ASTVผู้จัการรายวัน- ผู้ค้าแอลพีจีกังวลสูญญากาศรัฐบาลยาวกระทบต่อการปรับขึ้นราคาแอลพีจีขนส่ง 1 เม.ย.นี้หากต้องชะลอไปก่อนจะทำให้ราคาแอลพีจีครัวเรือแพงกว่าทันทีซึ่งจะอื้อให้การลักลอบใช้ข้ามประเภทแถมไม่เป็นธรรมต่อผู้ใช้น้ำมันที่ต้องมาอุดหนุนราคาแอลพีจีให้ต่ำกว่าตลาดโลก
นายชิษณุพงษ์ รุ่งโรจน์งามเจริญ นายกสมาคมผู้ค้าก๊าซปิโตรเลียมเหลว(แอลีจี) เปิดเผยว่า กาปรับขึ้นราคาแอลพีจีภาคขนส่งที่ตรึงไว้ระดับ 21.38 บทต่อกิโลกรัม(กก.) ตามแผนที่คิดไว้เดิมจะมีการทะยอยปรับขึ้นวันที่ 1 เม.ย. 57เพื่อนำไปสู่ราคาเดียวกับแอลพีจีภาคครัวเรือนที่ปัจจุบันทยอยขึ้นเดือนละ 0.50 บาทต่อกก.และจะไปสิ้นสุดที่ราคาเดียวกับภาคขนส่งที่ 24.82 บาทต่อกก.(ราคาต้นทุนโรงแยกก๊าซ) อย่างไรก็ตามการปรับขึ้นภาคขนส่งกระทรวงพลังงานระบุต้องรอรัฐบาลใหม่มาตัดสินใจซึ่งหากเลือกตั้งไม่ทันอาจต้องให้ใช้ราคาเดิมไปก่อนนั้นเห็นว่าจะเกิดปัญหาเพราะราคาแอลพีจีครัวเรือนจะแพงกว่าจะทำให้เกิดการลักลอบใช้ข้ามประเภทและจะส่งเสริมให้คนหันมาใช้แอลพีจีขนส่งเพิ่มขึ้นมาก
“ ยังคาดหวังว่าจะมีรัฐบาลใหม่มาพิจารณาเรื่องนี้เพราะผมเองก็กังวลใจหากจะต้องคงราคาแอลพีจีขนส่งเอาไว้เมื่อถึงเวลาแต่ยังคงขึ้นราคาแอลพีจีตามกรอบเดิมเพิ่มอีก6 บาทต่อกก.ที่ขณะนี้ทยอยขึ้นไปแล้ว 5 ดือนรวม 2.50 บาทต่อกก.เพราะหลักการควรจะดูแลครัวเรือนก่อน แต่หากจะมีผลย้อนหลังแล้วขึ้นแอลพีจีขนส่งพรวดเดียวก็จะกระทบผู้ใช้รถได้ นอกจากนี้รัฐเองที่ผ่านมาก็ระบุว่าจะไม่ส่งเสริมฯใช้ในภาคขนส่งเพราะใช้แอลพีจอย่างไม่มีประสิทธิภาพประกอบกับจะยิ่งเอาเปรียบผู้ใช้น้ำมันเพราะราคาแอลพีจีถูกอุดหนุนราคาด้วยการเก็บเงินมาจากผู้ใช้น้ำมันเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมาจ่าย ”นายชิษณุพงศ์กล่าว
ทั้งนี้เห็นว่ารัฐบาลใหม่มาควรจะพิจารณาแก้ไขปัญหาแอลพีจีภาคขนส่งให้ชัดเจนขึ้นเนื่องจากที่ผ่านมามีการขยายตัวของสถานีบริการอย่างรวดเร็วและการใช้ได้เพิ่มขึ้นอย่างมากทั้งที่รัฐเองไม่ต้องการจะส่งเสริมการใช้เพราะเป็นการเอาเปรียบผู้ใช้น้ำมันที่ต้องมาพยุงราคาให้แม้ว่าจะมีแผนปรับขึ้นราคาแต่ก็ยังคงต่ำกว่าน้ำมันแต่การปรับขึ้นราคาก็มีปัญหาที่สูงกว่าครัวเรือนไม่ได้เพราะจะเกิดการลักลอบใช้ข้ามประเภททันทีดังนั้นเห็นว่าควรใช้วีธีทางอ้อมผ่านการเก็บภาษีป้ายวงกลมสำหรับรถยนต์ที่ติดแอลพีจีเพิ่มแทนเพื่อชะลอการใช้
สำหรับความคืบหน้าผู้ที่มีสิทธิเข้าโครงการลดผลกระทบการปรับขึ้นราคาแอลพีจีครัวเรือนขณะนี้ทั้งร้านค้าที่ยังไม่สนใจเข้าร่วมโครงการและประชาชนผู้มีสิทธิ์ต่างทยอยเข้ามาร่วมโครงการมากขึ้นอย่างต่อเนื่องเพราะราคาได้ปรับแล้วถึง 2.50 บ.และเชื่อว่าจะมีการเข้ามาใช้สิทธิ์มากขึ้นต่อเนื่องเพราะราคาจะสูงขึ้นเรื่อยๆ ส่วนกรณีการชุมนุมทางการเมืองในเขตกทม.นั้นร้านแอลพีจีจะพิจารณาถึงความปลอดภัยเองว่าควรจะปิดหรือไม่แต่จะไม่กระทบต่อการบริการเพราะส่วนใหญ่เป็นการโทรสั่งซื้อ
นายชิษณุพงษ์ รุ่งโรจน์งามเจริญ นายกสมาคมผู้ค้าก๊าซปิโตรเลียมเหลว(แอลีจี) เปิดเผยว่า กาปรับขึ้นราคาแอลพีจีภาคขนส่งที่ตรึงไว้ระดับ 21.38 บทต่อกิโลกรัม(กก.) ตามแผนที่คิดไว้เดิมจะมีการทะยอยปรับขึ้นวันที่ 1 เม.ย. 57เพื่อนำไปสู่ราคาเดียวกับแอลพีจีภาคครัวเรือนที่ปัจจุบันทยอยขึ้นเดือนละ 0.50 บาทต่อกก.และจะไปสิ้นสุดที่ราคาเดียวกับภาคขนส่งที่ 24.82 บาทต่อกก.(ราคาต้นทุนโรงแยกก๊าซ) อย่างไรก็ตามการปรับขึ้นภาคขนส่งกระทรวงพลังงานระบุต้องรอรัฐบาลใหม่มาตัดสินใจซึ่งหากเลือกตั้งไม่ทันอาจต้องให้ใช้ราคาเดิมไปก่อนนั้นเห็นว่าจะเกิดปัญหาเพราะราคาแอลพีจีครัวเรือนจะแพงกว่าจะทำให้เกิดการลักลอบใช้ข้ามประเภทและจะส่งเสริมให้คนหันมาใช้แอลพีจีขนส่งเพิ่มขึ้นมาก
“ ยังคาดหวังว่าจะมีรัฐบาลใหม่มาพิจารณาเรื่องนี้เพราะผมเองก็กังวลใจหากจะต้องคงราคาแอลพีจีขนส่งเอาไว้เมื่อถึงเวลาแต่ยังคงขึ้นราคาแอลพีจีตามกรอบเดิมเพิ่มอีก6 บาทต่อกก.ที่ขณะนี้ทยอยขึ้นไปแล้ว 5 ดือนรวม 2.50 บาทต่อกก.เพราะหลักการควรจะดูแลครัวเรือนก่อน แต่หากจะมีผลย้อนหลังแล้วขึ้นแอลพีจีขนส่งพรวดเดียวก็จะกระทบผู้ใช้รถได้ นอกจากนี้รัฐเองที่ผ่านมาก็ระบุว่าจะไม่ส่งเสริมฯใช้ในภาคขนส่งเพราะใช้แอลพีจอย่างไม่มีประสิทธิภาพประกอบกับจะยิ่งเอาเปรียบผู้ใช้น้ำมันเพราะราคาแอลพีจีถูกอุดหนุนราคาด้วยการเก็บเงินมาจากผู้ใช้น้ำมันเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมาจ่าย ”นายชิษณุพงศ์กล่าว
ทั้งนี้เห็นว่ารัฐบาลใหม่มาควรจะพิจารณาแก้ไขปัญหาแอลพีจีภาคขนส่งให้ชัดเจนขึ้นเนื่องจากที่ผ่านมามีการขยายตัวของสถานีบริการอย่างรวดเร็วและการใช้ได้เพิ่มขึ้นอย่างมากทั้งที่รัฐเองไม่ต้องการจะส่งเสริมการใช้เพราะเป็นการเอาเปรียบผู้ใช้น้ำมันที่ต้องมาพยุงราคาให้แม้ว่าจะมีแผนปรับขึ้นราคาแต่ก็ยังคงต่ำกว่าน้ำมันแต่การปรับขึ้นราคาก็มีปัญหาที่สูงกว่าครัวเรือนไม่ได้เพราะจะเกิดการลักลอบใช้ข้ามประเภททันทีดังนั้นเห็นว่าควรใช้วีธีทางอ้อมผ่านการเก็บภาษีป้ายวงกลมสำหรับรถยนต์ที่ติดแอลพีจีเพิ่มแทนเพื่อชะลอการใช้
สำหรับความคืบหน้าผู้ที่มีสิทธิเข้าโครงการลดผลกระทบการปรับขึ้นราคาแอลพีจีครัวเรือนขณะนี้ทั้งร้านค้าที่ยังไม่สนใจเข้าร่วมโครงการและประชาชนผู้มีสิทธิ์ต่างทยอยเข้ามาร่วมโครงการมากขึ้นอย่างต่อเนื่องเพราะราคาได้ปรับแล้วถึง 2.50 บ.และเชื่อว่าจะมีการเข้ามาใช้สิทธิ์มากขึ้นต่อเนื่องเพราะราคาจะสูงขึ้นเรื่อยๆ ส่วนกรณีการชุมนุมทางการเมืองในเขตกทม.นั้นร้านแอลพีจีจะพิจารณาถึงความปลอดภัยเองว่าควรจะปิดหรือไม่แต่จะไม่กระทบต่อการบริการเพราะส่วนใหญ่เป็นการโทรสั่งซื้อ