ASTVผู้จัดการรายวัน-การบินไทยโงหัวไม่ขึ้น ปรับลดเป้ารายได้ปี56 เหลือ 2 พันล. จากเดิมตั้งไว้ที่ 6 พันล. "สรจักร"ยอมรับเจอหลายปัจจัยกระทบ เผยม๊อบการเมืองทำ ผู้โดยสารในประเทศลด2-3% ส่วนต่างประเทศเจอปัญหาศก.ฉุดตลาดใหญ่ อย่างอินเดียและจีนลด เตรียมทำแผนพลิกฟื้นธุรกิจ ปรับโครงสร้างและการทำงานใหม่สู้ตลาดการบินปี57 ที่จะรุนแรงมากขึ้น
นายสรจักร เกษมสุวรรณ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทได้ปรับเป้าผลประกอบการปี 2556 ใหม่ โดยกำไรสุทธิจะอยู่ที่ประมาณ 2,000 ล้านบาทเศษ ซึ่งได้รายงานต่อที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาแล้วซึ่งเป็นการปรับลดเป้าหมายกำไรลงจากเดิมเมื่อต้นปีตั้งไว้ที่ 6,000 ล้านบาทและปรับลงมาที่ 4,000
ล้านบาทก่อนหน้านี้ ซึ่งจะต้องติดตามผลประกอบการในไตรมาส4/2556 อย่างใกล้ชิดเพราะรายได้ยังไม่เป็นไปตามที่คาดไว้ ซึ่งจะต้องใช้ทุกกลยุทธ์ด้านการตลาดเพื่อเร่งการขายให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ในขณะเดียวกันต้องลดค่าใช้จ่ายด้วยแต่จะต้องไม่ให้กระทบต่อความปลอดภัยและคุณภาพในการให้บริการ
โดยผลประกอบการในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ต้องยอมรับจำนวนผู้โดยสารเส้นทางภายในประเทศลดลงประมาณ 2-3% โดยเฉพาะช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมีปัจจัยมาจากการชุมนุมทางการเมือง แต่ยังไม่ส่งผลกระทบชัดเจนกับเส้นทางระหว่างประเทศ ซึ่งขณะนี้มี 2 เส้นทางที่ผู้โดยสารลดลง คือ อินเดียซึ่งสาเหตุมาจากภาวะเศรษฐกิจของอินเดียที่ตกต่ำ ทำให้คนอินเดียเดินทางน้อยลง
โดยข้อมูลจากสถานทูตไทนในอินเดียพบว่าคนอินเดียทำวีซ่ามาไทยลดลง 10-15% และจีน ลดลงเพราะมาตรการทัวร์ศูนย์เหรียญ โดยคาดว่าจะกระทบในระยะสั้นๆ 2-3 เดือน ส่วนเส้นทางเกาหลีและญี่ปุ่นยังมีการจองตั๋วปกติ
นายสรจักรกล่าวว่า ใปีนี้ต้องยอมรับว่าบริษัทฯมีรายจ่ายสูงมาก ส่วนรายได้ที่คาดว่าจะได้สูงกว่าค่าใช้จ่ายในจำนวนหนึ่ง ก็อาจจะได้มากกว่าค่าใช้จ่ายไม่มากนัก ซึ่งตนรายงานบอร์ดว่าจะทำแผนพลิกฟื้นธุรกิจ ( Business Turn Around Plan) ในปี 2557 โดยจะเสนอที่ประชุมบอร์ดในเดือนธันวาคมนี้ เพื่อใช้เป็นโรดแมปในการปรังองค์กรทั้งในเรื่องโครงสร้าง วิธีคิด วิธีการทำงานใหม่
ให้สอดคล้องกับการแข่งขันในธุรกิจการบินที่รุนแรงมากขึ้นและเพื่อสามารถตอบสนองความต้องการและความพึงพอใจของลูกค้าได้ครอบคลุม โดยมีเป้าหมายว่าจะต้องทำให้บริษัทฯมีกำไรมากขึ้น และมีค่าใช้จ่ายที่ลดลง ซึ่งในปี 2557 การแข่งขันจะรุนแรงมากขึ้นเพราะจะมีสายการบินเข้ามาให้บริการที่สนามบินดอนเมืองมากขึ้น
สำหรับการการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) ที่มีนายอำพน กิตติอำพน เป็นประธานเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายนนั้น ได้รายงานผลประกอบการในไตรมาส 3/ 2556 (ก.ค.-ก.ย.) ให้บอร์ดรับทราบแล้ว โดยอยู่ระหว่างแจ้งตลาดหลักทรัยพ์แห่งประเทศไทย พร้อมกันนี้บอร์ดได้รับทราบผลการดำเนินงานด้านการขนส่งประจำเดือนตุลาคม 2556 เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน บริษัทฯ
