“สยามดนตรียามาฮ่า” เผยปี 56 รายได้สูงถึง 1.5 พันล้านบาท ตั้งเป้าปี 57 รายได้เพิ่มขึ้น 5% พร้อมขยายสาขาครบ 100 แห่งในปี 58 ชูกลยุทธ์การตลาดต้อนรับ AEC มุ่งสู่ความเป็นเลิศทางธุรกิจดนตรี ปรับภาพลักษณ์โรงเรียนดนตรีใหม่เป็น “โรงเรียนดนตรียามาฮ่า” พร้อมเปิดตัว “บุรินทร์ บุญวิสุทธิ์” Yamaha Brand Ambassador คนแรกในรอบ 48 ปี
นางสาวประนัปดา พรประภา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สยามดนตรียามาฮ่า จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัทฯ ถือเป็นผู้นำด้านธุรกิจดนตรีตัวจริง โดยแบ่งการดำเนินธุรกิจออกเป็น 2 ส่วนคือ (1) ธุรกิจนำเข้าและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องดนตรี เครื่องเสียง แบรนด์ยามาฮ่า จากประเทศญี่ปุ่น แบ่งเป็นกลุ่มเครื่องดนตรี (Musical Instruments) ซึ่งยามาฮ่าเป็นผู้นำในตลาดเกือบทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นเปียโน คียบอร์ด กีตาร์ กลอง เครื่องเป่า เครื่องสาย และอื่นๆ, กลุ่มเครื่องเสียงโปรออดิโอ (Professional Audio) งานระบบเสียง สำหรับงานติดตั้งในและนอกอาคาร งานสตูดิโอ งานคอนเสิร์ต ฯลฯ และกลุ่ม Audio & Visual เครื่องเสียงบ้าน โฮมเธียเตอร์ เครื่องเสียงไฮไฟ ฯลฯ (2) ธุรกิจด้านดนตรีศึกษา การบริหารโรงเรียนดนตรียามาฮ่าในเครือข่ายทั่วประเทศด้วยสถาบันดนตรียามาฮ่าซึ่งคอยควบคุมดูแลคุณภาพการเรียนการสอน รวมถึงหลักสูตรที่ใช้ในโรงเรียน
ในปีนี้บริษัทฯ มีนโยบายที่จะก้าวสู่ความเป็นเลิศมากขึ้นจึงมุ่งเน้นไปที่การปรับภาพลักษณ์โรงเรียนดนตรีในเครือข่ายให้ดูทันสมัยและเป็นมาตรฐานเดียวกันกับสาขาในต่างประเทศอีกกว่า 45 ประเทศทั่วโลก เพื่อต้อนรับ AEC และสอดคล้องกับการเติบโตของธุรกิจโรงเรียนดนตรีทั้งในและต่างประเทศ ทั้งยังเป็นการรองรับการไหลเวียนของนักเรียนและครูหลักสูตรยามาฮ่าจากประเทศต่างๆ ที่จะเดินทางและเชื่อมโยงเข้าหากันมากขึ้น ทั้งด้านการเรียนการสอนและการสอบเกรดเพิ่มคุณภาพการเรียนดนตรี เพื่อก้าวสู่ความเป็นเลิศทางด้านดนตรีศึกษา (One brand One Standard)
“เรามีแผนปรับภาพลักษณ์ให้ดูเป็นสากลมากขึ้น ทั้งเรื่องของการเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น YAMAHA MUSIC SCHOOL หรือ โรงเรียนดนตรียามาฮ่า และมีแผนที่จะปรับภาพลักษณ์โรงเรียนดนตรีสาขาต่างๆ ที่มีอยู่ทั่วประเทศกว่า 86 สาขา ให้เป็น One brand One standard คุณภาพเดียวกันหมด ทั้งสถานที่ การบริการ และการเรียนการสอน”
ขณะเดียวกันยังได้เปิดตัว “Yamaha Brand Ambassador” คนแรกในรอบ 48 ปีที่ก่อตั้งบริษัท สยามดนตรียามาฮ่า จำกัด คือ “บุรินทร์ บุญวิสุทธิ์” ซึ่งเป็นนักร้อง นักแต่งเพลง และคนดนตรีที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีคุณสมบัติเหมาะและครอบคลุมกับทุกไลน์ธุรกิจดนตรีของยามาฮ่า เพื่อมาเป็นตัวแทนและทูตทางดนตรี บอกเล่าเรื่องราวความเป็นยามาฮ่า สร้างการรับรู้ และการจดจำแบรนด์ “ยามาฮ่า” ในทุกไลน์ธุรกิจ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Yamaha Live with Music” (ยามาฮ่ามีชีวิตกับดนตรี)
