“ไออาร์พีซี” ตั้งเป้าค่าการกลั่นรวมเฉลี่ยปีนี้พุ่ง 9 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ดีกว่าปีก่อน หลังเพิ่มปริมาณใช้น้ำมันดิบในประเทศเป็น 2.5-3.5 หมื่นบาร์เรล/วัน ลุ้นปีนี้สรุปโครงการร่วมทุนกับ PTTGC
นายกฤช ชัยเรืองยศ ผู้จัดการฝ่ายการเงินและนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) (IRPC) เปิดเผยว่า ในปีนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายค่าการกลั่นรวมเฉลี่ย (GIM) อยู่ที่ 9 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล (ไม่รวมสต๊อกน้ำมัน) สูงขึ้นกว่าปีก่อนที่มี GIM อยู่ระดับ 6.9 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ซึ่งเป็นผลมาจากโครงการเพิ่มประสิทธิภาพ (DELTA) การเพิ่มการใช้น้ำมันดิบในประเทศจากเดิม 1.5หมื่นบาร์เรล/วัน เป็น 2.5-3.5 หมื่นบาร์เรล/วัน และส่วนต่างราคาปิโตรเคมีดีขึ้น โดยเฉพาะโอเลฟินส์
“ปีนี้ ปตท.จะขายน้ำมันดิบในประเทศให้ IRPC เพิ่มขึ้นเป็น 2.5 หมื่นบาร์เรล/วัน แต่บริษัทฯ จะเจรจาขอเพิ่มเป็น 3.5 หมื่นบาร์เรล/วัน ทำให้มาร์จิ้นค่าการกลั่นรวมสูงขึ้นอีก 50-60 เซ็นต์ รวมกับโครงการ Delta ที่ช่วยเพิ่มมาร์จิ้นอีก 1 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และสเปรดปิโตรฯเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ GIM เฉลี่ยปีนี้เพิ่มขึ้น 2 ดอลลาร์”
นายกฤช กล่าวต่อไปว่า ในปีนี้บริษัทฯ จะใช้เงินลงทุนในโครงการฟินิกซ์อีก 500 ล้านเหรียญสหรัฐ และปีถัดไปอีก 200 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยส่วนใหญ่เป็นการลงทุนโครงการ UHV ซึ่งเป็นโครงการลงทุนขนาดใหญ่สุดภายใต้ฟินิกซ์ คาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาส 3/2558
โครงการ UHV จะเปลี่ยนน้ำมันเตาที่มีราคาถูกกว่าน้ำมันดิบไปเป็นโพรพิลีน และเฮฟวี แนฟธา ซึ่งมีราคาสูงกว่าน้ำมันดิบ ทำให้ค่าการกลั่นของไออาร์พีซีเพิ่มขึ้นอีก 2-4 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และยังทำให้ปริมาณน้ำมันเตาที่ผลิตได้ลดลงจาก 25% ของกำลังการกลั่นเหลือเพียง 8% ใกล้เคียงโรงกลั่นน้ำมันอื่นในประเทศ
ทั้งนี้ ไออาร์พีซี มีแผนลงทุนโครงการต่อยอดจากโครงการฟินิกซ์ 6 โครงการ ใช้เงินลงทุน 6.5 หมื่นล้านบาท โดยบริษัทฯ อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการร่วมกับ บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) เพื่อดึงเข้ามาร่วมทุนในโครงการใหม่นี้ เช่น โครงการลงทุนผลิตพาราไซลีน (PX) 1.2 ล้านตัน โดยใช้เฮฟวี่ แนฟธาจากโครงการ UHV ใช้เงินลงทุน 1.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ โครงการผลิตโพลีโพรพิลีน คอมปาวด์ เป็นต้น คาดว่าจะได้ข้อสรุปในปีนี้เพื่อไม่ให้เกิดความล่าช้าในการลงทุน โดย IRPC จะถือหุ้นในโครงการร่วมทุนนี้ 49% และ PTTGC 51%
ส่วนการควบรวมกิจการกับ PTTGC นั้น นายกฤช กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ใช่ช่วงเวลาที่เหมาะสม เพราะบริษัทฯ มีการลงทุนโครงการใหญ่ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ซึ่งจะทำให้ผลประกอบการบริษัทฯ ดีขึ้นในอนาคต คงต้องรอให้โครงการ UHV แล้วเสร็จก่อน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการตีมูลค่าหุ้น เพราะราคาหุ้น IRPC ยังไม่สะท้อนโครงการ UHV โดยมูลค่าทางบัญชี (BV) อยู่ที่ 3.60 บาท/หุ้น แต่ราคาตลาดที่ 3.30 บาท ต่ำกว่า BV เพราะผลประกอบการยังไม่ดี ขณะที่ PTTGC มี BV ที่ 50 กว่าบาท ขณะที่ราคาหุ้น 70 กว่าบาท ซึ่งอิงผลประกอบการ
นายทิติพงษ์ จุลพรศิริดี ผู้จัดการฝ่าย หน่วยงานการเงินองค์กรและนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทฯ ได้ทำข้อตกลงเอ็มโอยูกับไออาร์พีซีถึงโอกาสการลงทุนธุรกิจปลายน้ำร่วมกันในช่วงไตรมาส 2/56 ซึ่งขณะนี้บริษัทฯ ได้มีการศึกษาร่วมกันในบางโครงการ แต่ยังไม่มีข้อสรุปในเร็วๆ นี้ เพราะต้องใช้เวลาในการศึกษาความเป็นได้ของโครงการ จึงเร็วเกินไปที่จะสรุปความร่วมมือ
