“โซล คอร์ปอเรชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล” (SOL) เผยแผนธุรกิจครึ่งปีหลังเน้นขยายสาขาเพื่อเพิ่มความสะดวกให้แก่ผู้บริโภคและนักธุรกิจอิสระ เตรียมเปิดสาขาใหม่ที่เวียงจันทน์ สปป.ลาว ย้ำนโยบายผลิตสินค้าคุณภาพสูงเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หลังจากที่ได้รับความพึงพอใจจากสมาชิก พร้อมเสริมศักยภาพนักธุรกิจกับโครงการ SOLearn และ SOLeader มุ่งพัฒนาและให้ความรู้แก่นักธุรกิจเครือข่ายสีขาวอย่างเต็มรูปแบบ
นางเพ็ญทิพย์ โปษยานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โซล คอร์ปอเรชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (SOL) เปิดเผยถึงแผนการตลาดในช่วงครึ่งหลังปี 2557 ว่า จากนี้ไป SOL ให้ความสำคัญต่อการขยายสาขาให้ครอบคลุมทุกภูมิภาคของประเทศ รวมทั้งสาขาต่างประเทศในภูมิภาคอาเซียน เพื่อเพิ่มความสะดวกให้แก่สมาชิกและผู้นำสามารถซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้น ปัจจุบันเรามีสาขาในประเทศทั้งหมด 6 สาขา และในอนาคตจะมีที่เวียงจันทน์ สปป.ลาว ส่วนที่เมียนมาร์มี 2 สาขาคือที่ พะอัน และย่างกุ้ง
นอกจากนี้แล้วยังมีนโยบายในการกระตุ้นความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภค โดยยึดมั่นกับการดำเนินธุรกิจในเส้นทางเครือข่ายสีขาว เพื่อให้ทุกคนที่เกี่ยวข้องได้รับประโยชน์จากการดำเนินธุรกิจ เช่น ลูกค้ามีโอกาสได้ใช้สินค้าที่มีคุณภาพโดยการเน้นส่วนผสมและวัตถุดิบจากธรรมชาติ รวมทั้งพลังงานบริสุทธิ์ในระดับนาโนเทคโนโลยี ทำให้ผู้ใช้เห็นผลจริง ที่ผ่านมา SOL ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เนื่องจากผู้บริโภคสามารถรับรู้ได้ว่าสินค้ามีประสิทธิภาพด้วยตัวเอง จึงเกิดความมั่นใจแนะนำต่อจาก 1 เป็น 2 จาก 2 เป็น 4 จำนวนจึงเพิ่มทวีคูณขึ้นเรื่อยๆ
ส่วนนักธุรกิจอิสระได้รับผลตอบแทนที่ยุติธรรมสามารถยกระดับคุณภาพชีวิต เนื่องจากบริษัทฯ มีโครงการ SOLearn เพื่อบรรยายข้อมูลเชิงลึกด้านผลิตภัณฑ์และปรัชญา SCI CENTER ซึ่งเป็นศูนย์รวมการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีนวัตกรรมเพื่อชีวิต และคอร์สแอดวานซ์ของผู้บริหารธุรกิจอิสระในระดับผู้นำ โดยจะจัดขึ้นตลอดในช่วงครึ่งปีหลังซึ่งเป็นโปรแกรม SOLeader ที่เน้นการพัฒนาเศรษฐกิจควบคู่จิตใจแบบเข้มข้น ฯลฯ เมื่อผู้บริโภคและนักธุรกิจได้รับประโยชน์ตามที่กล่าวข้างต้น องค์กรจึงสามารถนำรายได้มาบริหารจัดการและคืนกำไรสู่สังคมโดยผ่านกิจกรรมงานบุญเสริมความดีและโครงการแบ่งปันความสุขคืนสู่สังคม โดยเชิญสมาชิกและพนักงานร่วมกันบริจาคของให้ผู้ด้อยโอกาส การสมทบทุนให้โรงพยาบาลทหารผ่านศึก รวมทั้งกิจกรรมเพื่อสังคมและการกุศลอื่นๆ ที่ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง
นางเพ็ญทิพย์ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมา SOL ได้ให้ความสำคัญต่อการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์โดยไม่เบียดเบียนสิ่งแวดล้อม จึงมีนโยบายที่ชัดเจนในการพัฒนาสินค้าให้สอดคล้องกับความต้องการดังกล่าว เช่น ผลิตภัณฑ์ซักล้างและทำความสะอาดได้เน้นให้กระบวนการผลิตและใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติเพื่อให้ผู้บริโภคมีความปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมไม่ให้ถูกรบกวนจากสารเคมี อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังมีเป้าหมายที่ชัดเจนในการขยายไลน์สินค้าใหม่ๆ ให้สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคให้ครบทุกกลุ่ม ซึ่งปัจจุบันโซลฯ มีผลิตภัณฑ์ทั้งอาหารเสริมและเครื่องสำอางทั้งหมด 29 ประเภท โดยแบ่ง 4 กลุ่มใหญ่ๆ คือ โซลคอสเมติก โซลฟังก์ชันส์ โซลเฮลท์ และโซลไลฟ์สไตล์
ในอนาคตยังมีแผนที่จะเปิดมุมกาแฟปรุงสำเร็จเพื่อสุขภาพ โดยใช้ชื่อว่า EspressSOL และมุมของที่ระลึกเพื่อตอกย้ำแบรนด์และสร้างความเข้มแข็งให้แก่องค์กร สำหรับท่านผู้สนใจสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.sol.co.th