เครือข่ายภาคประชาชนและนักวิชาการ 11 คนจัดตั้ง “กลุ่มจับตาการปฏิรูปพลังงานไทย” หรือ จปพ. เพื่อให้ภาคประชาชนมีส่วนร่วมกำหนดนโยบายและวางแผนพัฒนาพลังงาน คุ้มครองผู้บริโภค ขจัดผลประโยชน์ทับซ้อนเสนอ “คสช.” เร่งด่วนลดราคาแอลพีจีครัวเรือนลงทันที 1.25 บาทต่อ กก. มาให้เท่าขนส่งที่ราคา 21.38 บาทต่อ กก.เพื่อป้องกันลักลอบใช้ผิดประเภท เลิกโครงสร้างราคาน้ำมันที่บวกค่าพรีเมียมทั้งที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริง
น.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีตวุฒิสมาชิก กรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ภาคประชาชนและนักวิชาการเบื้องต้น 11 คนได้รวมตัวกันจัดตั้ง “กลุ่มจับตาการปฏิรูปพลังงานไทย” หรือ “จปพ.” โดยมีวัตถุประสงค์สำคัญคือให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบายและวางแผนพัฒนาพลังงานของประเทศอย่างยั่งยืนตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติด้านพลังงานเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน คุ้มครองผู้บริโภค ขจัดผลประโยชน์ทับซ้อน โดยเรื่องเร่งด่วนที่จะนำเสนอต่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) 4 เรื่องสำคัญ คือ 1. ให้ยกเลิกการขึ้นราคาก๊าซหุงต้มหรือแอลพีจีโดยดำเนินการดังนี้
ให้ลดราคาแอลพีจีครัวเรือนที่ขณะนี้อยู่ที่ 22.63 บาทต่อ กก.เท่าภาคขนส่งที่ 21.38 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) เพื่อแก้ไขปัญหาการใช้ข้ามประเภทก่อนเนื่องจากราคาที่เหลื่อมล้ำกัน พร้อมกับยกเลิกมติ ครม.ในสมัยรัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เมื่อ 19 พ.ย. 51 ที่มีการจัดสรรแอลพีจีที่ผลิตในประเทศให้กับกลุ่มปิโตรเคมีใช้เป็นลำดับแรกร่วมกับครัวเรือนออกไปเสียก่อน เพราะกรณีดังกล่าวทำให้มีการนำเข้าแอลพีจีและผลักภาระให้ประชาชนผ่านกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงรับภาระแทน แล้วให้จัดสรรแอลพีจีใหม่ที่ผลิตได้ในอ่าวไทยเป็นทรัพยากรของคนไทยทุกคนต้องจัดสรรให้ประชาชนก่อน
2. ต้องเปิดโอกาสให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในการเสนอข้อมูลและแสดงความคิดเห็นในการปกป้องผลประโยชน์ของตนเองโดยเท่าเทียมกันกับภาครัฐและภาคธุรกิจ ตัวอย่างเช่น การแยกท่อก๊าซธรรมชาติมาเป็นบริษัทใหม่ การขายหุ้น ปตท. เป็นต้น
3. ให้ยกเลิกโครงสร้างราคาน้ำมันเชื้อเพลิงสำเร็จรูปที่อิงราคาสิงคโปร์แล้วบวกค่าพรีเมียมเช่น ค่าขนส่ง ค่าประกันภัย ค่าความสูญเสียระหว่างการขนส่งจากสิงคโปร์มายังโรงกลั่นไทยเพราะมันไม่มีจริง และให้บริษัทน้ำมันเผยแพร่รายงานต้นทุนที่แท้จริงของโรงกลั่นและโรงแยกก๊าซธรรมชาติ
4. ให้ปรับปรุงโครงสร้างของคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ให้มีตัวแทนภาคประชาชนในสัดส่วนที่เหมาะสม เพื่อให้ภาคประชาชนได้ร่วมกำหนดนโยบายและวางแผนพัฒนาพลังงานของไทย
น.ส.บุญยืน ศิริธรรม อดีตวุฒิสมาชิก สมุทรสงคราม กล่าวว่า ยืนยันว่ากลุ่ม จปพ.ไม่ได้เน้นเรื่องราคาพลังงานให้ถูกลงตามที่หลายฝ่ายระบุแต่ต้องการให้ราคานั้นเป็นธรรมต่อผู้บริโภคเพราะที่ผ่านมามีการกำหนดที่ไม่เป็นธรรม และกลุ่ม จปพ.ที่เกิดจากการรวมตัวของภาคประชาชนอย่างแท้จริงส่วนหนึ่งก็ไม่ต้องการให้อีแอบมากระซิบเพื่อกำหนดนโยบายให้เป็นไปในทิศทางที่บิดเบือน
นายอิฐบูรณ์ อ้นวงษา หัวหน้าศูนย์พิทักษ์สิทธิผู้บริโภค มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคพลังงาน กล่าวว่า กรณีของราคาแอลพีจีเป็นกับดักให้นำไปสู่กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงต้องจ่ายชดเชยราคานำเข้ามากขึ้น และที่สุดก็จะถูกมองว่าเพราะมีการกำหนดในราคาที่ต่ำทั้งที่ข้อเท็จจริงแอลพีจีนำเข้าควรเป็นภาระที่ภาคปิโตรเคมีและอุตสาหกรรมควรรับภาระ