สหวิริยาสตีลฯ ตั้งเป้าปลายปีนี้โรงถลุงเหล็กที่อังกฤษถึงจุดคุ้มทุน โดยเตรียมขยายกำลังการผลิตเหล็กแท่งแบนเพิ่มขึ้นจาก 7-8 พันตัน/วันเป็น 1 หมื่นตัน/วัน และผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อนเพิ่มขึ้นอีก 15% รองรับความต้องการใช้ที่เพิ่มขึ้นหลังรัฐออกมาตรการปกป้องอุตสาหกรรมในประเทศ แย้มจ่อเจรจาเจ้าหนี้ขอปรับโครงสร้างหนี้ที่ครบกำหนด 3 ปี 6 พันล้านบาท
นายณรงค์ฤทธิ์ โชตินุชิตตระกูล รักษาการประธานเจ้าหน้าที่การเงิน บริษัท สหวิริยาสตีล อินดัสตรี จำกัด (มหาชน) (SSI) เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายที่จะแก้ปัญหาการขาดทุนโรงถลุงเหล็ก SSI UK โดยจะเพิ่มกำลังการผลิตเหล็กแท่งแบนเพิ่มขึ้นจาก 7 พันตัน/วันเป็น 1 หมื่นตัน/วัน ทำให้ค่าใช้จ่ายคงที่ลดลง รวมทั้งยังอยู่ระหว่างการศึกษาที่จะเพิ่มประสิทธิภาพโรงไฟฟ้า โดยอาจจะขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้นในอนาคตด้วย ส่วนนโยบายการตลาดยังเน้นการจำหน่ายเหล็กแท่งแบน (SLAB) ให้ลูกค้าอื่นที่ไม่ใช่บริษัทฯ เป็นสัดส่วนเกิน 50% ของปริมาณการขาย คาดว่า SSI UK ถึงจุดคุ้มทุนได้ (EBITDA BREAK EVEN) ในปลายปีนี้ ทำให้ผลประกอบการสหวิริยาสตีลฯ ในปีนี้ดีขึ้น
ทั้งนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายการผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อนในปีนี้เพิ่มขึ้น 15% จากปีก่อนที่ผลิตอยู่ 2.1 ล้านตัน เนื่องจากกระทรวงพาณิชย์ได้ออกมาตรการป้องกันทุ่มตลาดเหล็กแผ่นรีดร้อนเจือโบรอนไปเมื่อปีที่แล้ว และขณะนี้อยู่ระหว่างการไต่สวนเหล็กแผ่นรีดร้อนที่ไม่เจือโบรอนด้วย คาดว่าจะใช้เวลา 1 ปีจึงออกประกาศมาตรการได้ ทำให้ช่วยลดปริมาณการทุ่มตลาดเหล็กแผ่นรีดร้อนนำเข้าจากต่างประเทศได้ ขณะที่มาตรการป้องกันการทุ่มตลาดเหล็กแผ่นรีดเย็นก็ได้รับการต่ออายุออกไปอีก 5 ปี
โดยไตรมาสแรกปีนี้บริษัทฯ คาดว่าจะมีปริมาณการขายเหล็กแผ่นรีดร้อนเพิ่มขึ้น 5-10%จากไตรมาสก่อน ขณะที่ราคาเหล็กแผ่นรีดร้อนก็ขยับขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อเทียบจากปลายปี 2556 มาอยู่ที่ตันละ 650 เหรียญสหรัฐ ดีขึ้น 2% จากไตรมาส 4/56 ส่งผลให้ไตรมาส 1 นี้มาร์จิ้นการรีดหล็กแผ่นรีดร้อนอยู่ที่ 18-20%
ส่วนโรงถลุงเหล็กที่อังกฤษในปีนี้ตั้งเป้าหมายผลิตเหล็กแท่งแบน (SLAB) เพิ่มขึ้นอีก 15% จากปีก่อนผลิตอยู่ 2.8 ล้านตัน เนื่องจากตลาดสหรัฐฯ และสหภาพยุโรปฟื้นตัวดีขึ้น ทำให้มีความต้องการใช้เหล็กแท่งแบนเพิ่มขึ้นและสเปรดราคาก็ดีขึ้นด้วย โดยไตรมาสนี้จะผลิตเหล็กแท่งแบนได้ใกล้เคียงไตรมาส 4/56 มาอยู่ที่ 4 แสนตัน เนื่องจากความต้องการใช้เหล็กแท่งแบนในไทยน้อยลงจากภาวะตลาดภายในประเทศที่ชะลอตัวจากปัญหาการเมืองและโครงการรถยนต์คันแรกที่สิ้นสุดลง ทำให้กำลังการผลิตส่วนใหญ่เป็นการขายให้บริษัทอื่นๆ แทนส่งเข้ามาให้สหวิริยาสตีลฯ ในไทย
“ในปี 2556 บริษัทขาดทุนสุทธิ 7 พันล้านบาท พบว่าโรงงานผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อนในไทยมีผลกำไร 210 ล้านบาท แต่โรงถลุงเหล็กที่อังกฤษยังขาดทุนถึง 7.2 พันล้านบาท ดังนั้นทำอย่างไรจะลดต้นทุนลงให้มากที่สุด ซึ่งขณะนี้ผู้บริหารบริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาที่จะปรับโครงสร้างทางการเงินเพื่อลด D/E ลงจากปัจจุบันอยู่ที่ 4.8 เท่า”
นายณรงค์ฤทธิ์กล่าวต่อไปว่า ในปีนี้บริษัทฯ มีแผนที่จะเจรจาสถาบันการเงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ที่จะครบกำหนดชำระใน 3 ปีของบริษัท สหวิริยาสตีลฯ ในไทยวงเงิน 6 พันล้านบาท โดยปีนี้มีหนี้ที่ครบกำหนดชำระ 1.8 พันล้านบาท และปีถัดไปอีก 4.1 พันล้านบาท