“นันทวัลย์” ตั้งคณะทำงานผลักดันส่งออกสู่ตลาดใหม่ เน้นอาเซียน จีน ตะวันออกกลาง ละตินอเมริกา รัสเซีย และ CIS และแอฟริกา ใช้อดีตทูตพาณิชย์เป็นหัวหน้าทีมทำงานร่วมกับภาคเอกชน เฟ้นหาสินค้าที่มีโอกาส ก่อนอัดกิจกรรมเพิ่มยอด พร้อมทำแผนสร้างภาพลักษณ์สินค้าไทยสร้างความมั่นใจลูกค้า
นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้จัดตั้งคณะทำงานผลักดันการส่งออกสู่ตลาดใหม่ โดยเน้นตลาดอาเซียน จีน ตะวันออกกลาง ละตินอเมริกา รัสเซีย และ CIS และแอฟริกา โดยใช้ทูตพาณิชย์ที่เคยทำงานและมีประสบการณ์สูงในประเทศนั้นๆ เป็นหัวหน้าคณะทำงาน และได้เชิญภาคเอกชน คือ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในแต่ละตลาด ทั้งด้านการค้าขาย การลงทุนร่วมเป็นคณะทำงาน
“คณะทำงานชุดนี้จะมาช่วยกันวางแผนในการบุกเจาะตลาดใหม่เป็นรายประเทศ จากเดิมที่มีแผนเป็นรายภูมิภาคอยู่แล้ว เพราะต้องการผลักดันการส่งออกของไทยให้เข้าถึงเป็นรายประเทศให้ได้มากที่สุด โดยจะมาช่วยกันดูว่าในตลาดใหม่เป้าหมายมีสินค้าอะไรที่มีโอกาส มีศักยภาพในการเพิ่มยอดส่งออก จะดูสินค้าในระดับท็อปเท็น ไม่ใช่ดูไม่กี่ตัว จากนั้นจะมาทำแผนเพิ่มกิจกรรมเพื่อผลักดันให้ยอดส่งออกเพิ่มขึ้นต่อไป”
ทั้งนี้ เห็นว่ากิจกรรมเร่งด่วนที่จะดำเนินการได้ทันที และได้ผลในการเพิ่มยอดการส่งออกได้เพิ่มขึ้นก็คือ การจัดโครงการจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) ซึ่งจะทำการนัดหมายให้ผู้ซื้อในตลาดใหม่มาพบปะกับผู้ขายของไทย ทั้งการจัดคณะไปยังตลาดใหม่ หรือเชิญให้ผู้ซื้อมาไทย
นางนันทวัลย์กล่าวว่า สำหรับแนวโน้มตลาดใหม่ที่กรมฯ ให้ความสำคัญ พบว่าตลาดอาเซียนจะยังคงขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งอาเซียนเดิมและอาเซียนใหม่ในกลุ่ม CLMV (กัมพูชา สปป.ลาว พม่า และเวียดนาม) ซึ่งกรมฯ จะเพิ่มการจัดกิจกรรมเพื่อผลักดันการส่งออกอย่างเข้มข้น ทั้งการจัดงานไทยแลนด์วีกเพื่อโปรโมตสินค้าไทย การเข้าร่วมงานแสดงสินค้า และการจัดคณะผู้แทนการค้านำผู้ประกอบการสินค้าในกลุ่มต่างๆ ไปเจรจาขายสินค้า รวมไปถึงการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายในห้างสรรพสินค้า
ส่วนตลาดจีน จะเพิ่มความสำคัญในการขยายตลาดเข้าสู่เมืองทางฝั่งตะวันตก จากเดิมที่เน้นการค้าขายทางฝั่งตะวันออก และกำลังพิจารณาเปิดสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศในจีนเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับการขยายตัวทางการค้า การลงทุน และสร้างโอกาสทางการค้าให้แก่ไทย เพราะจีนเป็นตลาดที่ใหญ่มาก แม้เศรษฐกิจจะชะลอตัวลงไปบ้างแต่ก็ยังขยายตัวในระดับ 7% โอกาสจึงยังมีสูง
สำหรับตะวันออกกลาง ละตินอเมริกา รัสเซีย CIS และแอฟริกา ภาพรวมเศรษฐกิจประเทศเหล่านี้ยังมีแนวโน้มขยายตัวตามเศรษฐกิจโลก ซึ่งยังมีโอกาสสำหรับการผลักดันการส่งออกสินค้าไทย โดยจะเพิ่มกิจกรรมเป็นพิเศษ และหาทางผลักดันให้ผู้ประกอบการไทยใช้ประโยชน์จากข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) ที่ไทยทำกับชิลี และเปรู
นางนันทวัลย์กล่าวว่า กรมฯ ยังมีแผนที่จะสร้างภาพลักษณ์สินค้าไทย เพราะปัจจุบันหลายๆ ประเทศที่เป็นตลาดใหม่ของไทยไม่รู้ว่าไทยผลิตสินค้าอะไรบ้าง ผลิตได้ในระดับไหนของโลก ทั้งๆ ที่ไทยมีขีดความสามารถในการผลิตสินค้าหลายๆ รายการในระดับโลก เช่น ยานยนต์ผลิตได้ปีละ 2 ล้านคัน เป็นผู้ผลิตและส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้าในระดับโลก เป็นแหล่งผลิตอาหารที่สำคัญของโลก ทั้งเกษตรและประมง เป็นต้น ซึ่งจะมีการจัดทำแผนเพื่อโปรโมตให้ลูกค้ารู้จักไทยให้มากขึ้นเพื่อให้ส่งผลต่อการซื้อสินค้าไทยเพิ่มขึ้น
“กรมฯ กำลังคุยกับภาคเอกชน กำลังรวบรวมข้อมูลว่าไทยทำอะไรเก่งบ้าง อุตสาหกรรมไหน สินค้าตัวไหน แล้วจะมาทำแผนพีอาร์ ทำแคมเปญ ทำข้อมูลที่จะให้รายละเอียดเป็นรายอุตสาหกรรม ซึ่งจะพีอาร์ผ่านสื่อต่างๆ ในประเทศเป้าหมาย หรือเวลาไปติดต่อค้าขาย ก็จะนำไปเผยแพร่ให้ลูกค้าได้รับรู้ ถือเป็นอีกแผนหนึ่งในการสร้างภาพลักษณ์ให้สินค้าไทย” นางนันทวัลย์กล่าว