xs
xsm
sm
md
lg

เอ็กโกปักธงลุยอินโดฯ-ฟิลิปปินส์ ฟุ้ง Q1 กำไรพุ่งจาก “โซลาร์ โก”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอ็กโกวางกลยุทธ์ปีนี้รุกธุรกิจไฟฟ้าในอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์เพิ่ม เนื่องจากความเสี่ยงต่ำและมีโอกาสได้โครงการสูง ส่วนโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ที่ญี่ปุ่นยังติดปัญหาเรื่องที่ดินและภาษีที่เป็นอุปสรรคในการลงทุน เผยไตรมาส 1 กำไรกระฉูดสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนที่กำไร 1.69 พันล้านบาท และไตรมาส 4/56 เหตุรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์และโรงไฟฟ้าลมเต็มปี

นายสหัส ประทักษ์นุกูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน)(EGCO) หรือเอ็กโก เปิดเผยว่า กลยุทธ์การลงทุนในปีนี้บริษัทฯ ให้ความสำคัญต่อการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าในอินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์เป็นอันดับแรก เนื่องจากมีโอกาสการลงทุนที่สูงและมีความเสี่ยงไม่มาก ขณะนี้บริษัทฯ มีการเจรจาร่วมลงทุนโครงการใหม่ๆ อยู่ 2-3 โครงการ เป็นทั้งการเข้าไปลงทุนโรงไฟฟ้าที่ดำเนินการอยู่แล้วและเป็นโครงการ Greenfield เพื่อสร้างรายได้ในระยะยาวให้แก่บริษัทฯ ส่วนโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ที่ญี่ปุ่นนั้นมีนักลงทุนไทยชักชวนให้เอ็กโกเข้าร่วมทุนโครงการดังกล่าว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ แม้ว่าราคารับซื้อไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ญี่ปุ่นจะให้ราคาค่อนข้างดี แต่ยังติดปัญหาเรื่องที่ดินแพงและภาษีนิติบุคคล จึงต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ โดยจะหารือร่วมกับพาร์ตเนอร์ญี่ปุ่นอย่างเทปโก และมิตซูบิชิด้วย

ส่วนความคืบหน้าโครงการส่วนขยายโรงไฟฟ้าเคซอน เพาเวอร์ฯ ที่ฟิลิปปินส์อีก 500 เมกะวัตต์นั้น ขณะนี้บริษัทฯ อยู่ระหว่างการเจรจาค่าไฟฟ้ากับผู้ซื้อไฟฟ้าคาดว่าจะได้ข้อสรุปในไตรมาส 2 นี้ หลังจากนั้นต้องรอเรกูเลเตอร์อนุมัติสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ก่อนจึงจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างโรงไฟฟ้าดังกล่าว มั่นใจว่าโรงไฟฟ้านี้จะแล้วเสร็จในปี 2562 ล่าสุด ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ จะอนุมัติในหลักการให้บริษัทลูกในการทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้าโครงการโรงไฟฟ้าเควซอนส่วนขยาย 500 เมกะวัตต์ได้

สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าปากเหมืองขนาด 200-300 เมกะวัตต์ที่อินโดนีเซียนั้น จากการศึกษาเบื้องต้นพบว่ามีความเหมาะสม แต่ทั้งนี้คงต้องเจรจากับการไฟฟ้าของอินโดนีเซียในเรื่องการรับซื้อไฟฟ้าและสายส่งไฟฟ้าด้วย พร้อมทั้งว่าจ้างที่ปรึกษาดูรายละเอียดโครงการนี้ คาดว่าจะได้ข้อสรุปในปี 2558 ส่วนธุรกิจเหมืองถ่านหินที่อินโดนีเซียนั้น มั่นใจว่าปีนี้จะมีกำไรจากการดำเนินการเป็นปีแรก โดยวางเป้าหมายผลิตอยู่ที่ 1 ล้านตัน และเจรจากับเทรดเดอร์ญี่ปุ่นในการทำสัญญาซื้อขายถ่านหินระยะยาวด้วย

“บริษัทฯ ได้เข้าไปศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าที่ประมูลไปแล้ว ขนาด 600-700 เมกะวัตต์ แต่ไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากติดปัญหาทางการเงิน หากบริษัทฯ เข้าร่วมทุนจะถือหุ้น 30-40% รวมทั้งสนใจเข้าร่วมประมูลสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินที่อินโดนีเซียด้วย แต่เนื่องจากโครงการดังกล่าวเลื่อนไปก่อน”

นายสหัสกล่าวต่อไปว่า โครงการผลิตไฟฟ้าจากขยะของเทศบาลนครหาดใหญ่ จ.สงขลา กำลังการผลิต 6.7 เมกะวัตต์ คาดว่าจะผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในอีก 2-3 เดือนข้างหน้านี้ โดยจะจ่ายไฟให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค โดยได้รับแอดเดอร์จำนวน 3.50 บาท/หน่วย นับเป็นโครงการนำร่องที่จะใช้แก้ปัญหาขยะในพื้นที่ต่างๆ ของประเทศได้

ส่วนผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1/2557 ว่าบริษัทฯ มีกำไรสุทธิสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1,689 ล้านบาท และไตรมาส 4/2556 เนื่องจากรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์เต็มปี โดยเฉพาะโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ของบริษัท โซลาร์ โกที่เอ็กโกถือหุ้นอยู่ 49% ทั้ง 6 โรง คิดเป็นกำลังการผลิตรวม 57 เมกะวัตต์ รวมทั้งรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าเทพพนา วินด์ ฟาร์ม โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ของบริษัท เอ็นอีดี 8เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์จี-พาวเวอร์ ซอร์ซด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น