เอกชนกังวลเศรษฐกิจไทยปีนี้อาจปูทางนำไปสู่วิกฤตกว่าต้มยำกุ้งได้หากการเมืองยืดเยื้อไม่มีรัฐบาลจริงบริหารเกิน 6 เดือน แถมรัฐบาลปัจจุบันก็ล้มเหลวหรือ Failed State ชี้กลไก ศก.ทุกด้านนิ่งสนิท ทั้งการบริโภคในประเทศดิ่ง ส่งออก-ท่องเที่ยวเดี้ยงเจอ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ชี้เงินออมเริ่มลดส่งสัญญาณคนจนลง จวกรัฐไม่ละอายชาวนาออกมาขนาดนี้ต้องรับผิดชอบ
นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้รัฐบาลถือว่าเป็นรัฐที่ล้มเหลวหรือ Failed State ที่ไม่สามารถบริหารจัดการอะไรได้แล้วและมองว่าปัญหาการเมืองที่ยืดเยื้อต่างฝ่ายไม่ยอมจะทำให้การได้มาซึ่งรัฐบาลใหม่จะยาวเกิน 6 เดือน หากเป็นเช่นนี้จะกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจไทยให้เสี่ยงกว่าวิกฤตต้มยำกุ้งได้เนื่องจากทุกอย่างจะหยุดชะงักตั้งแต่การลงทุน การบริโภค และการที่รัฐบาลประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินยังกระทบต่อการท่องเที่ยวและการส่งออก ซึ่งกลไกเศรษฐกิจทุกส่วนประสบปัญหาหมด
“วิกฤตต้มยำกุ้งเราแย่จากสถาบันการเงินจึงไม่ปล่อยกู้ทำให้การลงทุนหยุดชะงัก แต่การส่งออก ท่องเที่ยวดีมากทำให้ทุกอย่างกลับมาฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว แต่ครั้งนี้มันตรงกันข้ามคือการบริโภคในประเทศแย่ การส่งออกก็ยังไม่ดีเพราะตลาดโลกขาดเชื่อมั่น ยิ่งเรามี พ.ร.ก.ฉุกเฉินยิ่งไปใหญ่การท่องเที่ยวไม่ต้องพูด แต่ที่หนักเมื่อเราไร้รัฐบาลที่จะออกมาหามาตรการกระตุ้น ศก.ก็ไม่มี หรือมีขณะนี้ก็ยัง Failed State ทุกอย่างก็จะหยุดหมด” นายธนิตกล่าว
นายสมมาต ขุนเศษฐ รองประธาน ส.อ.ท.กล่าวว่า มีความกังวลต่อเศรษฐกิจไทยมากขึ้นหากการเมืองยังไร้จุดหมายว่าจะจบอย่างไรแน่ และปัญหาที่เกิดขึ้นล้วนแล้วมาจากรัฐบาลเป็นฝ่ายกระทำโดยเฉพาะ พ.ร.ก.ฉุกเฉินประกาศแล้วแต่คุมอะไรไม่ได้ทำให้ต่างชาติขาดความเชื่อมั่นทั้งที่การชุมนุมเป็นไปด้วยความสงบที่ผ่านมา นอกจากนี้ กรณีชาวนาที่ออกมาทวงเงินนั้นถือเป็นครั้งประวัติศาสตร์ ซึ่งถ้าเป็นรัฐบาลอื่นเขาก็คงจะต้องแสดงความรับผิดชอบแล้ว
“ผมเชื่อนะว่ารัฐบาลถังแตกเพราะข้าวที่ชาวนาเอามาจำนำไปไหนรัฐบาลต้องเอาออกมาให้เห็น และเงินที่ชาวนาควรจะได้มาตั้งนานไปไหนทั้งที่เป็นเงินของเขา และการที่รัฐบาลมีการแยกการจ่ายเงินบางที่ได้ครบแต่อีกส่วนใหญ่ไม่ได้หมายความว่าอย่างไรทำให้เกิดการแตกแยก” นายสมมาตกล่าว
