เมื่อเวลา 09.00 น. วันศุกร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2557 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเป็นองค์ประธานในพิธีเปิดงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 42 และงานสัปดาห์หนังสือนานาชาติ ครั้งที่ 12 พร้อมกันนี้ได้พระราชทานพระราชวโรกาสให้ ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์เกษม วัฒนชัย องคมนตรี ประธานกรรมการจัดงาน, นายจาตุรนต์ ฉายแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ, นายอภิชาติ จีระวุฒิ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และนายจรัญ หอมเทียนทอง นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย เฝ้าฯ รับเสด็จ
ในการนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานรางวัลแก่ผู้ชนะการประกวดหนังสือดีเด่นประจำปี พ.ศ. 2557 จากนั้นทรงพระดำเนินทอดพระเนตรนิทรรศการ ร้านจำหน่ายหนังสือ และสื่อการศึกษาภายในงาน ก่อนเสด็จพระราชดำเนินกลับ
“งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติครั้งที่ 42 และสัปดาห์หนังสือนานาชาติครั้งที่ 12 (Bangkok International Book Fair 2014)” จัดขึ้นระหว่างวันศุกร์ที่ 28 มีนาคม-จันทร์ที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2557 (11 วัน) ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ภายใต้แนวคิด “โลกคือนิยาย (The World Is a Novel)” โดยในปีนี้จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ เพราะนอกจากจะมีสำนักพิมพ์ไทยตอบรับเข้าร่วมงานกว่า 432 สำนักพิมพ์ รวมทั้งสิ้น 921 บูทแล้วนั้น ยังได้รับเกียรติจากสำนักพิมพ์ต่างประเทศ เช่น เกาหลี ฝรั่งเศส เยอรมนี อิหร่าน ไต้หวัน สิงคโปร์ มาร่วมงานถึง 37 สำนักพิมพ์ เป็นจำนวนรวม 40 บูท
นายจรัญ หอมเทียนทอง นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) เปิดเผยว่า งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติครั้งที่ 42 และสัปดาห์หนังสือนานาชาติครั้งที่ 12 ถือว่าเป็นงานแสดงหนังสือที่ได้รับความสนใจและรอคอยจากบรรดาคนรักการอ่านมาตลอด โดยในปีนี้แม้ว่าสภาวะบ้านเมืองอาจจะอึมครึมจากปัญหานานาประการ แต่ทางสมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ ตัดสินใจเดินหน้าจัดงานเพราะในฐานะองค์กรที่มีภารกิจสำคัญในการส่งเสริมการอ่านนั้นได้เล็งเห็นว่าหนังสือและการอ่านถือเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความสงบให้ประเทศได้
“ถ้าคนในชาติอ่านมากขึ้นก็จะมีวิจารณญาณในการพิจารณาปัญหาและประเด็นต่างๆ เพิ่มขึ้น โดยรับรู้และเข้าใจปัจจัยของปัญหาจากการอ่าน เหตุการณ์ต่างๆ ที่ส่งผลลบต่อสังคมก็จะไม่สามารถเกิดขึ้นได้ง่ายๆ เราจำเป็นต้องอ่านหนังสือให้มากขึ้นกว่านี้เพื่อช่วยให้ประเทศสามารถก้าวผ่านปัญหาต่างๆ ไปได้ นอกจากนี้ การจัดงานในระดับนานาชาติเช่นนี้จะช่วยสร้างความมั่นใจให้ต่างประเทศได้ด้วย ถือเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยสร้างภาพลักษณ์ของประเทศ โดยนอกจากการเข้าร่วมของสำนักพิมพ์ประเทศต่างๆ แล้ว เรายังได้รับเกียรติจากนักเขียนชื่อดังชาวญี่ปุ่น ‘คาซึชิเงะ อาเบะ (Kazushige Abe)’ มาร่วมเสวนาอีกด้วย”
นายจรัญยังกล่าวอีกว่า ปีนี้ได้จัดงานภายใต้แนวคิด “โลกคือนิยาย (The World Is a Novel)” ซึ่งเชื่อมโยงกับไฮไลต์ของงานคือ “นิทรรศการโลกคือนิยาย” และ “นิทรรศการข้าพเจ้าได้เห็นมา โลกนิยายของศรีบูรพา” เพื่อสื่อให้เห็นถึงความเชื่อมโยงกันระหว่างโลกกับนิยายซึ่งเปรียบเสมือนกระจกเงาที่ส่องสะท้อนภาพระหว่างกัน
“นิทรรศการโลกคือนิยาย” เกิดขึ้นเพราะต้องการสื่อว่านิยายมีอิทธิพลต่อโลก ส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงในโลกใบนี้เกิดขึ้นเพราะนิยาย ในขณะที่เนื้อเรื่องของนิยายก็สามารถสะท้อนให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของโลกได้ด้วย อาทิ เรื่องราวบางด้านของโลกเผด็จการนั้นแม้ว่าจะไม่สามารถสะท้อนจากความเป็นจริงได้ แต่ก็ไม่สามารถปิดบังการสะท้อนผ่านนวนิยายได้เช่นกัน ดังเช่นเรื่องราวการปฏิวัติวัฒนธรรมในจีนที่ผู้คนส่วนหนึ่งได้รับรู้เรื่องราวต่างๆ ผ่านนิยาย เช่นนิยายเรื่อง ‘หงส์ป่า’ (Wild Swan) ผลงานของจุง ชาง (Jung Chang) หรือนิยายเรื่องเอกของโลกอย่าง ‘เหยื่ออธรรม’ (Les Misérables) ผลงานของวิกเตอร์ อูโก (Victor Hugo) นักเขียนชาวฝรั่งเศส ก็เป็นแรงบันดาลใจและพลังขับเคลื่อนของนักต่อสู้เพื่อเสรีภาพ เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพอย่างอองซาน ซูจี
