ส.อ.ท.ส่งสัญญาณเตือนการเมืองไม่ยุติในสิ้นปีนี้จะเห็นผู้ประกอบการ SMEs ทยอยเจ๊งแบบใบไม้ร่วงนับแสนราย ธุรกิจเตรียมปรับแผนไตรมาส 3 ส่อเห็นโละคนงานออก คนตกงานพุ่งแน่ และวิกฤตเศรษฐกิจจะลามไปถึงปี 2558 หวังให้การเมืองส่งสัญญาณจะมีรัฐบาลที่มีอำนาจเต็มภายใน 2-3 เดือนก่อนเศรษฐกิจจะดิ่งหนัก
นายเกรียงไกร เธียรนุกูล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า หากภาพการเมืองไทยไม่มีสัญญาณชัดเจนว่าจะมีรัฐบาลที่มีอำนาจเต็มได้ภายในสิ้นปีนี้คาดว่าผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและย่อม (เอสเอ็มอี) จะทยอยปิดกิจการดั่งใบไม้ร่วงและสิ้นปีอาจจะเห็นการปิดกิจการนับแสนราย ขณะที่ไตรมาส 3 โรงงานที่พึ่งตลาดในประเทศเป็นหลักจะต้องลดกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นตามแรงซื้อที่ลดลงอีก ทำให้โอกาสเห็นการปลดแรงงานส่วนหนึ่งออกจะมีสูงซึ่งยังไม่รวมกับบัณฑิตใหม่ที่จบมาจะตกงานอีก 1.5 แสนคน
“เรามองว่าการเมืองคงจะยืดเยื้อไปอีกนานหากไม่สามารถเจรจาเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่ายได้ และวิกฤตการเมืองเองก็ชี้ชัดว่ากระทบดัชนีชี้วัดต่างๆ ลดลงทุกตัว เอสเอ็มอีเวลานี้มีปัญหาขาดสภาพคล่องหนัก ส.อ.ท.เองได้หารือกับสมาคมธนาคารที่จะช่วยเหลือให้มีการขยายสินเชื่อออกไปอีกสำหรับเอสเอ็มอีที่มีคุณภาพ และกำลังดูว่าเป็นไปได้ไหมที่จะลดดอกเบี้ยลงให้อีก พร้อมกับการหารือกับบรรษัทค้ำประกันสินเชื่อขนาดย่อม หรือ บสย. ในการเพิ่มวงเงินค้ำประกันให้เพื่อประคองธุรกิจ รวมถึงเตรียมจัดคาราวานร่วมกันไปขายสินค้าให้เพื่อนบ้านที่มีชายแดนติดไทย” นายเกรียงไกรกล่าว
นายวัลลภ วิตนากร กล่าวว่า ภายใน 2-3 เดือนนี้หากไม่มีสัญญาณใดๆ ให้เห็นภาพที่ชัดเจนว่าไทยจะสามารถได้ข้อตกลงร่วมกันทุกฝ่ายในการเดินหน้าไปสู่การมีรัฐบาลใหม่ได้ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบใดก็ตามคาดว่าจะส่งผลให้ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ต้องหันมาปรับแผนธุรกิจใหม่อีกครั้งเพื่อรองรับแรงซื้อที่จะยังคงลดลงต่อเนื่อง การขยายการลงทุนและการลงทุนใหม่ก็จะยังคงต้องชะลอออกไป อย่างไรก็ตาม หากที่สุดภายในสิ้นปีนี้ไม่สามารถมีรัฐบาลที่มีอำนาจเต็มได้เศรษฐกิจไทยปีนี้จะติดลบและจะลามไปยังปี 2558 ให้ทรุดตัวต่อเนื่องได้อีก
“เวลานี้มีเวทีที่จะหารือและเจรจากันแต่ดูเหมือนว่ายังไม่มีคำตอบว่าจะไม่มีปัญหาการยอมรับเกิดขึ้นหรือไม่ ซึ่งระยะนี้เศรษฐกิจไทยเองก็เริ่มถดถอยแล้ว ถ้า 2-3 เดือนนี้มีข้อยุติว่าจะเดินไปในทางใดความเชื่อมั่นก็จะกลับมา และหากภาพชัดเจนว่าจะมีรัฐบาลเต็มอำนาจได้ความเชื่อมั่นก็จะเพิ่มขึ้นอีก แต่ตรงกันข้ามเศรษฐกิจก็ย่อมจะถดถอยหนัก เพราะงบประมาณภาครัฐบาลที่จะมากระตุ้นเศรษฐกิจก็จะไม่มี ทุกอย่างก็จะเดินทางมุ่งไปสู่ภาวะชะลอตัวและถดถอยลงเรื่อยๆ แน่นอนว่าที่สุดจะเห็นคนไทยตกงานจำนวนมาก” นายวัลลภกล่าว