ด้าน นายสมชาย สืบบุญศรีพงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามดนตรียามาฮ่า จำกัด กล่าวถึงผลการดำเนินงานประจำปี 2556 ว่า บริษัทฯ มีผลประกอบการภาพรวมอยู่ที่ 1.5 พันล้านบาท เติบโตขึ้นมากกว่า 40% ภายในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (2553-2555) โดยในปี 2557 บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายโตขึ้น 5% พร้อมปรับแผนกลยุทธ์ทางการตลาดโดยจะเน้นที่โรงเรียนดนตรีมากขึ้น โดยในส่วนของธุรกิจด้านดนตรีศึกษา โรงเรียนดนตรียามาฮ่า ถือว่ามีจุดแข็งอยู่ที่หลักสูตรและระบบการเรียนการสอนที่สมบูรณ์แบบที่สุดในเมืองไทย ด้วยระบบ “Yamaha Music Worldwide Education System” ที่เป็นหลักสูตรมาตรฐานระดับโลกที่ได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องจาก Yamaha Music Foundation ประเทศญี่ปุ่น และใช้สอนอยู่ในโรงเรียนดนตรียามาฮ่ามากกว่า 45 ประเทศทั่วโลก ครอบคลุมนักเรียน Yamaha ทั่วโลกกว่า 8 แสนคน โดยในปีนี้ได้มีการเพิ่มหลักสูตรดนตรีที่สอนด้วยภาษาอังกฤษ พร้อมเพิ่มครูต่างชาติเพื่อรองรับตลาด AEC
ขณะเดียวกันยังมีหลักสูตรไฮไลต์ซึ่งเป็นโรงเรียนดนตรีที่เดียวที่มีหลักสูตรนี้ในเมืองไทยคือ หลักสูตรดนตรีสำหรับเด็กเล็ก JMC (Junior Music Course) ตั้งแต่อายุ 3-6 ขวบ เน้นการเรียนดนตรีแบบองค์รวมและบูรณาการควบคู่กับฝึกพัฒนาเด็กโดยใช้การเล่นดนตรีเข้ามาเป็นตัวช่วยสร้างเสริมพัฒนาการของเด็กเล็กในแต่ละวัย ซึ่งจะสอนโดยคุณครูที่ผ่านเกณฑ์การทดสอบขั้นสูงเท่านั้น
นอกจากนี้ยังมีแผนการขยายสาขาเพิ่มเติมจากปัจุบัน 86 สาขาทั่วประเทศเป็น 93 สาขาภายในสิ้นปี 2557 และเพิ่มเป็น 100 สาขาภายในปี 2558 พร้อมตั้งเป้านักเรียนเพิ่มขึ้นอีก 10% ภายในปี 2557 จากเดิมที่มีอยู่กว่า 80% ของตลาดรวมทั้งหมดในปีที่ผ่านมา รวมถึงการจัดการแข่งขันความสามารถทางดนตรีของนักเรียนในเครือข่ายโรงเรียนดนตรียามาฮ่าที่มีการจัดมาอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลา 30 ปี เช่น Yamaha Thailand Music Festival, Yamaha Junior Original Concert และ Electone Festival เพื่อคัดเลือกเยาวชนไปแข่งขันต่อในระดับภูมิภาคเชีย และระดับโลก ซึ่งทุกประเทศจะมีการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันเป็นเจ้าภาพ เช่น งาน Asia Pacific Electone Festival, Asia Pacific Original Concert, Asian Beats และ Yamaha Electone Concours
ส่วนแผนการตลาดของธุรกิจเครื่องดนตรีและเครื่องเสียงยามาฮ่า มีการแนะนำสินค้าใหม่ในแต่ละกลุ่มผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี เน้นการทำตลาดผ่านกิจกรรมที่เน้นการเข้าถึงกลุ่มลูกค้า โดยเฉพาะระดับภูมิภาค ทั้งการจัดแสดงสินค้า การทำ Workshop การจัดกิจกรรมดนตรี และอื่นๆ ขณะที่ในด้านการลงทุนในปี 2557 บริษัทฯ จะเปิดโชว์รูมเครื่องดนตรีใหม่ 2 แห่งเพิ่มเติมจากเดิมที่มีอยู่ 12 แห่งคือ Central Embassy และ Maneeya Building พร้อมการปรับปรุงระบบการจัดส่งสินค้าเพื่อเพิ่มความสามารถในการบริการแก่ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายเครื่องดนตรีและเครื่องเสียงยามาฮ่าทั่วประเทศ