“ดาว เคมิคอล” จ่อลงทุนเพิ่ม ย้ำเชื่อมั่น ศก.-การเมืองไทย

“ดาว เคมิคอล” จ่อขยายการลงทุนปิโตรเคมีในไทยเพิ่ม หลังโครงการ Thai Growth Project มูลค่า 3 พันล้านเหรียญแล้วเสร็จ เผยขณะนี้มีเพียงโครงการขยายกำลังผลิตโพลีออลที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง คาดแล้วเสร็จต้นปีนี้ ยันการเมืองไทยขณะนี้ไม่มีผลต่อการตัดสินใจลงทุนโครงการใหม่ เหตุเข้าใจการเมืองไทยเป็นอย่างดี

นายจิรศักดิ์ สิงห์มณีชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดาว เคมิคอล ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการดำเนินการก่อสร้างส่วนขยายกำลังผลิตโพลีออล คาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาสแรกปี 2558 ซึ่งถือเป็นโรงงานต่อเนื่องภายใต้โครงการลงทุน Thai Growth Project ซึ่งปัจจุบันโรงงานปิโตรเคมีต่างๆ ในโครงการนี้ได้เดินเครื่องจักรผลิตเชิงพาณิชย์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว นับเป็นโรงงานสุดท้ายภายใต้ Thai Growth Project

ดังนั้น บริษัทฯ จึงอยู่ระหว่างการแสวงหาโอกาสการลงทุนโครงการปิโตรเคมีเพิ่มเติมในไทยอีก แต่คงไม่ใช้เม็ดเงินลงทุนมากเหมือนโครงการ Thai Growth Project ที่ใช้เงินลงทุนกว่า 3 พันล้านเหรียญสหรัฐ

นอกจากนี้ ดาว เคมิคอลอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะเพิ่มกำลังการผลิตโพลิโอเลฟินฟิล์มหรือไม่ เนื่องจากปัจจุบันหลายประเทศส่งเสริมโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์เพิ่มมากขึ้น ทำให้มีความต้องการใช้โพลิโอเลฟินฟิล์มเพื่อเป็นวัตถุดิบในการผลิตแผงโซลาร์เซลล์ โดยที่ผ่านมาบริษัทส่งออกโพลิโอเลฟินฟิล์มไปยังต่างประเทศทั้งจีน และเอเชีย

ซึ่งนวัตกรรมโพลิโอเลฟินฟิล์มสำหรับผลิตแผงเซลล์แสงอาทิตย์นี้จะช่วยให้แผงเซลล์แสงอาทิตย์ที่ผลิตได้มีความเสถียร และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ และอาจช่วยยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานขึ้น นับว่าเป็นฟิล์มที่มีประสิทธิภาพมากกว่าฟิล์มที่ใช้ในเซลล์แสงอาทิตย์ทั่วไป เช่น ฟิล์มชนิด Ethylenel Vinyl Acetate และแบบฟิล์มบาง (thin-film)

ส่วนการเมืองไทยที่มีคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) บริหารประเทศอยู่ในขณะนี้ ยืนยันว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนโครงการใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้น เนื่องจากบริษัทฯ เข้ามาลงทุนในไทยหลายสิบปี ทำให้เข้าใจสถานการณ์การเมืองไทยดี และเชื่อมั่นในเศรษฐกิจไทยมาโดยตลอด

ทั้งนี้ โครงการ Thai Growth Project เป็นโครงการที่ร่วมทุนกับพันธมิตรทางธุรกิจอย่างเครือซิเมนต์ไทย และบริษัท โซลเวย์ รวม 9 โครงการ เช่น โรงงานผลิตเอทิลีนแครกเกอร์ โรงงานผลิตโพลิเอทิลีนแห่งที่ 2 กำลังผลิต 3.5แสนตันต่อปี โรงงานโพลิเอทิลีนชนิดยืดหยุ่นพิเศษ กำลังผลิต 2.2 แสนตันต่อปี โรงงานผลิตไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ (HP) กำลังผลิต 3.3 แสนตันต่อปี โรงงานโพรพิลีนออกไซด์ (PO) กำลังผลิต 3.9 แสนตันต่อปี เป็นต้น

เมื่อเร็วๆ นี้ ดาว เคมิคอลฯ ร่วมกับกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม มูลนิธิสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย และหุ้นส่วนเชิงสร้างสรรค์ ไทย- สหรัฐฯ จัดโครงการเสวนา “ดาว เคมิคอล เพื่ออุตสาหกรรมยั่งยืน” ปีที่ 2 ในหัวข้อเตรียมความพร้อมธุรกิจไทย มีชัยเหนือคู่แข่งในยุค AEC ซึ่งในปีนี้จะเน้นไปยังกลุ่มอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) เพราะเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ โดยใช้หลักการและเทคโนโลยีลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมาช่วยลดต้นทุนพลังงาน นวัตกรรม และการสร้างมูลค่าเพิ่มผลิตภัณฑ์ ทำให้เข้าถึงผู้บริโภคมากขึ้น

โดยดาว เคมิคอลได้นำเสนอ “แพกเอ็กซ์เพิร์ต” (PackXpert) เป็นตัวอย่างการพัฒนาเทคโนโลยีบรรจุภัณฑ์ที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบสินค้าของตนเองให้ตอบโจทย์ตลาดในยุคปัจจุบัน โดยดาว เคมิคอล ได้ทำงานร่วมกับลูกค้าของตนในการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่ช่วยลดต้นทุนการขนส่ง มีความทนทาน ยืดหยุ่น ผสมผสานกับดีไซน์ใหม่ๆ ที่ดึงดูดผู้บริโภค และยังคงรักษาคุณภาพของสินค้าไว้ได้ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม