ปตท.สผ.จ่อลดถือหุ้นแหล่งปิโตรเลียม เลี่ยงความเสี่ยง-ปรับเป้ายอดขายเพิ่ม

ปตท.สผ.ลั่นลดการถือครองหุ้นแหล่งปิโตรเลียมที่ถืออยู่ 100% เพื่อลดความเสี่ยงในการพัฒนาโครงการ รวมทั้งนำเงินไปซื้อแหล่งใหม่เพิ่มเติม เผยปรับเป้าเพิ่มยอดขายปิโตรเลียมปีนี้แตะ 3.30 แสนบาร์เรล/วัน หลังซื้อ HESS ในไทย ส่วนแหล่งซอติก้าป้อนขายก๊าซฯ เข้าไทยล่าช้าหลายเดือน เหตุเจอมรสุมและปัญหาการวางท่อบนบก

นายยงยศ ครองพาณิชย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการเงินและกลยุทธ์เทคโนโลยีสารสนเทศ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีแผนจะลดสัดส่วนการถือครองหุ้นในแหล่งปิโตรเลียมที่ถือหุ้นอยู่ 100% เพื่อลดความเสี่ยงในการลงทุนสำรวจและผลิตปิโตรเลียม ส่วนจะลดสัดส่วนหุ้นลงมากน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับผลประโยชน์สูงสุดที่บริษัทได้รับ โดยปัจจุบัน ปตท.ถือหุ้นทั้งหมดในแหล่งมอนทารา แหล่งแคชเมเปิล ที่ออสเตรเลีย แหล่ง MD7-8 ที่ประเทศพม่า และแหล่งออยล์ แซนด์เคเคดี ในประเทศแคนาดา

ขณะเดียวกันก็แสวงหาโอกาสการลงทุนเพิ่มเติมทั้งในและต่างประเทศ โดยเน้นแหล่งปิโตรเลียมที่มีการพัฒนาแล้วเพื่อเพิ่มปริมาณสำรองปิโตรเลียมเพิ่มขึ้น ล่าสุดบริษัทสำรวจและผลิตปิโตรเลียมสัญชาติอเมริกันแห่ขายหุ้นในแหล่งปิโตรเลียมในประเทศต่างๆ เพื่อนำเม็ดเงินกลับไปลงทุนในสหรัฐฯ หลังเศรษฐกิจฟื้นตัว ซึ่งปัจจุบันมีโครงการที่อยู่ระหว่างการพิจารณาเพื่อเข้าไปร่วมลงทุน 30-40 โครงการ

นายยงยศกล่าวต่อไปว่า บริษัทฯ ได้ปรับเพิ่มปริมาณการขายปิโตรเลียมปีนี้เป็น 3.30 แสนบาร์เรลต่อวัน จากเดิมที่เคยตั้งเป้าหมายไว้ 3.25 แสนบาร์เรล/วัน เนื่องจากมีกำลังการผลิตน้ำมันดิบจากแหล่งมอนทารา ออสเตรเลียเฉลี่ย 1.8 หมื่นบาร์เรล/วัน แหล่งซอติก้าที่พม่าเริ่มผลิตก๊าซฯ ได้แล้ว และการซื้อกิจการ Hess ในไทย ทำให้รับรู้ปริมาณการผลิตในแหล่งภูฮ่อมและแหล่งไพลินเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 1 หมื่นบาร์เรล/วัน

โดยไตรมาส 2 นี้กำลังการผลิตน้ำมันดิบในแหล่งมอนทาราเพิ่มขึ้นเป็น 2.5 หมื่นบาร์เรล/วัน สูงกว่าไตรมาส 1/2557 ที่มีกำลังการผลิต 1.2 หมื่นบาร์เรล/วัน ส่วนโครงการซอติก้า ที่พม่าได้มีการจ่ายก๊าซฯ ขายเข้าพม่าแล้ว ส่วนก๊าซฯ ที่จะป้อนเข้าไทย 240 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วันคาดว่าจะจ่ายได้ในไตรมาส 3/2557 ซึ่งล่าช้ากว่ากำหนดเดิมที่ระบุไว้ในเดือน เม.ย. 2557 เนื่องจากติดปัญหามรสุม และการวางท่อบนบกเป็นไปได้ลำบาก

ส่วนความคืบหน้าการเข้าไปลงทุนสำรวจและผลิตปิโตรเลียมที่บราซิลนั้น คาดว่าภายในปีนี้จะได้รับอนุมัติจากรัฐบาลบราซิลในการเข้าไปร่วมทุนในแหล่งปิโตรเลียม สัดส่วนถือหุ้น 25% BG Brasil ถือหุ้น 75% เช่นเดียวกับแหล่งก๊าซในโมซัมบิกที่คาดว่าจะสรุปผลสำรวจปริมาณสำรองปิโตรเลียมได้ในปลายปีนี้

ช่วงต้นปี 2557 ปตท.สผ.ได้ตั้งเป้าหมายยอดขายปิโตรเลียมอยู่ที่ 3.37 แสนบาร์เรล/วัน โตกว่าปีก่อนที่มียอดขายปิโตรเลียมเฉลี่ย 2.92 แสนบาร์เรล/วัน แต่หลังจากนั้นได้ปรับลดเป้าหมายยอดขายลงเหลือ 3.25 แสนบาร์เรล/วัน เนื่องจากกำลังการผลิตแหล่งมอนทารา ที่ออสเตรเลียไม่ได้ตามเป้า และปรับการถือหุ้นในโครงการออยล์ แซนด์ เคเคดีที่แคนาดา ทำให้กำลังการผลิตจากแหล่งนี้หายไป

นายยงยศกล่าวถึงผลกระทบจากการประกาศกฎอัยการศึกว่าไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากแหล่งผลิตฯ อยู่ในทะเล และบนบกอยู่ห่างจากชุมชน ซึ่งความต้องการใช้ก๊าซฯ จะน้อยลงหรือไม่ขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจ แต่บริษัทฯ มีสัญญาซื้อขายก๊าซฯ ระยะยาวกับ ปตท.อยู่แล้ว หากความต้องการใช้ก๊าซฯ ในประเทศลดลง ทาง ปตท.จะลดการนำเข้าก๊าซ LNG ที่มีราคาแพงลงแทนที่จะปรับลดการซื้อก๊าซฯ จากบริษัทฯ

นายฐิติพงษ์ จุลพรศิริดี ผู้จัดการฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) (PTTGC ) กล่าวว่า บริษัทไม่ได้รับผลกระทบจากการประกาศกฎอัยการศึก เพราะผลิตภัณฑ์บริษัทอิงราคาตลาดโลกและกึ่งหนึ่งของกำลังการผลิตส่งออกไปต่างประเทศ หากปัญหาการเมืองไม่กระทบต่อการนำเข้าและส่งออกก็ไม่น่าจะมีผลกระทบใดๆ รวมถึงแผนการลงทุน 5 ปีของบริษัทฯ วงเงินรวม 4,500 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งปีนี้จะลงทุน 790 ล้านเหรียญสหรัฐ แบ่งเป็นการลงทุนโครงการใหม่ 540 ล้านเหรียญสหรัฐ และการซ่อมบำรุงโรงงาน 250 ล้านเหรียญสหรัฐ

ส่วนความเสี่ยงของเครดิตประเทศที่จะถูกปรับลดลงนั้น ขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณบ่งชี้การปรับลดอันดับเครดิตประเทศลงแต่อย่างใด