กรมทางหลวงโยกค่าเวนคืนมอเตอร์เวย์ 3 สาย ของบปี 58-59 กว่า 1.28 หมื่นล้านแทน รอ ครม.ใหม่เคาะประมูลสายบางปะอิน-โคราชพร้อมขายซอง พ.ย. 57 แบ่ง 2 เฟส 14 สัญญา
นายชัชวาลย์ บุญเจริญกิจ อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) จำนวน 3 เส้นทาง ซึ่งการลงทุนบรรจุไว้ในพระราชบัญญัติการให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อลงทุนโครงสร้างพื้นฐานวงเงิน 2 ล้านล้านบาท ว่า ขณะนี้ได้มีการปรับแผนการลงทุนใหม่ โดยจะเสนอตั้งงบประมาณประจำปี 2558-2559 ดำเนินการแทน โดยเป็นค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินของทั้ง 3 เส้นทาง และค่าก่อสร้างของเส้นทางบางปะอิน-สระบุรี-นครราชสีมา ซึ่งขึ้นกับรัฐบาลว่าจะให้ใช้งบประมาณหรือใช้เงินกู้ก่อสร้าง ซึ่งภาพรวมโครงการขณะนี้จะล่าช้ากว่าเดิมประมาณ 1 ปี
ทั้งนี้ เส้นทางที่มีความพร้อมมากที่สุดที่สามารถประกวดราคาได้ทันที เพราะการออกแบบและศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมเสร็จแล้วคือ มอเตอร์เวย์สายบางปะอิน-สระบุรี-นครราชสีมา ระยะทาง 196 กิโลเมตร วงเงิน 84,600 ล้านบาท แบ่งเป็นค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินประมาณ 6,000 ล้านบาท ซึ่งจะของบประมาณผูกพัน 2 ปี (ปี 58 และ 59) ปีละ 50% ส่วนการก่อสร้างจะเสนองบประมาณผูกพัน 2 ปี (ปี 58 และ 59) โดยแบ่งการก่อสร้างเป็น 2 เฟส เฟสละ 7 สัญญา เพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยงหากเป็นโครงการใหญ่ สัญญามูลค่างานสูงจะเกิดการผูกขาดกับผู้รับเหมารายเดียวอาจจะไม่โปร่งใสได้ เพราะกรมทางหลวงมีผู้รับเหมาชั้นพิเศษกว่า 50 ราย และยังเป็นการเร่งรัดงานก่อสร้างให้เร็วขึ้นด้วย โดยเบื้องต้นคาดว่าจะสามารถเปิดประกวดราคาเฟสแรกช่วงบางปะอิน-ปากช่องได้ประมาณเดือนพฤศจิกายน 2558
สายบางใหญ่-นครปฐม-กาญจนบุรี ระยะทาง 96 กิโลเมตร วงเงิน 55,620 ล้านบาท มีค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน 5,000 ล้านบาท จะเสนอของบประมาณผูกพันปี 58, 59 ปีละ 50% ส่วนการก่อสร้างจะใช้วิธีร่วมทุนกับเอกชน (Public-Private Partnership: PPP) ซึ่งได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษามาศึกษารูปแบบ PPP ที่เหมาะสม โดยใช้เวลา 6 เดือน จากนั้นจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติได้ในเดือนกันยายน 2558
สายชลบุรี-พัทยา-มาบตาพุด ระยะทาง 89 กิโลเมตร วงเงิน 22,850 ล้านบาท ค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน 1,800 ล้านบาท จะของบประมาณผูกพันปี 58, 59 ปีละ 50% ซึ่งเส้นทางนี้มีความเป็นไปได้สูงมาก เพราะจะใช้เงินค่าก่อสร้างจากกองทุนมอเตอร์เวย์ที่ปัจจุบันมีเงินเหลือกว่า 10,000 ล้านบาท ดังนั้นหากรัฐบาลอนุมัติค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินก็สามารถเดินหน้าการก่อสร้างได้ทันที
“ทุกเส้นทางมีความจำเป็นมาก สายบางปะอิน-โคราช จะช่วยถนนมิตรภาพที่ตอนนี้ติดมาก จากที่เคยเดินทางไปโคราชแค่ 2 ชั่วโมงก็เพิ่มเป็น 4 ชั่วโมงปริมาณรถเพิ่มขึ้นเกือบ 100% ผลศึกษาพบว่า หากปี 60 ไม่ทำมอเตอร์เวย์จะวิกฤตหนัก รถจะวิ่งได้แค่ 10 กม./ชม. สายบางใหญ่-กาญจนบุรี เชื่อมพม่าและหนุนท่องเที่ยว เลือกลงทุนแบบ PPP เพื่อแบ่งเบาภาระงบประมาณและไม่กระทบเพดานหนี้ ส่วนพัทยา-มาบตาพุด จะเชื่อมนิคมอุตสาหกรรมซึ่งมีปริมาณรถบรรทุกมากช่วยเสริมด้านลอจิสติสก์ ลดค่าซ่อมบำรุงถนน” นายชัชวาลย์กล่าว