xs
xsm
sm
md
lg

อาเซียนฝันเป็นจริง ภาษีสินค้าลดลง 0% เกือบหมดแล้ว เหลือแค่สินค้าอ่อนไหวอีกไม่กี่รายการ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


อาเซียนปลื้ม ทุกประเทศลดภาษีสินค้าเหลือ 0% เกือบหมดแล้ว ยกเว้นข้าว น้ำตาล ผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์บางชนิด กาแฟ และยาสูบ เตรียมผลักดันให้ลดภาษีต่อไป ไทยจี้อินโดนีเซียเลิกควบคุมนำเข้าพืชสวน กัมพูชาและลาวจี้ไทยเลิกกีดกันนำเข้าข้าวโพด พร้อมสั่งผุดคลังข้อมูลอาเซียนรวบรวมข้อมูลมาตรการทางการค้า

นายสมเกียรติ ตรีรัตนพันธ์ รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้กรมฯ ได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะกรรมการประสานงานการดำเนินการภายใต้ความตกลงการค้าสินค้าของอาเซียน (Coordinating Committee on ATIGA) ครั้งที่ 15 โดยที่ประชุมได้มีการหารือและผลักดันให้สมาชิกอาเซียนมีการลดภาษีลงเหลือ 0% ทั้งหมด ซึ่งสมาชิกเก่าของอาเซียน 6 ประเทศได้ลดภาษีเหลือ 0% แล้วตั้งแต่ปี 2553 และอาเซียนใหม่ 4 ประเทศ มีกำหนดต้องลดภาษีเหลือ 0% ภายในปี 2558 แต่ขณะนี้ดำเนินการลดภาษีเกือบทั้งหมดแล้ว

“ตอนนี้เหลือเพียงสินค้าบางรายการที่เป็นสินค้าที่มีความอ่อนไหวของแต่ละประเทศ เช่น ข้าว น้ำตาล ผักและผลไม้บางชนิด เนื้อสัตว์บางชนิด กาแฟ และยาสูบ เป็นต้น ที่ภาษียังไม่ลดเหลือ 0% ซึ่งจะต้องมีการผลักดันให้มีการลดภาษีต่อไป”

นายสมเกียรติกล่าวว่า อาเซียนได้มีการหารือถึงการใช้มาตรการกีดกันทางการค้าที่กระทบต่อการส่งออกและการนำเข้าสินค้าภายในอาเซียน ซึ่งไทยได้หยิบยกและติดตามการแก้ไขปัญหามาตรการควบคุมนำเข้าพืชสวนของอินโดนีเซียที่มีผลกระทบต่อการส่งออกสินค้าเกษตรของไทย อินโดนีเซียได้หยิบยกประเด็นการลอกเลียนแบบสินค้ากาแฟของอินโดนีเซียในมาเลเซีย ส่วนกัมพูชาและลาวได้หยิบยกประเด็นมาตรการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ของไทย โดยอ้างว่าไทยกีดกันการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากอาเซียน ทำให้เกษตรกรลาวและกัมพูชาไม่สามารถส่งออกสินค้าดังกล่าวมายังไทยได้

สำหรับการอำนวยความสะดวกทางการค้า อาเซียนได้เริ่มเจรจาจัดทำระบบการรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเองโดยผู้ส่งออก เพื่อเพิ่มทางเลือกให้ผู้ส่งออกนอกจากการใช้หนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า โดยเป็นการต่อยอดจากการที่อาเซียนได้มีโครงการนำร่องระบบรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเอง โครงการที่ 1 มาตั้งแต่ปี 2553 โดยมีบรูไน มาเลเซีย สิงคโปร์ และไทยเข้าร่วมโครงการ ซึ่งปัจจุบันไทยมีผู้ส่งออกที่ได้ลงทะเบียนในโครงการที่ 1 แล้ว 83 ราย และเมื่อต้นปีที่ผ่านมาอาเซียนได้เริ่มต้นโครงการนำร่องระบบรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเอง โครงการที่ 2 ซึ่งมีอินโดนีเซีย ลาว และฟิลิปปินส์เป็นสมาชิก โดยระบบการรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเองโดยผู้ส่งออกนี้จะช่วยเพิ่มการอำนวยความสะดวกทางการค้า และส่งเสริมการเคลื่อนย้ายสินค้าโดยเสรีในกลุ่มอาเซียนภายในปี 2558

นอกจากนี้ อาเซียนยังได้เริ่มต้นจัดทำคลังข้อมูลการค้าของอาเซียน (ASEAN Trade Repository) เพื่อเป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลด้านมาตรการทางการค้าทั้งหมดของทุกประเทศสมาชิกอาเซียน ซึ่งจะเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบการและผู้สนใจที่ต้องการข้อมูลได้อีกทางหนึ่ง โดยอาเซียนได้กำหนดเป้าหมายให้แล้วเสร็จภายในปี 2558 พร้อมกับการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC)


กำลังโหลดความคิดเห็น