กรมการขนส่งฯ ปรับปรุงประกาศการกำหนดคุณลักษณะและระบบการทำงานของเครื่อง GPS ที่ติดตั้งในรถบรรทุกวัตถุอันตรายเพื่อให้มีความเหมาะสมกับการใช้งาน และควบคุมพฤติกรรมผู้ขับรถได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
นายวัฒนา พัทรชนม์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยว่า ตามที่กรมการขนส่งทางบกได้มีประกาศกำหนดคุณลักษณะและระบบการทำงานของเครื่องบันทึกข้อมูลการเดินทางของรถ สำหรับรถที่ใช้ในการขนส่งวัตถุอันตราย พ.ศ. 2555 ลงวันที่ 22 พฤศจิกายน 2555 ไว้แล้วนั้น ทั้งนี้ เพื่อให้การรายงานผลของเครื่อง GPS มีประสิทธิภาพ และเหมาะสมกับการใช้งาน จึงเห็นควรให้มีการปรับปรุงประกาศกรมการขนส่งทางบก เรื่อง การกำหนดคุณลักษณะและระบบการทำงานของเครื่องบันทึกข้อมูลการเดินทางของรถ สำหรับรถที่ใช้ในการขนส่งวัตถุอันตราย (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2557 ขึ้น โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 6 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
โดยประกาศดังกล่าวกำหนดให้เครื่อง GPS ต้องมีระบบการทำงาน ดังนี้ ต้องทำงานตลอดเวลาที่เครื่องยนต์ทำงาน สามารถจัดส่งรายงานข้อมูลการใช้งานของรถในลักษณะที่เป็นปัจจุบัน (Real time) ผ่านทางโครงข่ายโทรคมนาคมให้แก่ศูนย์บริหารจัดการเดินรถด้วยระบบกำหนดตำแหน่งบนโลก (Global Positioning System : GPS) โดยจะต้องมีรายละเอียดของข้อมูล ประกอบด้วย ข้อมูลเกี่ยวกับเครื่องบันทึกข้อมูลการเดินทางของรถ ได้แก่ หมายเลขการรับรอง และหมายเลขเครื่อง GPS ข้อมูลการใช้งานของรถ ได้แก่ วัน เวลา ความเร็ว ตำแหน่งพิกัด สถานะของเครื่องยนต์ สถานะของสัญญาณ สถานะของข้อมูล และลำดับของข้อมูล และข้อมูลผู้ขับรถ ได้แก่ ข้อมูลใบอนุญาตขับรถ รวมทั้งข้อมูลการปลดหรือถอดเครื่อง GPS ด้วย
ทั้งนี้ เมื่อผู้ให้บริการระบบติดตามรถติดตั้งเครื่อง GPS ให้แก่ผู้ประกอบการขนส่งรายใดแล้ว ต้องติดตั้งเครื่องหมายรับรองจากกรมการขนส่งทางบกไว้ที่เครื่อง GPS หรือบริเวณใกล้เคียง หรือภายในห้องผู้ขับรถในตำแหน่งที่เห็นชัดเจน โดยเครื่องหมายต้องชัดเจนไม่ลบเลือน, ต้องออกหนังสือรับรองการติดตั้งเครื่อง GPS ตามแบบที่กรมการขนส่งทางบกกำหนดให้ผู้ประกอบการขนส่งหรือเจ้าของรถ เพื่อนำไปใช้เป็นหลักฐานประกอบการตรวจสภาพรถ และดำเนินการทางทะเบียน และต้องส่งข้อมูลการติดตั้ง เปลี่ยน ถอด หรือยกเลิกการใช้เครื่อง GPS ให้กรมการขนส่งทางบกทราบด้วย โดยต้องจัดเก็บข้อมูลการเดินทางไว้ไม่น้อยกว่า 6 เดือน ทั้งนี้ ผู้ให้บริการระบบติดตามรถต้องแก้ไขปรับปรุงเครื่อง GPS ที่ได้รับการรับรองไว้ก่อนวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2557 ให้มีระบบการทำงานและสามารถรายงานข้อมูลการใช้งานของรถให้เป็นไปตามประกาศนี้ภายในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2557 ทั้งนี้ เพื่อเป็นการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนจากรถบรรทุกวัตถุอันตรายได้อีกทางหนึ่ง
