คสช.เตรียมตบเท้ารุดเยี่ยมกระทรวงพลังงานศุกร์นี้ (30 พ.ค.) กระทรวงพลังงานเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาเรื่องเร่งด่วนเพียบ 30 เรื่องโดยเร่งด่วนที่ต้องทำทันที ทั้งการรับมือหยุดจ่ายก๊าซ JDA การกู้เงินโปะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่ล่าสุดใช้ตรึงดีเซลเป็นหนี้บานเบอะ รวมถึงการปรับโครงสร้างราคา LPG
นายสุเทพ เหลี่ยมศิริเจริญ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า วันที่ 30 พ.ค.นี้ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ รองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะเดินทางมาตรวจเยี่ยมกระทรวงพลังงานในเวลาประมาณ 14.00 น. ซึ่งการหารือร่วมกับระดับปลัดทุกกระทรวงในวันนี้ (27 พ.ค.) กระทรวงพลังงานได้สรุป 30 โครงการ/งาน ที่จะเสนอ พล.อ.อ.ประจินในฐานะหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ พิจารณา
สำหรับแผนงานที่รายงานแบ่งเป็น 3 ส่วน ได้แก่ โครงงานเร่งด่วนที่สุดต้องดำเนินการทันที 7 เรื่อง โครงงานเร่งด่วนมาก 7 เรื่อง ต้องดำเนินการภายใน 1-6 เดือนข้างหน้า และโครงการ/งานที่ต้องดำเนินงาน 14 เรื่อง สามารถดำเนินงานภายหลัง 6 เดือนได้ เร่งด่วนต้องดำเนินการทันที เช่น รณรงค์ประหยัดพลังงานในกรณีที่แหล่งก๊าซฯ ในพื้นที่ร่วมไทย-มาเลเซีย (เจดีเอ) ปิดซ่อมวันที่ 13 มิถุนายน-10 กรกฎาคม ซึ่งจะขออนุญาตประชุมทำงาน เพราะอาจถูกมองว่าเป็นการชุมนุมเกิน 5 คน, ขอกู้เงินเพื่อนำมาใช้ในกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่ปัจจุบันมีสถานะติดลบกว่า 7,000 ล้านบาท โดยกู้จากธนาคารกรุงไทย และออมสิน เพื่อรองรับค่าใช้จ่ายที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น
การขอความชัดเจนด้านกฎหมายในการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เพราะตามระเบียบแล้วรัฐมนตรีหรือผู้ที่รัฐมนตรีมอบหมายจะต้องเป็นประธานในการประชุม, การขอความชัดเจนเรื่องใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน (รง.4) เนื่องจากกระทรวงอุตสาหกรรมยังไม่ได้แก้บัญชีแนบท้ายกฎกระทรวงที่ออกตาม พ.ร.บ.โรงงาน เพื่อให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับพลังงานไม่ต้องขอ รง.4 ขอผ่อนผันการขนส่งวัตถุระเบิดของผู้ประกอบการจากสนามบินสุวรรณภูมิเพื่อนำไปใช้ในการสำรวจและขุดเจาะปิโตรเลียม เป็นต้น
ส่วนโครงการเร่งด่วนมาก เช่น การอนุมัติแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าแห่งชาติ (พีดีพี) ฉบับใหม่ การเปิดสัมปทานรอบที่ 21 การปรับโครงสร้างราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว (แอลพีจี) เป็นต้น ซึ่งจะต้องหารือต่อไป รวมถึงเรื่องราคาแอลพีจีภาคขนส่งที่ถูกกว่าภาคครัวเรือนที่มีความเสี่ยงด้านความปลอดภัย