ก.พลังงานระดมทุกหน่วยงานการันตีพร้อมรับแผนหยุดซ่อท่อก๊าซฯ แหล่งบงกช 10-27 เม.ย.นี้ และแหล่ง JDA 13 มิ.ย.-10 ก.ค. 57 รับห่วงกรณี JDA สุดลั่นแผนฉุกเฉินจริงดับไฟบางพื้นที่จะไม่ซ้ำรอยดับใหญ่ 14 จว.ใต้มั่นใจแผนนี้จะไม่ได้ใช้ ขณะที่ “ปตท.” ยอมรับ 14 ปั๊ม NGV ใน 3 จว.ภาคใต้กระทบ 13-22 มิ.ย. 57 บางปั๊มอาจต้องปิดหรืออาจมีก๊าซฯ ไม่เพียงพอ แต่จะทำให้ดีสุด เล็งระดมขนจากที่อื่นเสริม
นายสุเทพ เหลี่ยมศิริเจริญ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้มอบหมายให้กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ (ธช.) ประสานกับ บมจ.ปตท.ที่จะกำหนดแผนการซ่อมบำรุงท่อส่งก๊าซธรรมชาติทั้งจากแหล่งภายในและประเทศเพื่อนบ้านในเป็นระยะยาว 5 ปีเพื่อที่จะทำให้สามารถนำมาวางแผนรับมือสถานการณ์ด้านไฟฟ้าที่ขณะนี้ต้องพึ่งก๊าซฯ ผลิตถึง 70% ไม่ให้มีผลกระทบเป็นวงกว้าง เช่นกรณีไฟดับ 14 จังหวัดภาคใต้ อย่างไรก็ตาม ล่าสุดแผนหยุดซ่อมท่อก๊าซฯ ปี 2557 ซึ่งจะมีหยุดซ่อม 2 แห่งคือบงกช และ JDA (พื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย) ได้ดำเนินการรองรับไว้หมดแล้วทุกกรณี โดยเฉพาะหากเลวร้ายสุดในภาคใต้จะเลือกดับไฟเป็นบางพื้นที่แทนให้ดับใหญ่ 14 จังหวัด
ทั้งนี้ แหล่งบงกชจะซ่อมท่อขนาด 32 นิ้วตั้งแต่วันที่ 10-27 เม.ย. รวม 18 วัน ส่งผลให้ปริมาณก๊าซฯ หายไปราว 630 ล้านลูกบาศก์ (ล้าน ลบ.) ฟุตต่อวัน ซึ่งทุกส่วนได้เตรียมแผนรองรับไว้หมดแล้วและไม่น่ากังวลแต่อย่างใด ส่วนระหว่างวันที่ 13 มิ.ย.-10 ก.ค. 57 จะปรับปรุงระบบเพิ่มความสามารถจ่ายก๊าซฯ แหล่ง JDA ระยะเวลา 28 วัน จะกระทบต่อก๊าซหายไปราว 400 ล้าน ลบ.ฟ.ต่อวัน ซึ่งจะทำให้โรงไฟฟ้าจะนะกำลังผลิต 700 เมกะวัตต์หายไปทันที ขณะความต้องการใช้ไฟฟ้าในภาคใต้อยู่ที่ 2,543 เมกะวัตต์ แต่กำลังการผลิตในพื้นที่มี 2,300 เมกะวัตต์ จะทำให้ไฟฟ้าขาดแคลนในช่วงพีกหัวค่ำ 200 เมกะวัตต์
“ยอมรับว่ากรณี JDA ถ้าวางแผนไม่ดีเสี่ยงที่จะไฟภาคใต้จะดับอีกแต่เรามีแผนสำรองไว้ 3 กรณีคือจะรณรงค์ประหยัดพลังงานในทุกภาคส่วนเพื่อลดความต้องการใช้ไฟฟ้าลงให้ได้ 200 เมกะวัตต์ ถ้ากรณีนี้ไม่ได้ผลก็จะให้ กฟผ.มองหาไฟจากส่วนกลางส่งผ่านยังวงจรสายส่งเพิ่มอีกวงจรหนึ่งจากเดิม 500 เมกะวัตต์ก็จะสูงได้เป็น 700 เมกะวัตต์ แต่ถ้ากรณียังไม่พออีกฉุกเฉินจริงๆ ก็จะให้ กฟผ.ประสานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคดับไฟบางพื้นที่ในที่ที่ไม่กระทบเศรษฐกิจเพื่อไม่ให้ดับในวงกว้าง ซึ่งมั่นใจว่ากรณีเลวร้ายจะไม่เกิดขึ้น” นายสุเทพกล่าว
นายชาครีย์ บูรณกานนท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ หน่วยธุรกิจก๊าซธรรมชาติ บมจ.ปตท.กล่าวว่า กรณีแหล่งบงกชไม่กระทบต่อการจัดหา NGV แต่อย่างใด แต่ยอมรับว่ากรณี JDA หยุดเป็นช่วงเดียวกับที่ บ.ทรานส์ ไทยมาเลเซีย หรือ TTM ต้องหยุดโรงแยกก๊าซฯ ไปด้วยในช่วง 10 วันแรกทำให้ มีผลกระทบต่อการให้บริการปั๊ม NGV ทางภาคใต้ใน 3 จังหวัด ได้แก่ สงขลา สุราษฎ์ธานี และนครศรีธรรมราช รวม 14 แห่ง โดยเป็นนอกแนวท่อก๊าซฯ 13 แห่ง และในแนวท่อก๊าซฯ 1 แห่ง ระหว่างวันที่ 13 มิ.ย.-22 มิ.ย. 57
ปัจจุบันความต้องการใช้เอ็นจีวีทางภาคใต้อยู่ที่ 190 ตันต่อวัน เบื้องต้นช่วง 10 วันที่ก๊าซฯ จะหายไปทั้งหมดนั้นได้วางแผนที่จะนำรถยนต์ NGV จากที่อื่น เช่น จ.ราชบุรี สมุทรปราการเข้าจ่ายแทนให้มากที่สุดเท่าที่จะดำเนินการได้ ซึ่งยอมรับว่าอาจจะทำให้ปั๊มบางแห่งปิดชั่วคราว หรือมีก๊าซฯ แต่คงไม่สามารถบริการได้ตลอด โดย ปตท.จะบริหารจัดการให้เกิดผลกระทบน้อยสุด โดยหลังจาก 10 วันไปแล้วทาง TTM จะเริ่มกลับมาเป็นปกติก็จะทยอยส่งก๊าซฯ ที่ค้างท่อออกมาสถานการณ์ก็จะเริ่มกลับสู่ภาวะปกติได้
