xs
xsm
sm
md
lg

การเมืองฉุดยอดขาย-ลงทุนใหม่ชะงัก ปริญญาตรีจบใหม่เตะฝุ่น 1.5 แสนคน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายวัลลภ วิตนากร รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.)  - ภาพจาก http://www.tssc.co.th/index.php/executive-staff/
ASTVผู้จัดการรายวัน - ภาคการผลิตส่งสัญญาณรัดเข็มขัดหลังการเมืองพ่นพิษทำตลาดในประเทศยอดขายตก ลงทุนใหม่ชะลอ เมินรับแรงงานใหม่เพิ่ม ชี้หากยืดเยื้อต่อปลดแรงงานออกมากกว่าด้วยซ้ำ ส่งผลให้ปริญญาตรีจบใหม่ส่อเค้าเตะฝุ่น 1.5 แสนคน ยกเว้นสายวิชาชีพที่ยังมีโอกาสโดยเฉพาะสายสื่อมวลชนมาแรงหลังทีวีดิจิตอลบูม

นายวัลลภ วิตนากร รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ปีนี้ภาคการผลิตคงจะต้องรัดเข็มขัด ดังนั้นการจ้างงานใหม่โดยเฉพาะผู้ที่จบปริญญาตรีจะมีน้อยมากหรือแทบจะไม่มีเลยเนื่องจากปัจจุบันปัญหาการเมืองและภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวส่งผลให้ไม่มีการลงทุนใหม่เกิดขึ้น ขณะเดียวกัน ภาคการผลิตที่พึ่งพิงตลาดในประเทศเป็นหลักยอดขายตกหมดทำให้โอกาสจะปลดแรงงานเพิ่มมีสูงกว่า และปัจจัยสุดท้ายคือภาคการบริการเองก็ได้รับผลกระทบจากภาวะท่องเที่ยวก่อนหน้าที่ซบเซา

“แม้ว่าการท่องเที่ยวจะดีขึ้นทำให้อุตสาหกรรมต่อเนื่องที่เกี่ยวข้องจะดีตามแต่ก่อนหน้าก็ย่ำแย่ ภาพรวมก็คือสามารถประคองตัวได้แต่ก็คงไม่อาจจะทำให้เกิดการจ้างแรงงานใหม่ๆ เข้ามาในระบบได้มากนัก ภาพรวมการจ้างงานใหม่มีเพียงการจ้างมาเพื่อทดแทนแรงงานเก่าที่อาจลาออกมากกว่าแต่ส่วนใหญ่ก็จะเป็นสาขาวิชาชีพ ยิ่งอุตสาหกรรมที่เน้นยอดขายในประเทศที่เวลานี้แรงซื้อต่ำมากขายลดลงเฉลี่ย 40-50% หากจะเป็นเช่นนี้คิดว่าจะลดคนด้วยซ้ำ วิธีที่จะหนีปัญหาคือต้องหาทางส่งออก ส่วนที่มีการส่งออกบ้างอยู่แล้วก็ต้องเน้นส่งออกเพิ่มขึ้น” นายวัลลภกล่าว

ทั้งนี้ ผู้ที่จบปริญญาตรีถ้าไม่ใช่สายงานที่จะสนองต่อวิชาชีพโดยตรง เช่น แพทย์ พยาบาล วิศวกร ฯลฯ มีสิทธิ์จะตกงานสูงในปีนี้โดยเฉพาะเด็กจบใหม่ ซึ่งหากเป็นไปได้ให้เรียนต่อปริญญาโท โดยปีนี้เด็กที่จบสายงานที่เกี่ยวข้องกับสื่อสารมวลชนจะมีโอกาสสูงเนื่องจากช่วงนี้มีการเปิดทีวีดิจิตอลทำให้ความต้องการแรงงานในสาขาที่เกี่ยวข้องมีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว

นายวัลลภกล่าวว่า ที่ผ่านมา ส.อ.ท.ได้มีการส่งสัญญาณเตือนไปยังภาครัฐบาลโดยเฉพาะกระทรวงศึกษาธิการถึงปัญหาดังกล่าวแล้วว่าภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องปรับทัศนคติและการเรียนการสอนใหม่ไม่ใช่จบอะไรก็ได้แต่ขอให้จบปริญญาตรีเพราะหากเป็นเช่นนี้จบมาก็ต้องตกงานเนื่องจากไม่ได้ตรงต่อความต้องการของตลาดแรงงานไทย ซึ่งปัจจุบันภาคการผลิตต้องการเด็กที่จบสายวิชาชีพโดยเฉพาะในระดับ ปวช. และ ปวส. และปริญญาตรีที่เป็นสายตรงกับสาขาอาชีพมากกว่า ซึ่งทำให้ประเทศไทยในระยะหลังมีปัญหาการขาดแคลนแรงงานและหากปล่อยไว้การขยายการลงทุนในอนาคตก็จะมีปัญหาได้

นายพงษ์เดช ศรีวชิรประดิษฐ์ รองประธานกรรมการบริหารสถาบันเสริมสร้างขีดความสามารถมนุษย์ ส.อ.ท. กล่าวว่า คาดการณ์ว่าปีนี้จะมีผู้ที่จบการศึกษาตั้งแต่ระดับ ปวช.จนถึงปริญญาตีราว 3 แสนคน และในจำนวนนี้ 50% หรือประมาณ 1.5 แสนคนที่จบปริญญาตรีจะต้องตกงานเพราะไม่มีการขยายงานจากภาคเอกชน แม้กระทั่งอุตสาหกรรมยานยนต์ที่เคยขยายตัวอย่างต่อเนื่องปัจจุบันก็ไม่มีนโยบายรับคนใหม่เลยเนื่องจากตลาดในประเทศลดต่ำทำให้ต้องพยายามดิ้นหาทางส่งออกแทน

“การลงทุนใหม่ๆ แม้ว่าต่อไปคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนหรือบอร์ดบีโอไอจะอนุมัติได้แต่ก็ต้องอาศัยระยะเวลาการลงทุน และสิ่งสำคัญเอกชนเองก็จะต้องชะลอการลงทุนเพื่อดูปัญหาการเมืองให้แน่ใจเสียก่อน จึงยากที่จะมีการจ้างงานใหม่ในปีนี้เพิ่มขึ้น ดังนั้นปัจจัยการเมืองจะเป็นตัวชี้วัดของปัญหานี้ ยิ่งยืดเยื้อก็จะยิ่งกระทบ” นายพงษ์เดชกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น