่ประกาศวัน เวลา ให้สังคมทั้งภายในและภายนอกได้เห็นชัดเจนขึ้น ภายนอกคือ ต่างชาติที่กำลังกดดันให้ คสช. ประกาศออกมาให้ชัด ซึ่งก็ได้สนองตอบออกมาแล้ว แต่ในความหมายของคนไทยเวลานี้ ไม่ใช่เพียงแค่กำหนดวันเวลาไปสู่การเลือกตั้งเท่านั้น เพราะสิ่งที่ทุกคนอยากเห็นก็คือ ต้องปฏิรูปทุกภาคส่วนอย่างแท้จริง และทำให้เห็นเป็นรูปธรรม ไม่ใช่ "สมบัติผลัดกันชม" ซึ่งนาทีนี้ แม้ว่าจะยังมองภาพไม่ชัด แต่บอกได้ก็คือ มันเริ่ม "ทะแม่ง" แล้วนะ "ลุงตู่" !!