"พาณิชย์"มั่นใจดึงส่วนแบ่งข้าวคุณภาพดีในฮ่องกงกลับคืนมาได้แน่ หลังเดินสายพบผู้นำเข้าต่างแสดงความเชื่อมั่น หลังก่อนหน้าถูกข้าวเวียดนามแย่งตลาดไป เหตุราคาแข่งขันไม่ได้ เตรียมเดินสายเจรจาขายข้าวจีทูจีอีกหลายประเทศ คาดปีนี้ ส่งออกทะลุ 8-10 ล้านตันแน่
นายสุรศักดิ์ เรียงเครือ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ได้เดินทางไปพบปะผู้นำเข้าข้าวไทยรายใหญ่ของฮ่องกง โดยผลการหารือพบว่าผู้นำเข้าข้าวไทยรายใหญ่ทั้ง 4 ราย แสดงความมั่นใจว่าไทยจะสามารถดึงส่วนแบ่งตลาดข้าวไทยจะกลับคืนมาได้อย่างแน่นอน หลังจากต้องสูญเสียส่วนแบ่งตลาดบางส่วนให้กับประเทศคู่แข่ง โดยเฉพาะเวียดนาม เพราะในช่วงที่ผ่านมา ราคาข้าวไทยสูงกว่าคู่แข่งมาก จนทำให้ภัตตาคาร ร้านอาหารจำนวนมาก ที่ใช้ข้าวหอมมะลิไทยและข้าวหอมปทุมธานี ต่างลดต้นทุนด้วยการหันไปซื้อข้าวราคาถูกจากเวียดนามแทน
สาเหตุที่ผู้นำเข้ามั่นใจ เนื่องจากขณะนี้ ราคาข้าวข้าวไทยลดลงมาจากช่วงก่อนหน้ามาก และสามารถแข่งขันกับคู่แข่งได้ ทำให้ภัตตาคาร ร้านอาหาร หันกลับมาใช้ข้าวไทยเช่นเดิม เพราะคุณภาพเหนือกว่าข้าวของคู่แข่ง ส่วนผู้บริโภคที่เป็นครัวเรือนยังนิยมใช้ข้าวหอมมะลิไทยอยู่เช่นเดิม ซึ่งในส่วนนี้ ไทยมีส่วนแบ่งตลาดกว่า 50-60% ของตลาดรวมทั้งหมดของฮ่องกง ไม่ได้หายไป ขณะเดียวกัน ปัญหาการปลอมปนข้าวหอมมะลิไทยกับข้าวชนิดอื่นก็เริ่มคลี่คลายลง จึงทำให้ผู้บริโภคยังนิยมซื้อข้าวไทยเหมือนเดิม
ส่วนการที่ผู้ส่งออกไทยไม่สามารถชนะการประมูลขายข้าวให้ฟิลิปปินส์ปริมาณ 8 แสนตันนั้น เนื่องจากคู่แข่งสำคัญ คือเวียดนามเสนอราคาขายต่ำกว่าไทยมาก จึงไม่จำเป็นที่ผู้ส่งออกไทยต้องเสนอราคาที่ต่ำกว่าเพื่อให้ชนะการประมูล เพราะจะยิ่งทำให้ราคาข้าวไทยและข้าวในตลาดโลกตกต่ำมากขึ้น โดยคาดว่า ฟิลิปปินส์จะเปิดประมูลข้าวครั้งใหม่ในเร็วๆ นี้ ซึ่งรัฐบาลไทยจะเข้าร่วมการประมูลแน่นอน
นอกจากนี้ กรมฯ กำลังเจรจาขายข้าวให้กับมาเลเซียปริมาณ 8 แสนตัน ขณะนี้เจรจาไปได้มากกว่า 95%แล้ว เหลืออีกเพียงการต่อรองราคาที่มาเลเซียต้องการราคาต่ำ แต่ไทยต้องการขายตามราคาตลาด คาดว่าการเจรจาจะแล้วเสร็จในอีก 1-2 สัปดาห์นี้
นายสุรศักดิ์กล่าวว่า การเจรจาขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ล่าสุดกรมฯ มีสัญญาจีทูจีฉบับเดียวกับประเทศจีนปริมาณ 1 ล้านตัน ซึ่งได้ส่งมอบงวดแรกไปแล้ว 1 แสนตัน ขณะนี้กำลังเร่งการส่งมอบ แต่ก็มีอีกหลายประเทศที่สนใจจะซื้อข้าวจีทูจีจากไทย โดยเดือนพ.ค. กรมฯ มีแผนจะเดินทางไปเจรจาขายข้าวจีทูจีกับบางประเทศในแอฟริกา ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ของไทย รวมถึงตะวันออกกลาง ส่วนอิรัก มีการเปิดประมูลข้าวทุกเดือนอยู่แล้ว และกรมฯ จะเข้าร่วมการประมูลด้วย หลังจากที่อิรักยกเลิกการห้ามนำเข้าข้าวจากไทยแล้ว ซึ่งจะสามารถผลักดันการส่งออกข้าวไทยไปอิรักได้เพิ่มขึ้นอีกปีละไม่ต่ำกว่า 6 แสนตัน
อย่างไรก็ตาม กรมฯ คาดว่า ปีนี้ไทยจะส่งออกข้าวได้ 8-10 ล้านตันอย่างแน่นอน เพราะกระทรวงพาณิชย์ ระบายข้าวในสต๊อกอย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งเพราะต้องการนำเงินมาส่งคืนงบกลาง ที่ยืมมา 2 หมื่นล้านบาท โดยล่าสุดได้คืนไปแล้ว 1.5 หมื่นล้านบาท เหลืออีกเพียง 4 พันล้านบาทเท่านั้น คาดว่าจะชำระคืนได้ทันตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนดภายในสิ้นเดือนพ.ค.นี้ และอีกส่วนเป็นไปตามความต้องการของตลาด ที่มีผู้สนใจขอซื้อเข้ามามากขึ้น ซึ่งตั้งแต่เริ่มระบายข้าวนับจากเดือนต.ค.2554 จนถึงปัจจุบัน กระทรวงฯ คืนเงินให้คลังแล้วกว่า 2 แสนล้านบาท