“โชคชัย” แจงเลิกบินหาดใหญ่แค่ชั่วคราว อ้าง Low Season ผู้โดยสารน้อยให้ไทยสมายล์บินเพราะเครื่องบินลำเล็กกว่า เป็นการบริหารที่เหมาะสม ยันรายได้เข้าการบินไทยเพราะถือหุ้นในไทยสมายล์ 100% ยอมรับปัญหาการเมืองไทยกระทบผู้โดยสาร Q1/57 ตกฮวบ เฉพาะจีนหายไปเกือบ 30% แต่ยังไม่ปรับเป้ารายได้ทั้งปี 57 ที่ 2 แสนล้านบาท Ebitda ไม่น้อยกว่า 2 หมื่นล้านบาท
นายโชคชัย ปัญญายงค์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่อาวุโสสายการพาณิชย์ และรักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (ดีดี) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงกรณีที่การบินไทยจะหยุดทำการบินที่สถานีหาดใหญ่ โดยให้สายการบินไทยสมายล์ทำการบินแทนตั้งแต่วันที่ 30 มีนาคม 2557 เป็นต้นไปว่า เป็นการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสมของภาวะตลาด ซึ่งในช่วง Low Season การบินไทยจะมีผู้โดยสารค่อนข้างน้อย โดยมีอัตราส่วนบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) เพียง 50-60% เท่านั้น ซึ่งการใช้เครื่องบินลำใหญ่จึงไม่เหมาะสม จึงปรับให้ไทยสมายล์ซึ่งใช้เครื่องบินลำเล็กกว่าทำการบิน ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้นายปานฑิต ชนะภัย กรรมการผู้จัดการหน่วยธุรกิจการบริการภาคพื้น(ระดับรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่) ลงไปชี้แจงทำความเข้าใจกับพนักงานที่สถานีหาดใหญ่
“การบินไทยไม่ได้หยุดบินหาดใหญ่ถาวร แต่เป็นการสลับกับไทยสมายล์ตามภาวะตลาด เป็นยุทธศาสตร์ เพราะเมื่อมี 2 สายการบินเป็นเครื่องมือก็ต้องบริหารจัดการให้เหมาะสม การบินไทยถือหุ้นในไทยสมายล์ 100% รายได้ของไทยสมายล์เข้าการบินไทยทั้งหมด ส่วนพนักงานที่หาดใหญ่ก็ยังทำงานเหมือนเดิมเพราะบริการของการบินไทยกับไทยสมายล์ใช้ร่วมกัน ส่วนที่กังวลเรื่องผู้โดยสารระดับพรีเมียม ไทยสมายล์มีไทยสมายล์ พลัส ที่บริการทุกอย่างเหมือนการบินไทย” นายโชคชัยกล่าว
นายโชคชัยกล่าวว่า ตั้งแต่เดือนตุลาคม-ธันวาคม 2556 (ไตรมาส 1/57) ต่อเนื่องเดือนมกราคม 2557 ปริมาณผู้โดยสารในภาพรวมลดลงโดยเฉพาะผู้โดยสารจากจีนและฮ่องกงลดลงเกือบ 30% จากปกติเฉลี่ยกว่า 1 ล้านคน โดยมีสาเหตุจากเรื่องทัวร์ศูนย์เหรียญในช่วงแรก และขณะนี้ที่กระทบมากคือปัญหาการเมืองภายในประเทศของไทย แม้ว่าทางด้านการท่องเที่ยวจะคาดว่าในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม 2557 น่าจะเริ่มดีขึ้นแต่ในส่วนของการบินไทยยังไม่เห็นสัญญาณฟื้นตัว ซึ่งยอมรับว่าหากสถานการณ์ไม่ดีขึ้นอาจจะส่งผลกระทบต่อผลประกอบการในไตรมาส 3 และ 4 ปี 2557 ได้ จึงต้องจับตาอย่างใกล้ชิดเพื่อปรับตารางบินได้ทัน
ทั้งนี้ ในเดือนมกราคม 2557 มี Cabin Factor รวมเฉลี่ยอยู่ที่ 72% จากปกติจะอยู่ที่ 78% ส่วนเดือนกุมภาพันธ์คาดว่าจะอยู่ในระดับ 71-72% โดยแยกเฉพาะเส้นทางในภูมิภาค Cabin Factor ลดลงเหลือ 68% ส่วนไตรมาส 2/57 นั้นคาดว่า Cabin Factor จะอยู่ในระดับเดียวกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว คือประมาณ 71% เพราะเป็น Low Season ซึ่งการบินไทยได้ปรับลดเที่ยวบินลงประมาณ 10% เพื่อให้เหมาะสมกับตลาด โดยยังคงเป้าหมาย Cabin Factor ทั้งปี 57 ไว้ที่เฉลี่ย 74-76% รายได้รวมทั้งปีไว้ที่ 2 แสนล้านบาท และกำไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษี (Ebitda) ไม่น้อยกว่า 2 หมื่นล้านบาท
ส่วนกรณีญี่ปุ่นประสบภาวะหิมะตกหนักนั้น ทำให้มีเที่ยวบินของการบินไทยที่ต้องยกเลิกและล่าช้าบ้าง แต่ไม่กระทบมากนักเพราะผู้โดยสารปรับมาใช้บริการที่นาริตะแทนเชนได