“เดอะมอลล์” เร่งเครื่องทุ่ม 1,200 ล้านบาทลุยครึ่งปีหลัง หลังกดปุ่มสตอปงดกิจกรรมไป 2 เดือน หวังฟื้นรายได้ชดเชยครึ่งปีแรก รับเป้ารายได้เดิมที่วางไว้ 50,000 ล้านบาท โต 1-2% ล่าสุดจัดเต็ม 2 แคมเปญ “มิดไนต์เซล” และ “มหกรรมลดทะลุพิกัด” ปลายเดือนนี้ มั่นใจเงินสะพัดรวมกว่า 1,500 ล้านบาท
นายชำนาญ เมธปรีชากุล รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า ปีนี้ทางบริษัทเตรียมงบการตลาดกว่า 2,000 ล้านบาทสำหรับจัดกิจกรรมตลอดทั้งปี แต่ในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมาใช้งบไปเพียง 800 ล้านบาทเท่านั้น โดยแคมเปญสุดท้ายที่จัดไปคือ ตรุษจีน หลังจากนั้นคือช่วงปลายเดือน ก.พ.จนถึง พ.ค.ที่ผ่านมารวมกว่า 3 เดือนไม่ได้มีการจัดแคมเปญส่งเสริมการขายเลย เนื่องจากสถานการณ์ในช่วงนั้นค่อนข้างตึงเครียด
แต่หลังจากนี้บริษัทพร้อมกลับมาลุยจัดแคมเปญส่งเสริมการขายตามแผนเดิมที่วางไว้อีกครั้ง โดยในแง่จำนวนยังใกล้เคียงกับครึ่งปีก่อนที่ผ่านมา แต่จะเน้นให้เกิดอิมแพกต์มากขึ้นและจัดใหญ่ขึ้น โดยการรวมเอาแต่ละกลุ่มสินค้ามาจัดแคมเปญร่วมกันภายใต้กลยุทธ์ 3 ข้อ คือ “ลึก รวม ต่าง” ภายใต้งบการตลาดที่เหลืออีก 1,200 ล้านบาท มั่นใจว่าจะช่วยให้ยอดขายครึ่งปีหลังเติบโตได้ 2-3% หรือช่วยให้ทั้งปีนี้บริษัทจะยังมีรายได้ 50,000 ล้านบาท โตขึ้น 1-2% ตามแผนเดิมที่วางไว้
“ปีนี้เดิมวางแผนที่จะกลับมารุกจัดกิจกรรมตลอดทั้งปี แต่ในช่วงครึ่งปีแรกสถานการณ์ไม่ค่อยดีจึงได้ชะลอแผนไป แต่หลังจากการเมืองและสถานการณ์ต่างๆ เข้าสู่ภาวะปกติ กำลังซื้อกลับมา บวกกับนโยบายการลงทุนของทางกลุ่มเดอะมอลล์กรุ๊ปออกมา ส่งผลให้บริษัทมีความมั่นใจในการกลับมารุกจัดแคมเปญและกิจกรรมส่งเสริมการขายอีกครั้ง ดังนั้นจากเดิมในครึ่งปีแรกที่มียอดขายต่ำกว่าเป้าเล็กน้อย ในครึ่งปีหลังน่าจะทำรายได้ชดเชยครึ่งปีแรกที่หายไปได้ และทำให้ทั้งปียังคงมีรายได้ 50,000 ล้านบาทตามแผนที่วางไว้” นายชำนาญกล่าว
ล่าสุดในช่วงกลางปีนี้บริษัทได้จัดแคมเปญส่งเสริมการขายขึ้น 2 แคมเปญ งบลงทุนรวม 60 ล้านบาทคือ “มิดไนต์เซล” ในเดอะมอลล์ทุกสาขา สยามพารากอน และดิ เอ็มโพเรียม ระหว่างวันที่ 26 มิ.ย.-2 ก.ค. 57 ภายใต้งบจัดงาน 20-25 ล้านบาท คาดว่าจะมียอดขายกว่า 1,200 ล้านบาท และ “มหกรรมลดทะลุพิกัด” ลดสูงสุดถึง 80% ที่อิมแพค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 2-6 ก.ค. 57 ภายใต้งบการจัดงาน 35 ล้านบาท คาดว่าจะมียอดขายกว่า 300 ล้านบาท หรือทั้งสองงานรวมกันจะมียอดขายร่วม 1,500 ล้านบาท
นายชำนาญกล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ปีนี้นอกจากจะเป็นปีที่กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้ามียอดขายที่ดีที่สุดจากกระแสฟุตบอลโลกและดิจิตอลทีวีแล้ว กลุ่มสินค้าเกี่ยวกับคอมมูนิเคชันเป็นอีกตัวที่มียอดขายดีมาก ส่วนในช่วงครึ่งปีแรกที่กำลังซื้อไม่ดี แต่ยังคงพบว่ากลุ่มสินค้าที่ยังมียอดขายดีอยู่นั้น ได้แก่ กลุ่มสินค้านิชมาร์เกต และฟังก์ชันนัล อย่าง เสื้อผ้า รองเท้า และของกิน เป็นต้น ส่วนสินค้าประเภทอีโมชันนัล ราคาสูง เป็นกลุ่มที่มียอดขายตกลง
