ส.อ.ท.ตั้งคณะทำงานด้านแรงงานเพื่อแก้ปัญหาร่วมกับภาครัฐ หลังสหรัฐฯ จัดอันดับไทยอยู่ในบัญชีการค้ามนุษย์ Tier 3 พร้อมทั้งเร่งสร้างความเข้าใจร่วมกับสมาชิก และเร่งผลักภาคเอกชนไทยหารือกับคู่ค้าต่างประเทศเพื่อสร้างความเข้าใจในข้อเท็จจริง ไม่มีการใช้แรงงานผิดกฎหมายทั้งหมด ยันเบื้องต้นมีผลกระทบด้านจิตวิทยาต่อผู้บริโภค ยังไม่กระทบจริง
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวภายหลังการประชุมหารือกับกรรมการบริหาร ส.อ.ท.เพื่อพิจารณากำหนดท่าทีและชี้แจงกรณีสหรัฐฯ ปรับลดระดับสถานการณ์การค้ามนุษย์ในไทยลงไปอยู่ใน Tier 3 ว่า จากการประชุมหารือร่วมกันได้กำหนดจุดยืนดังนี้ คือ 1. ส.อ.ท.ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับการใช้แรงงานผิดกฎหมายทั้งหมด 2. สนับสนุนให้รัฐดำเนินการจัดระเบียบการใช้แรงงานต่างด้าวทั้งหมดให้ชัดเจน อย่างเป็นรูปธรรมเพื่อนำไปปฏิบัติได้
3. เพื่อให้สถานการณ์คลี่คลายโดยเร็ว ทาง ส.อ.ท.จะชี้แจงกับคู่ค้าในต่างประเทศเพื่อให้เกิดความเข้าใจในข้อเท็จจริงว่าเป็นเหตุการณ์เกิดขึ้นมาก่อนหน้านั้น จะร่วมกับภาครัฐเพื่อไม่ให้เกิดเรื่องดังกล่าวนี้แล้ว และ 4. ส.อ.ท.จะจัดตั้งคณะทำงานที่ให้ข้อเท็จจริงแก้ไขปัญหาแรงงาน โดยมีนายสุชาติ จันทรานาคราช รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สายงานแรงงานเป็นประธาน เพื่อทำหน้าที่ประสานงานร่วมกับภาครัฐในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว
“ขณะนี้ ส.อ.ท.จะชี้แจงทำความเข้าใจกับสมาชิกในเรื่องดังกล่าว ที่ผ่านมาสมาชิกได้เรียกร้องให้ คสช.เข้ามาจัดระเบียบการใช้แรงงานต่างด้าวโดยเร็วเพื่อตรวจสอบ ดูแลได้ง่ายขึ้น พร้อมทั้งยืนยันว่าภาคเอกชนจะไม่สนับสนุนการใช้แรงงานเยี่ยงทาส หรือแรงงานเด็ก ส่วนการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเบื้องต้นจะพยายามชี้แจงบริษัทผู้ค้าและสื่อมวลชนว่าเราไม่สนับสนุนเรื่องนี้โดยเด็ดขาด และทำงานร่วมกับภาครัฐในการแก้ไขปัญหาและจัดระเบียบแรงงานต่างด้าว”
นายสุพันธุ์กล่าวต่อไปว่า คณะทำงานฯ ที่ตั้งจะติดต่อกระทรวงแรงงานเพื่อร่วมมือกันในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ เบื้องต้นการประกาศให้ไทยอยู่ Tier 3 มีผลกระทบด้านจิตวิทยาต่อผู้บริโภคที่คู่แข่งอาจนำไปขยายผลทางการค้าได้ แต่ผลกระทบจริงยังไม่ได้เกิดขึ้น
ดังนั้น บริษัทเอกชนไทยก็ต้องไปเร่งทำความเข้าใจกับบริษัทคู่ค้าในต่างประเทศเพื่อให้เกิดความเข้าใจเพื่อให้คู่ค้าไปทำความเข้าใจกับผู้บริโภคอีกทอดหนึ่ง โดยมั่นใจว่าจะชี้แจงให้เข้าใจได้ เพราะคู่ค้าในต่างประเทศเองก็อยากซื้อสินค้าไทย และที่ผ่านมาสหรัฐฯ และยุโรปก็มีกฎกติกาเข้มงวดในการตรวจสอบก่อนซื้อสินค้าไทยอยู่แล้ว ซึ่งไทยก็ผ่านกฎกติกาด้วยดี
นายสุชาติ จันทรานาคราช รองประธาน ส.อ.ท. กล่าวว่า แม้ว่าไทยจะถูกจัดไปอยู่ในTier 3 แต่การค้าระหว่างเอกชนไทยกับภาคเอกชนสหรัฐฯ หรือยุโรปก็ยังดำเนินไปได้ เพียงแต่สิ่งที่เกิดขึ้นในขณะนี้มันส่งผลกระทบด้านจิตวิทยา ซึ่งความจริงไม่ได้แย่เหมือนกับรายงานของ TIP ดังนั้นสิ่งที่ควรจะทำนับจากนี้คือ การเร่งประชาสัมพันธ์โดยความร่วมมือระหว่างภาครัฐกับเอกชน เพื่อชี้แจง ไม่ใช่ตอบโต้ ขณะที่ภาคเอกชนไทยเองก็ชี้แจงกับผู้นำเข้าสินค้า คู่ค้า และสมาคมการค้าต่างประเทศเพื่อสร้างความเข้าใจ และสื่อไปถึงผู้บริโภคให้เข้าใจข้อเท็จจริงว่าไทยได้พยายามแก้ปัญหาด้านนี้มามากพอสมควรแล้ว และไม่ได้แย่เหมือนรายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ TIP
ขณะที่ภาครัฐควรเทกแอ็กชันว่าจะดำเนินการเรื่องนี้อย่างไร เพื่อให้สหรัฐฯ กลับมาพิจารณาใหม่ ซึ่งก่อนหน้านี้ สศช.มีนโยบายชัดเจนในการจัดระเบียบแรงงานต่างด้าวที่ชัดเจน โดยยืนยันไม่มีการปราบปรามแรงงานต่างด้าวที่ผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว
ก่อนหน้านี้มีประเทศที่อยู่ใน Tier 3 อยู่ 21 ประเทศ รวมรัสเซียและจีนแล้ว ซึ่งทั้ง 2ประเทศนี้ก็มีการซื้อขายสินค้ากับสหรัฐฯ เป็นจำนวนมาก ไม่ได้ถูกแซงก์ชันสินค้าแต่อย่างใด โดยประเทศที่อยู่ใน Tier 3 สหรัฐฯ จะระงับความช่วยเหลือผ่านสถาบันการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ธนาคารโลก แต่ไม่ใช่ด้านการค้า และมนุษยธรรม มีเพียง 2 ประเทศที่ถูกตัดความช่วยเหลือไป