xs
xsm
sm
md
lg

เสื้อไทยไปบอลโลก! กสอ.ตั้งเป้าดันเป็นฐานผลิตแฟชั่นอาเซียน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ดร.อรรชกา สีบุญเรือง อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.)
กสอ.เผยอุตสาหกรรมสิ่งทอไทยแนวโน้มเติบโตสูง โดยเฉพาะกลุ่มชุดกีฬาตามกระแสนิยมการออกกำลังกาย เผยเสื้อแข่งจากการผลิตของโรงงานไทยถูกนำไปใช้กับทีมที่ลงเตะในศึกฟุตบอลโลกกว่า 10 ชาติ บ่งบอกความสามารถเป็นที่ยอมรับในสากล ยันสานต่อการพัฒนา พร้อมตั้งเป้าดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการค้าแฟชั่นอาเซียน

ดร.อรรชกา สีบุญเรือง อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) กล่าวว่า อุตสาหกรรมแฟชั่นไทยมีส่วนสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจไทยอย่างมาก เพราะประเทศไทยมีความพร้อมหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นบุคลากร ฐานความรู้ และวัตถุดิบ เป็นต้น โดยอุตสาหกรรมแฟชั่นไทยประกอบด้วยอุตสาหกรรม 3 สาขาหลัก ได้แก่ อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม อุตสาหกรรมเครื่องหนังและรองเท้า และอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ ในปี 2556 มีมูลค่าส่งออกรวมจำนวน 19,518 ล้านเหรียญสหรัฐ (สิ่งทอเครื่องนุ่งห่ม 7,584.86 ล้านเหรียญสหรัฐ เครื่องหนังและรองเท้า 1,741.1 ล้านเหรียญสหรัฐ อัญมณีและเครื่องประดับ 10,193 ล้านเหรียญสหรัฐ)

ทั้งนี้ เมื่อเจาะจงมาในกลุ่มสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม มั่นใจว่าปีนี้ (2557) ประเทศไทยจะมียอดส่งออกสินค้ารวม 7,584 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.66 เนื่องจากผู้ประกอบการไทยมีศักยภาพในการผลิต

อธิบดี กสอ.เสริมด้วยว่า สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์ชุดกีฬามีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากเทศกาลฟุตบอลบอลโลก 2014 ที่กำลังจัดขึ้นขณะนี้ เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายของนักกีฬาส่วนหนึ่งมาจากโรงงานผลิตของผู้ประกอบการไทย โดยผลิตชุดกีฬาให้กว่า 10 ชาติในการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งนี้ ทั้งชุดฝึกซ้อม และชุดแข่ง แสดงให้เห็นว่าสินค้าของไทยมีศักยภาพและได้รับความเชื่อถือในระดับสากล

“ปัจจุบันเครื่องแต่งกายชุดกีฬาได้รับความนิยมตามกระแสรักสุขภาพ และกีฬาในประเทศเริ่มมีกระแสมากขึ้น ส่งผลให้ชุดกีฬาของทีมต่างๆ ได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้น จึงนับเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับชุดกีฬาเป็นสินค้าแฟชั่นที่ติดตลาด ถึงแม้อุตสาหกรรมแฟชั่นไทยจะอยู่ในระดับล่างหากเทียบกับแฟชั่นยุโรป และญี่ปุ่น รวมถึงรูปแบบธุรกิจเป็นลักษณะรับจ้างผลิต แต่อุตสาหกรรมประเภทชุดกีฬา โดยเฉพาะแบรนด์กีฬาระดับโลกกลับได้รับความไว้วางใจว่าจ้างผู้ผลิตไทยให้ผลิตเสื้อกีฬาฟุตบอลโลก ส่งผลให้ยอดการส่งออกเสื้อผ้าของไทยปีนี้ขยายตัวเพิ่มขึ้น” ดร.อรรชกากล่าว

ในส่วนของ กสอ.เองให้ความสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทออย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะผู้ประกอบการเอสเอ็มอี โดยในปีงบประมาณ 2557 ที่ผ่านมามีโครงการต่างๆ เน้นการเพิ่มผลิตภาพ การตลาด ให้ความรู้ และระบบบริหารจัดการ และในปีงบประมาณ 2558 ยังคงสานต่อ พร้อมให้ความสำคัญด้านการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการรุ่นใหม่ พัฒนาสร้างเครื่องหมายการค้าให้แข็งแกร่ง สร้างโอกาสในการนำเสนอสินค้าแฟชั่นไทยในรูปแบบต่างๆ เป็นต้น