ส่วน “นิทรรศการข้าพเจ้าได้เห็นมา โลกนิยายของศรีบูรพา” เป็นอีกนิทรรศการที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง เพราะ “ศรีบูรพา” เป็นนักเขียนชาวไทยที่ได้รับการกล่าวขานและชื่นชมในระดับโลก เพราะองค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ได้ยกย่องให้ศรีบูรพาเป็นบุคคลดีเด่นของโลก ในฐานะผู้สร้างคุณประโยชน์แก่ประเทศไทยและสร้างสันติภาพของโลกประจำปี พ.ศ. 2547-2548 ทว่ากลับต้องไปเสียชีวิตในแผ่นดินที่ไม่ใช่มาตุภูมิของตนเอง เพราะร่างถูกฝังที่สุสานวีรชนคนสำคัญของประเทศจีน
การจัดนิทรรศการในครั้งนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่อเชิดชูและแสดงความเป็นอัจฉริยะทางด้านงานเขียนให้คนรุ่นปัจจุบันได้รับรู้ เพื่อสร้างแรงจูงใจให้เกิดความรักในสวนอักษรและการต่อสู้เพื่อประชาชนในยามที่ประเทศชาติไร้ความยุติธรรมอย่างองอาจและสง่างาม ซึ่งต้องขอบคุณทางกรุงเทพมหานครอย่างยิ่งที่ช่วยสนับสนุนการจัดนิทรรศการดีๆ เช่นนี้ขึ้น
“นิทรรศการดังกล่าวจะไม่มีการมาบอกเล่าถึงประวัตินิยายไทย แต่ถ้าต้องการรู้ว่านิยายมีอิทธิพลต่อโลกอย่างไร นิยายสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงได้อย่างไร นิยายเป็นเครื่องมือในการต่อสู้ได้หรือไม่อย่างไรนั้น นิทรรศการโลกคือนิยายจะทำให้ลืมนิทรรศการเกี่ยวกับนิยายที่ทุกท่านเคยชมมาอย่างสิ้นเชิง”
นายจรัญยังเผยอีกด้วยว่า นอกจากนิทรรศการดังกล่าวแล้วยังมีกิจกรรมในงานที่น่าสนใจอีกมากมาย เช่น “นิทรรศการยิ่งเล่น ยิ่งรู้ เปิดประตูสู่สุวรรณภูมิ” โดย มิวเซียมสยาม, “นิทรรศการอ่านประเทศเพื่อนบ้าน อ่านวรรณกรรม” โดยสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย, โซนอ่านสนุกอย่าง “Book Wonderland” ดินแดนที่จะทำให้คุณตื่นเต้นไปกับจินตนาการแห่งโลกหนังสือ พร้อมของรางวัลมากมายที่แจกไม่อั้นในทุกวัน รวมถึง “ถนนโดนใจ” ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรก และการเปิดตัว 2 กิจกรรมเพื่อมุ่งสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้วงการหนังสือไทยในระดับชาติและระดับสากล
คือ “www.thaibooksociety.com” ครั้งแรกที่ทุกองค์ประกอบของวงการหนังสือจะมารวมตัวกันในเว็บไซต์ที่สร้างขึ้นเพื่อทุกภาคส่วนของคนทำหนังสือ และ “โครงการ ๑ อ่าน ล้านตื่น” ชวนสร้างปัญญาด้วยการร่วมมอบหนังสือคุณภาพ สนับสนุนให้มีห้องสมุดเด็กและครอบครัวในชุมชน
งานสัปดาห์หนังสือฯ ครั้งนี้มีความเปลี่ยนแปลงเพื่อความสุขที่เพิ่มขึ้นของหนอนหนังสือ คือ มีการแบ่งโซนเป็นถนนสายหนังสืออย่างชัดเจนในชื่อ “ถนนโดนใจ” ซึ่งเป็นครั้งแรกที่นักอ่านในแต่ละแนว เช่น วรรณกรรมอินดี้, หนังสือสำหรับเด็กและเยาวชน, หนังสือเก่าหายาก จะได้พบกับหนังสือเล่มโปรดในถนนเส้นเดียว โดยจะมีการตกแต่งและแสดงสัญลักษณ์ของแต่ละโซนอย่างเด่นชัด เพื่อความสนุกและความสุขของนักอ่านทุกท่าน
“ที่สำคัญเรายังคงทำกิจกรรม PUBAT Charity ปันกันอ่าน แบ่งกันให้ อย่างต่อเนื่อง เพราะการให้โอกาสทางการอ่านแก่ผู้ที่ขาดโอกาสเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง โดยโครงการทอฝัน ปันหนังสือให้น้อง ปีนี้จัดเป็นครั้งที่ 30 แล้ว โดยจะมอบบัตรกำนัลแก่เด็กด้อยโอกาสจากองค์กรต่างๆ 400 คน มูลค่าคนละ 400 บาท เพื่อนำไปเลือกซื้อหนังสือที่สนใจภายในงานด้วย โดยหวังว่านักอ่านจะมาสร้างความสุข ความสนุก และความรู้ร่วมกันในงานนี้ เพื่อที่วันหนึ่งสิ่งที่เราได้อ่านอาจจะเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้สังคมไทยสามารถข้ามผ่านความขัดแย้งไปได้” นายจรัญกล่าวในที่สุด
“งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 42 และสัปดาห์หนังสือนานาชาติ ครั้งที่ 12 (42nd National Book Fair & 12th Bangkok International Book Fair 2014)” จะเริ่มขึ้นระหว่างวันศุกร์ที่ 28 มีนาคม-จันทร์ที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2557 (11 วัน) ตั้งแต่เวลา 10.00-21.00 น. ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์