นายกฤช ชัยเรืองยศ ผู้จัดการฝ่ายการเงินและนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) (IRPC) เปิดเผยว่า ในปีนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายค่าการกลั่นรวมเฉลี่ย (GIM) อยู่ที่ 9 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล (ไม่รวมสต๊อกน้ำมัน) สูงขึ้นกว่าปีก่อนที่มี GIM อยู่ระดับ 6.9 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ซึ่งเป็นผลมาจากโครงการเพิ่มประสิทธิภาพ (DELTA) การเพิ่มการใช้น้ำมันดิบในประเทศจากเดิม 1.5หมื่นบาร์เรล/วัน เป็น 2.5-3.5 หมื่นบาร์เรล/วัน และส่วนต่างราคาปิโตรเคมีดีขึ้น โดยเฉพาะโอเลฟินส์
“ปีนี้ ปตท.จะขายน้ำมันดิบในประเทศให้ IRPC เพิ่มขึ้นเป็น 2.5 หมื่นบาร์เรล/วัน แต่บริษัทฯ จะเจรจาขอเพิ่มเป็น 3.5 หมื่นบาร์เรล/วัน ทำให้มาร์จิ้นค่าการกลั่นรวมสูงขึ้นอีก 50-60 เซ็นต์ รวมกับโครงการ Delta ที่ช่วยเพิ่มมาร์จิ้นอีก 1 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และสเปรดปิโตรฯเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ GIM เฉลี่ยปีนี้เพิ่มขึ้น 2 ดอลลาร์”
นายกฤช กล่าวต่อไปว่า ในปีนี้บริษัทฯ จะใช้เงินลงทุนในโครงการฟินิกซ์อีก 500 ล้านเหรียญสหรัฐ และปีถัดไปอีก 200 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยส่วนใหญ่เป็นการลงทุนโครงการ UHV ซึ่งเป็นโครงการลงทุนขนาดใหญ่สุดภายใต้ฟินิกซ์ คาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาส 3/2558
โครงการ UHV จะเปลี่ยนน้ำมันเตาที่มีราคาถูกกว่าน้ำมันดิบไปเป็นโพรพิลีน และเฮฟวี แนฟธา ซึ่งมีราคาสูงกว่าน้ำมันดิบ ทำให้ค่าการกลั่นของไออาร์พีซีเพิ่มขึ้นอีก 2-4 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และยังทำให้ปริมาณน้ำมันเตาที่ผลิตได้ลดลงจาก 25% ของกำลังการกลั่นเหลือเพียง 8% ใกล้เคียงโรงกลั่นน้ำมันอื่นในประเทศ
ทั้งนี้ ไออาร์พีซี มีแผนลงทุนโครงการต่อยอดจากโครงการฟินิกซ์ 6 โครงการ ใช้เงินลงทุน 6.5 หมื่นล้านบาท โดยบริษัทฯ อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการร่วมกับ บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) เพื่อดึงเข้ามาร่วมทุนในโครงการใหม่นี้ เช่น โครงการลงทุนผลิตพาราไซลีน (PX) 1.2 ล้านตัน โดยใช้เฮฟวี่ แนฟธาจากโครงการ UHV ใช้เงินลงทุน 1.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ โครงการผลิตโพลีโพรพิลีน คอมปาวด์ เป็นต้น คาดว่าจะได้ข้อสรุปในปีนี้เพื่อไม่ให้เกิดความล่าช้าในการลงทุน โดย IRPC จะถือหุ้นในโครงการร่วมทุนนี้ 49% และ PTTGC 51%
ส่วนการควบรวมกิจการกับ PTTGC นั้น นายกฤช กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ใช่ช่วงเวลาที่เหมาะสม เพราะบริษัทฯ มีการลงทุนโครงการใหญ่ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ซึ่งจะทำให้ผลประกอบการบริษัทฯ ดีขึ้นในอนาคต คงต้องรอให้โครงการ UHV แล้วเสร็จก่อน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการตีมูลค่าหุ้น เพราะราคาหุ้น IRPC ยังไม่สะท้อนโครงการ UHV โดยมูลค่าทางบัญชี (BV) อยู่ที่ 3.60 บาท/หุ้น แต่ราคาตลาดที่ 3.30 บาท ต่ำกว่า BV เพราะผลประกอบการยังไม่ดี ขณะที่ PTTGC มี BV ที่ 50 กว่าบาท ขณะที่ราคาหุ้น 70 กว่าบาท ซึ่งอิงผลประกอบการ
นายทิติพงษ์ จุลพรศิริดี ผู้จัดการฝ่าย หน่วยงานการเงินองค์กรและนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทฯ ได้ทำข้อตกลงเอ็มโอยูกับไออาร์พีซีถึงโอกาสการลงทุนธุรกิจปลายน้ำร่วมกันในช่วงไตรมาส 2/56 ซึ่งขณะนี้บริษัทฯ ได้มีการศึกษาร่วมกันในบางโครงการ แต่ยังไม่มีข้อสรุปในเร็วๆ นี้ เพราะต้องใช้เวลาในการศึกษาความเป็นได้ของโครงการ จึงเร็วเกินไปที่จะสรุปความร่วมมือ