“เวิร์คพ้อยท์” ยิ้มทีวีดิจิตอลไปได้สวย หลังเปิดช่อง “เวิร์คพ้อยท์ ครีเอทีฟ ทีวี” ด้วยคอนเทนต์ที่แข็งแกร่ง คาดคืนทุน 2 ปี ล่าสุดส่ง “เวิร์คไร้ท์” จัดงานไทยแลนด์พาวิเลียนในอิตาลีปีหน้า ตั้งเป้ามีผู้ชมงานทั่วโลกกว่า 20 ล้านคน
นายปัญญา นิรันดร์กุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทได้ใช้งบลงทุนในส่วนของการดำเนินธุรกิจทีวีดิจิตอลไปกว่า 2,000 ล้านบาท เชื่อว่าจะสามารถคืนทุนได้เร็วภายใน 1-2 ปีหลังจากนี้ เนื่องจากเวิร์คพ้อยท์มีคอนเทนต์ที่แข็งแกร่งและมีคาแรกเตอร์ในการทำธุรกิจที่ชัดเจน ส่งผลให้ช่องรายการของบริษัทสามารถก้าวขึ้นมามีเรตติ้งอยู่ในอันดับต้นๆ ได้
ล่าสุดได้เปิดตัวช่อง “เวิร์คพ้อยท์ ครีเอทีฟ ทีวี” ทางทีวีดิจิตอล ซึ่งทางบริษัทได้ทำการวัดเรตติ้งช่องดังกล่าว มีผลตอบรับที่ออกมาถือว่าดีเกินคาด หรือเติบโตแบบก้าวกระโดด เพราะมีผู้ชมจำนวนไม่น้อยที่เริ่มเข้ามาดู อีกทั้งตลอดระยะเวลาที่ออกอากาศก็มีเอเยนซีเข้ามาเจรจากันบ้างแล้ว หรือคิดเป็นจำนวน 50% ของลูกค้ารายเดิมที่ให้ผลตอบรับกลับมาค่อนข้างดี ด้วยอัตราค่าโฆษณาช่องทีวีดิจิตอลเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 1 แสนบาท/นาที และมีลูกค้ารายใหญ่บางส่วนได้เริ่มเข้ามาติดต่อจ้างผลิตรายการบ้างแล้ว เช่น เอไอเอส และโตโยต้า เป็นต้น อีกทั้งยังอยู่หมายเลข 1 ในแแพลทฟอร์มกล่องพีเอสไอ ทำให้เข้าถึงผู้ชมได้ง่ายขึ้นด้วย
“บริษัทมองว่าการที่ช่องเวิร์คพ้อยท์ ครีเอทีฟ ทีวีได้หมายเลขช่อง 1 ในแพลตฟอร์มของระบบพีเอสไอนับว่าเป็นเรื่องที่ดี เนื่องจากหมายเลขดังกล่าวสามารถจำได้ง่ายและกดรีโมตเข้าถึงง่าย อีกทั้งในปัจจุบันผู้บริโภคทั้งประเทศหากวัดจากสัดส่วนผู้ชมคนดูส่วนมากกว่า 70% เป็นกลุ่มผู้ชมที่ดูโทรทัศน์ผ่านระบบดาวเทียมและส่วนแบ่งการตลาดของธุรกิจทีวีดาวเทียมส่วนใหญ่ก็เป็นของพีเอสไอเกือบหมด ดังนั้นบริษัทเชื่อว่าปัจจัยต่างๆ ที่มีนั้นเป็นสาเหตุให้เรตติ้งของช่องดีขึ้น”
อย่างไรก็ตาม ปีนี้ทางบริษัทได้เข้ามารุกในธุรกิจใหม่ด้วยการจับมือทาง “ไรท์แมน” ภายใต้กิจการร่วมค้าในนาม “เวิร์คไร้ท์” เข้าไปประมูลในการออกแบบนิทรรศการ Thailand Pavilion Expo Milano 2015 Italy
ด้าน นายอุปถัมป์ นิสิตสุขเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไรท์แมน จำกัด กล่าวว่า บริษัทได้วางแผนการออกแบบนิทรรศการ Thailand Pavilion Expo Milano 2015 Italy ครั้งนี้ให้สอดคล้องกับความคิดในเรื่อง “อาหารหล่อเลี้ยงโลก พลังงานหล่อเลี้ยงชีวิต” ซึ่งบริษัทได้วางงบลงทุนการจัดงานพาวิเลียนครั้งนี้อยู่ที่ประมาณ 735 ล้านบาท และคาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานครั้งนี้ไม่ต่ำกว่า 20 ล้านคน ส่วนงานไทยแลนด์พาวิเลียนคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมชมงานกว่า 2 ล้านคน