ทั้งนี้ ตั้งเป้าให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการค้าแฟชั่นในอาเซียน จูงใจผู้ค้าเข้ามาซื้อสินค้าในไทย และส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวมีโอกาสซื้อสินค้าแฟชั่นจากไทยมากขึ้น ด้วยการสร้างการรับรู้แก่ผู้บริโภคทั้งในประเทศและกลุ่มนักท่องเที่ยว พร้อมเสริมศักยภาพการออกแบบสินค้าแฟชั่น
นายสุกิจ คงปิยาจารย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฮงเส็งการทอ จำกัด
ด้านนายสุกิจ คงปิยาจารย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฮงเส็งการทอ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ ทำธุรกิจรับจ้างผลิตเสื้อผ้านักกีฬาให้แก่แบรนด์ชื่อดัง ทั้งเสื้อฟุตบอลสโมสรลีกต่างๆ เช่น พรีเมียร์ลีก ลาลีกา เป็นต้น สำหรับในช่วงฟุตบอลโลกนี้ ยอดการผลิตเติบโตร้อยละ 10-15 จากช่วงเวลาปกติ แต่เมื่อรวมกันทั้ง 4 บริษัทที่รับผลิตชุดกีฬาฟุตบอลโลกประมาณ 10 ทีม (ไนซ์กรุ๊ป ไฮ-เทคกรุ๊ป ลิเบอร์ตี้กรุ๊ป และฮงเส็งกรุ๊ป) มียอดการสั่งซื้อเพิ่มรวมกันประมาณ 40-50 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1.4 พันล้านบาท

ทั้งนี้ ขอแนะนำสำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีรายเล็กๆ ที่ดำเนินธุรกิจเครื่องนุ่งห่ม อยากให้ตระหนักถึงความสำคัญของผู้ใช้มากกว่าผู้ซื้อ ควรใส่นวัตกรรมให้ผลิตภัณฑ์เพื่อสร้างความแตกต่าง เน้นที่ความสะดวกสบายเมื่อสวมใส่

นายวัลลภ วิตนากร รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไฮ-เทคแอพพาเรล จำกัด กล่าวว่า รายได้ของบริษัทส่วนใหญ่จะอยู่ที่การส่งออกเป็นหลักประมาณ 4.2 พันล้านบาท โดยส่งออกไปสหรัฐฯ ร้อยละ 40 (ประมาณ 1.5 พันล้านบาท) ยุโรปร้อยละ 55 (ประมาณ 2 พันล้านบาท) และอื่นๆ อีกร้อยละ 5 ส่วนประเทศในภูมิภาคอาเซียนเน้นส่งไปผลิตในโรงงานในเครือที่ตั้งอยู่ในประเทศต่างๆ มากกว่า เช่น ลาว กัมพูชา เวียดนาม พม่า และจีน สำหรับในช่วงฟุตบอลโลก บริษัทผลิตเสื้อฟุตบอลโลกประมาณ 750,000 ตัว ส่งผลให้ยอดการผลิตเพิ่มสูงขึ้นประมาณร้อยละ 20 จากช่วงเวลาปกติ

ทั้งนี้ ในภาพรวมเชื่อมั่นว่าตลอดปีนี้อุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มไทยจะเติบโตต่อเนื่อง โดยทั้งอุตสาหกรรมจะขยายตัวร้อยละ 4-5 จากกระแสมหกรรมฟุตบอลโลก 2014 ที่บราซิล โดยปีนี้จะมียอดส่งออกรวมประมาณ 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากปีที่ผ่านมาส่งออกได้ 2,890 ล้านดอลลสาร์สหรัฐ โดยการส่งออกไปยังสหรัฐฯ และยุโรปยังดีต่อเนื่อง และหากรวมกับสิ่งทออีกประมาณ 4,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ประเทศไทยจะมียอดส่งออกสูงถึง 7,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 200,000 ล้านบาท
นายยุทธนา ศิลป์สรรค์วิชช์ เลขาธิการสมาคมอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มไทย
ขณะที่นายยุทธนา ศิลป์สรรค์วิชช์ เลขาธิการสมาคมอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มไทย กล่าวว่า การส่งออกเครื่องนุ่งห่มในช่วง 4 เดือนแรกปี 2557 (ม.ค.-เม.ย.) ว่ามีมูลค่ารวม 29,900 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.76 โดยตลาดส่งออกหลักและส่งไปมากที่สุดคือ สหรัฐฯ ญี่ปุ่น เยอรมนี เบลเยียม และฝรั่งเศส ทั้งนี้ ผู้ประกอบการไทยควรพัฒนาและสร้างแบรนด์เป็นของตัวเอง นอกจกนั้น ปัญหาจากการสำรวจผู้ประกอบการในสมาคมอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มไทยคือ ขาดแคลนแรงงาน โดยเฉพาะแรงงานฝีมือ รวมถึง ปัญหาการลอกเลียนแบบ

* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SME ผู้จัดการออนไลน์” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *
หนึ่งในสินค้าจากโรงงานไทยผลิตให้แบรนด์ระดับโลก

กำลังโหลดความคิดเห็น