อคส.เผยผลสอบไม่พบข้าวสารหาย เหตุถูกเบิกเกินไปสำรองไว้เพื่อทำข้าวถุง เล็งขอคืนจากผู้ปรับปรุง “สมชาติ” เผยผลสอบทุจริตข้าวถุงเสร็จแล้ว รอทำรายงานเสนอ รมว.พาณิชย์ เตรียมแผนรับมือข้าวเปลือกราคาตก ไม่ระบายข้าวราคาถูก หวั่นซ้ำเติมราคา พร้อมดึงโรงสี ตลาดกลาง เปิดตลาดนัดช่วยซื้อข้าวเปลือก
นายชนุตร์ปกรณ์ วงศ์สีนิล ผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า (อคส.) เปิดเผยว่า คณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการทุจริตในโครงการจัดทำข้าวสารบรรจุถุงช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนของ อคส.ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเสร็จแล้ว และได้รายงานผลสรุปไปยังนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ พิจารณาแล้ว โดยผลการพิจารณาพบว่าข้าวสารไม่ได้หายไป เพราะมีการเบิกข้าวสารออกจากคลังเกินจำนวนที่อนุมัติเพื่อไปทำเป็นสต๊อกสำรองในการผลิตบรรจุถุง ซึ่งขณะนี้ข้าวที่เบิกเกินออกไปก็ยังอยู่ที่ผู้ปรับปรุงคุณภาพข้าว โดย อคส.จะติดตามกลับคืนมา ส่วนข้าวสารบรรจุถุงที่ได้ดำเนินการผลิตไปแล้วก็จะมีการเจรจากับผู้ทำการปรับปรุงว่ามีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการเท่าไรต่อไป
“เรื่องนี้ เจ้าหน้าที่ อคส.ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้น่าจะไม่มีความผิด เพราะแม้จะมีการเบิกข้าวเกินจำนวนแต่ก็ได้รับอนุมัติจากผู้บริหารแล้ว แต่ผลสอบทั้งหมดยังเป็นเพียงผลเบื้องต้น ต้องรอผลการตรวจของคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงที่บอร์ด อคส.แต่งตั้ง และผลการตรวจสอบของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่มีอธิบดีกรมการค้าภายในด้วย ถึงจะสามารถสรุปผลขั้นสุดท้ายได้” นายชนุตร์ปกรณ์กล่าว
นายสมชาติ สร้อยทอง อธิบดีกรมการค้าภายใน ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการจัดทำข้าวสารบรรจุถุงช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชน กล่าวว่า กำลังสรุปผลการพิจารณา โดยจะชี้ให้เห็นว่ากระบวนการจัดทำข้าวสารบรรจุถุงมีใครเกี่ยวข้องบ้าง บกพร่องตรงไหน และมีผลเสียหายอย่างไร ส่วนใครจะถูกจะผิดขึ้นอยู่กับการพิจารณาในขั้นสุดท้ายของ รมว.พาณิชย์
สำหรับการเปิดประมูลข้าวสารในสต๊อกรัฐบาลผ่านตลาดซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (เอเฟต) ครั้งที่ 9 ในวันที่ 23 เม.ย. ปริมาณกว่า 2 แสนตัน คาดว่าจะมีผู้สนใจเข้าร่วมประมูลเป็นจำนวนมากอีกเช่นเคย ส่วนการเปิดประมูลทั้ง 8 ครั้งที่ผ่านมาขายได้แล้ว 5.5 แสนตัน มูลค่า 7 พันล้านบาท ราคาเฉลี่ยข้าวขาว 5% กิโลกรัม (กก.) ละ 10-12 บาท ข้าวหอมมะลิ กก.ละ 29-30 บาท
ส่วนแผนการยกระดับราคาข้าวในประเทศในช่วงที่ไม่มีโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนั้น กรมฯ ได้ร่วมมือกับกรมการค้าต่างประเทศในการพิจารณาขายข้าว ทั้งผ่านเอเฟต และประมูลทั่วไป หรือขายตรงให้ผู้ส่งออก โดยจะไม่ขายในราคาต่ำ เพื่อไม่ให้ไปฉุดราคาตลาด ขณะเดียวกันจะเข้าไปดูแลราคาข้าวเปลือก โดยประสานโรงสี ตลาดกลาง เปิดตลาดนัดซื้อขายข้าวเปลือกในช่วงที่ผลผลิตข้าวออกสู่ตลาดมากเพื่อช่วยพยุงราคาอีกทางหนึ่ง