เอเอฟพี - ญี่ปุ่นและออสเตรเลียเปิดเผยในวันนี้ (7 เม.ย.) ว่าทั้งสองชาติสามารถบรรลุข้อตกลงการค้าเสรีครั้งสำคัญที่รอคอยกันมาเนิ่นนาน เพื่อเปิดเสรีการค้าในตลาดญี่ปุ่นซึ่งได้ชื่อว่าเป็นตลาดที่มีกำแพงภาษีสูง แม้ว่าการเจรจาหาทางบรรลุข้อตกลงครั้งใหญ่ระหว่างชาติในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจะยังประสบปัญหาอยู่ก็ตาม
การทำข้อตกลงครั้งนี้เปิดเผยขึ้นเมื่อนายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ แห่งญี่ปุ่น และนายกรัฐมนตรี โทนี แอ็บบอตต์ แห่งออสเตรเลียที่เดินทางเยือนแดนอาทิตย์อุทัยจัดการแถลงข่าวสั้นๆ ในกรุงโตเกียว เมื่อช่วงเย็นวันนี้ (7)
การทำข้อตกลงฉบับนี้ “จะสร้างโอกาสในการลงทุน และการค้าใหม่ที่สำคัญให้ทั้งสองประเทศ” คำแถลงระบุ พร้อมทั้งเพิ่มเติมว่า จะมีการลงนามข้อตกลงขั้นสุดท้ายอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
ขณะกล่าวกับสื่อมวลชน แอ็บบอตต์ กล่าวว่าข้อตกลงฉบับนี้ถือเป็น “โอกาสสำคัญในประวัติศาสตร์ของทั้งสองชาติโดยแท้จริง” นอกจากนี้ แดนจิงโจ้และแดนอาทิตย์อุทัยยังเห็นพ้องต้องกันด้วยว่า จะส่งเสริมความร่วมมือด้านความมั่นคง เป็นต้นว่า การร่วมกันพัฒนายุทโธปกรณ์
ในวันพรุ่งนี้ (8) ออสเตรเลียยังมีกำหนดร่วมลงนามข้อตกลงการค้าเสรีร่วมกับโซล หลังเจรจาหารือกันมานาน 4 ปี หลังจากแอ็บบอตต์เดินทางกลับจากเกาหลีใต้ก็จะบินไปจีน โดยถือเป็นส่วนหนึ่งของแผนเดินทางเยือนภูมิภาคเอเชียตะวันออก
นายกรัฐมนตรีอาเบะ แถลงว่า โตเกียวจะเข้าสู่การเจรจาครั้งใหญ่ระหว่างชาติในแถบมหาสมุทรแปซิฟิกเพื่อจัดทำข้อตกลงการค้า (ทรานส์-แปซิฟิก พาร์ทเนอร์ชิพ หรือ ทีพีพี) ระหว่าง 12 ประเทศ ซึ่งในจำนวนนี้รวมถึง สหรัฐฯ และญี่ปุ่น
อย่างไรก็ตาม ประเด็นปัญหาที่ประเทศต่างๆ ยังไม่สามารถตกลงกันได้นั้น มีดังเช่น การเปิดตลาดในประเทศที่มีการตั้งกำแพงภาษีสินค้านำเข้า เช่น ตลาดเกษตรกรรม และตลาดรถยนต์
ทั้งนี้ ญี่ปุ่นถูกกล่าวหาว่าปกป้องอุตสาหกรรมในประเทศของตน โดยการตั้งกำแพงภาษีสินค้าต่างๆ เช่น ผลิตผลจากภาคการเกษตรจนสูงลิบลิ่ว ทั้งยังใช้มาตรการอื่นๆ นอกเหนือจากการตั้งกำแพงภาษีร่วมด้วย ขณะที่ญี่ปุ่นสามารถส่งออกสินค้าจำนวนมาก เช่น ยานพาหนะ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ไปยังต่างประเทศได้เป็นจำนวนมหาศาล
ทางด้าน สหรัฐฯ ได้ออกมาแสดงความขุ่นเคืองที่ญี่ปุ่นกีดกันสินค้าในบางภาคส่วนออกจากข้อตกลงทีพีพี ในเวลาที่การเจรจายังคงเดินหน้าต่อไป
นอกจากนี้ ญี่ปุ่นกำลังเจรจาข้อตกลงการค้าเสรีร่วมกับสหภาพยุโรป
สำนักข่าวเกียวโดนิวส์ รายงานว่า ออสเตรเลียจะกลายเป็นประเทศผู้ส่งออกผลผลิตทางการเกษตรอย่าง เนื้อวัว รายใหญ่และรายแรกที่ร่วมลงนามข้อตกลงการค้าเสรีกับญี่ปุ่น โดยคาดหมายกันว่าข้อตกลงฉบับนี้จะทำให้ออสเตรเลียสามารถทิ้งห่างบรรดาคู่แข่งจากสหรัฐฯ ไปได้ไกล