กรมทางหลวงสรุปเวนคืนพื้นที่ในจังหวัดสระบุรีรวม 1,458 แปลงสร้างมอเตอร์เวย์สายบางปะอิน-นครราชสีมา ชี้แจงขั้นตอนการขอรับเงินค่าชดเชย และกระบวนการเวนคืน เผยเสนอ คสช.เป็นโครงการเร่งด่วนใช้งบปี 58 เวนคืน
รายงานข่าวจากกรมทางหลวง (ทล.) แจ้งว่า วันนี้ (25 มิ.ย.) กรมทางหลวงได้จัดประชุมสรุปผล (การประชุมใหญ่ ครั้งที่ 3) โครงการงานสำรวจจัดทำแผนที่แสดงรายละเอียด ของอสังหาริมทรัพย์และประมาณราคา เพื่อกำหนดเป็นค่าทดแทนในการเวนคืนทางหลวงพิเศษหมายเลข 6 สายบางปะอิน-นครราชสีมา ระหว่าง กม.24+500-กม.83+550 รวมทางแยกต่างระดับ ในพื้นที่จังหวัดสระบุรี ซึ่งจะมีทรัพย์สินที่ถูกเวนคืนเป็นสิ่งปลูกสร้างรวม 432 ราย แบ่งเป็น 4 อำเภอ ประกอบด้วย อ.หนองแค 131 ราย อ.เมือง 35 ราย อ.แก่งคอย 209 ราย และ อ.มวกเหล็ก 57 ราย สำหรับที่ดินที่ถูกเวนคืน แยกตามเอกสารสิทธิ รวม 1,458 แปลง เป็นโฉนดที่ดินจำนวน 1,428 แปลง, น.ส.3 จำนวน 9 แปลง, น.ส.3 ก จำนวน 8 แปลง, ท.ค. จำนวน 3 แปลง, และเป็นที่-ทางสาธารณะจำนวน 10 แปลง
ทั้งนี้ กรมทางหลวงจะติดประกาศราคาค่าทดแทน พร้อมทั้งวิธีดำเนินการ ทั้งการทำสัญญา ตลอดจนหลักเกณฑ์และรายละเอียดอื่นๆ ไว้ที่หน่วยงานราชการต่างๆ ของจังหวัด ประกอบด้วย ที่ทำการของเจ้าหน้าที่ ศาลากลางจังหวัด สำนักงานที่ดินจังหวัด สำนักงานที่ดินจังหวัดสาขา และสำนักงานที่ดินอำเภอ ที่ว่าการอำเภอ ที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบล หรือที่ทำการเทศบาล ที่ทำการผู้ใหญ่บ้าน เพื่อเป็นแนวทางให้ผู้ที่ถูกเวนคืนดำเนินการต่อ และหากผู้ถูกเวนคืนยอมรับในค่าทดแทนที่กำหนดไว้ก็จะทำบันทึกข้อตกลงหรือทำสัญญาซื้อขาย โดยกรมทางหลวงจะต้องจ่ายค่าทดแทนให้แก่ผู้ถูกเวนคืนภายใน 120 วัน นับแต่วันทำสัญญา แต่หากผู้ถูกเวนคืนไม่พอใจค่าทดแทนที่ได้รับ สามารถรับเงินดังกล่าวไปก่อนแล้วยื่นอุทธรณ์ต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมภายใน 60 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือแจ้งให้ไปรับเงินค่าทดแทน โดยกรมทางหลวงจะดำเนินกระบวนการจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินด้วยความชัดเจน โปร่งใส และเป็นธรรมต่อประชาชน และเปิดโอกาสให้ประชาชนสอบถามข้อสงสัยต่างๆ เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง โดยสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.motorwayroute6-saraburi.com
สำหรับโครงการทางหลวงพิเศษหมายเลข 6 สายบางปะอิน-นครราชสีมา เป็นหนึ่งในโครงการเร่งด่วนที่จะดำเนินการตามยุทธศาสตร์พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของไทย 2558-2566 ซึ่งกรมทางหลวงได้เสนองบประมาณต่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อพิจารณาอนุมัติให้อยู่ในงบประมาณปี 2558 โดยเสนอให้ก่อสร้างในระยะแรกจากบางปะอิน-ปากช่องก่อน ด้วยวงเงินลงทุน 51,970 ล้านบาทแบ่งเป็น ค่าเวนคืน 6,630 ล้านบาท และค่าก่อสร้าง 45,340 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรอการพิจารณาเห็นชอบจากสำนักงบประมาณ