กรมพัฒนาธุรกิจการค้าไอเดียเจ๋ง เปิดดาวน์โหลดแอปพลิเคชันตรวจค้นข้อมูลทะเบียนนิติบุคคลเพิ่มความสะดวกในการทำธุรกิจ เตรียมเดินหน้าให้ยื่นจดตั้งบริษัทใหม่ข้ามเขตได้ พร้อมมองไกลถึงการยื่นจดจัดตั้งออนไลน์ เล็งนำร่อง 100 บริษัทยื่นงบการเงินออนไลน์ เม.ย.นี้ แนะธุรกิจรีบส่งงบการเงินไม่ต้องรอให้ถึงเส้นตาย ย้ำถ้าไม่ส่งเจอดำเนินคดีทุกราย
น.ส.ผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า กรมฯ ได้พัฒนาโมบายล์แอปพลิเคชัน DBD e-Service เพื่อให้ก้าวทันโลกโซเชียลเน็ตเวิร์ก โดยผู้ใช้บริการสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันดังกล่าวได้ทั้งระบบปฏิบัติการไอโอเอสและแอนดรอยด์ผ่านกูเกิลเพย์ และแอปสโตร์ และสามารถใช้บริการงานต่างๆ ของกรมฯ ผ่านมือถือ โดยสามารถตรวจสอบข้อมูลนิติบุคคล ข่าวต่างๆ ของกรมฯ และสถานที่ให้บริการของกรมฯ ซึ่งทำให้ผู้ประกอบการได้รับความสะดวกสบาย ประหยัดเวลา และค่าใช้จ่าย
ทั้งนี้ ในการตรวจค้นข้อมูลทะเบียนธุรกิจสามารถตรวจสอบชื่อนิติบุคคล สถานที่ตั้ง กรรมการบริษัท ทุนจดทะเบียน ซึ่งถือเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบการ นอกเหนือจากการมาขอยื่นตรวจสอบได้ที่หน่วยงานให้บริการของกรมฯ
น.ส.ผ่องพรรณกล่าวว่า กรมฯ ยังมีแผนที่จะเพิ่มการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจ โดยหลังจากที่เปิดให้มีการจองชื่อนิติบุคคลออนไลน์ได้แล้ว กรมฯ กำลังพิจารณาให้มีการจดทะเบียนข้ามเขตได้ จากเดิมที่บริษัทห้างร้านตั้งอยู่ในพื้นที่ไหนก็ต้องยื่นจดทะเบียนในพื้นที่นั้น แต่ต่อไปจะขยายการให้บริการเป็นไม่ว่าบริษัทจะตั้งอยู่ที่ไหนก็สามารถยื่นจดทะเบียนได้ในหน่วยบริการพื้นที่ใดของกรมฯ ก็ได้ และยังมีแผนที่จะพัฒนาให้มีการยื่นจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคลผ่านระบบออนไลน์ได้ด้วย โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการเพื่อเตรียมความพร้อม
สำหรับความคืบหน้าการเปิดให้บริการส่งงบการเงินผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Filing) กรมฯ จะเปิดนำร่องให้ธุรกิจที่มีความพร้อมจำนวน 100 รายยื่นส่งงบการเงินออนไลน์ในเดือน เม.ย. 2557 นี้ ซึ่งล่าสุดมีผู้สนใจเข้าร่วมมากถึง 377 ราย โดยการยื่นงบการเงินออนไลน์ดังกล่าวถือเป็นนวัตกรรมใหม่ที่จะพลิกโฉมการส่งงบการเงินของไทย เพราะจะช่วยให้ธุรกิจประหยัดเวลา ค่าใช้จ่าย ไม่ต้องเดินทางมายื่นงบการเงินที่กรมฯ โดยตั้งเป้าหมายไว้ว่าภายใน 3 ปีจะผลักดันให้นิติบุคคลยื่นงบการเงินผ่านระบบออนไลน์ทั้งหมด
ส่วนการยื่นงบการเงินในปีนี้กรมฯ จะผลักดันให้นิติบุคคลที่มีอยู่ทั่วประเทศประมาณ 555,265 ราย ยื่นส่งงบการเงินให้ได้มากที่สุด และอยากให้นิติบุคคลที่จัดทำงบการเงินเสร็จแล้วให้ยื่นส่งงบการเงินได้ตั้งแต่เนิ่นๆ ไม่จำเป็นต้องรอให้ถึงช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือน พ.ค. 2557 เพราะการไปยื่นส่งงบการเงินในช่วงนั้นจะทำให้ได้รับบริการที่ไม่สะดวก
และหากงบการเงินผิดพลาดก็ไม่สามารถแก้ไขได้ทันเวลา เสี่ยงต่อการฝ่าฝืนกฎหมาย และอาจโดนปรับ ทั้งนี้ กรณีที่ธุรกิจที่ไม่นำส่งงบการเงิน หรือไม่ส่งสำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นภายในเวลาที่กำหนดกรมฯ จะดำเนินคดีทุกราย
โดยการยื่นงบการเงิน กรมฯ ได้เพิ่มความสะดวกโดยลดขั้นตอนจำนวนงบการเงินที่ต้องนำส่งเหลือเพียงชุดเดียวทั่วประเทศ ซึ่งสามารถนำส่งงบการเงินได้ 2 ช่องทาง คือ ทางไปรษณีย์ ณ ที่ทำการไปรษณีย์ทุกแห่งทั่วประเทศ และนำส่งด้วยตนเอง ณ หน่วยงานของกรมฯ ทั้งในส่วนกลางที่สนามบินน้ำ สำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าเขต 1-6 ในกรุงเทพฯ และที่สำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าทุกจังหวัด และอีก 4 สาขา ได้แก่ แม่สอด หัวหิน เมืองพัทยา และเกาะสมุย