มีปริมาณการผลิตด้านผู้โดยสาร (Available Seat - Kilometer : ASK) เพิ่มขึ้น 10.2 % จากการรับมอบเครื่องบินใหม่และปรับเส้นทางบินให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้โดยสาร ปริมาณการขนส่งผู้โดยสาร (Revenue Passenger – Kilometer : RPK) เพิ่มขึ้น 7.2% ส่งผลให้มีอัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) รวมทั้งระบบเฉลี่ย 71.6 %ลดลงเมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเฉลี่ย 73.5% อย่างไรก็ตามจำนวนผู้โดยสารรวมเพิ่มขึ้นจาก 1.71 ล้านคนในเดือนตุลาคม 2555 เป็น 1.77 ล้านคนในเดือนตุลาคม 2556 หรือเพิ่มขึ้น3.5 %
ส่วนการดำเนินงานด้านการขนส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ ยังคงได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวและการแข่งขันที่รุนแรง เป็นผลให้ปริมาณการขนส่งสินค้าพัสดุภัณฑ์ (Revenue Freight Ton-Kilometers : RFTK) ลดลงจากเดือนเดียวกันของปีก่อน 0.9 % แต่ในขณะที่ปริมาณการผลิต (Available Dead Load Ton-Kilometers : ADTK) สูงกว่าปีก่อน 5.8 % จากการรับมอบเครื่องบินใหม่ ส่งผลให้มีอัตราส่วนการบรรทุกสินค้า (Freight Load Factor) โดยรวมทั้งใต้ท้องเครื่องบิน (Belly) และเครื่องบินขนส่งสินค้า (Freighter) เฉลี่ยเท่ากับ 53.2 %ต่ำกว่าเดือนเดียวกันของปีก่อนที่เฉลี่ย 56.6%
"อยากให้การชุมนุมยุติเร็วที่สุด เพราะหากยืดเยื้ออาจจะส่งผลกระทบมากขึ้น กรณี 16 ประเทศที่เตือนนักท่องเที่ยวของตัวเองเดินทางมาไทยนั้น ได้ให้ติดตามจำนวนผู้โดยสารแบะการจองตั๋วล่วงหน้า เพื่อประเมินสถานการณ์ได้ทัน"นายสรจักรกล่าว
นายสรจักร เกษมสุวรรณ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทได้ปรับเป้าผลประกอบการปี 2556 ใหม่ โดยกำไรสุทธิจะอยู่ที่ประมาณ 2,000 ล้านบาทเศษ ซึ่งได้รายงานต่อที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาแล้วซึ่งเป็นการปรับลดเป้าหมายกำไรลงจากเดิมเมื่อต้นปีตั้งไว้ที่ 6,000 ล้านบาทและปรับลงมาที่ 4,000
ล้านบาทก่อนหน้านี้ ซึ่งจะต้องติดตามผลประกอบการในไตรมาส4/2556 อย่างใกล้ชิดเพราะรายได้ยังไม่เป็นไปตามที่คาดไว้ ซึ่งจะต้องใช้ทุกกลยุทธ์ด้านการตลาดเพื่อเร่งการขายให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ในขณะเดียวกันต้องลดค่าใช้จ่ายด้วยแต่จะต้องไม่ให้กระทบต่อความปลอดภัยและคุณภาพในการให้บริการ
โดยผลประกอบการในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ต้องยอมรับจำนวนผู้โดยสารเส้นทางภายในประเทศลดลงประมาณ 2-3% โดยเฉพาะช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมีปัจจัยมาจากการชุมนุมทางการเมือง แต่ยังไม่ส่งผลกระทบชัดเจนกับเส้นทางระหว่างประเทศ ซึ่งขณะนี้มี 2 เส้นทางที่ผู้โดยสารลดลง คือ อินเดียซึ่งสาเหตุมาจากภาวะเศรษฐกิจของอินเดียที่ตกต่ำ ทำให้คนอินเดียเดินทางน้อยลง
โดยข้อมูลจากสถานทูตไทนในอินเดียพบว่าคนอินเดียทำวีซ่ามาไทยลดลง 10-15% และจีน ลดลงเพราะมาตรการทัวร์ศูนย์เหรียญ โดยคาดว่าจะกระทบในระยะสั้นๆ 2-3 เดือน ส่วนเส้นทางเกาหลีและญี่ปุ่นยังมีการจองตั๋วปกติ
นายสรจักรกล่าวว่า ใปีนี้ต้องยอมรับว่าบริษัทฯมีรายจ่ายสูงมาก ส่วนรายได้ที่คาดว่าจะได้สูงกว่าค่าใช้จ่ายในจำนวนหนึ่ง ก็อาจจะได้มากกว่าค่าใช้จ่ายไม่มากนัก ซึ่งตนรายงานบอร์ดว่าจะทำแผนพลิกฟื้นธุรกิจ ( Business Turn Around Plan) ในปี 2557 โดยจะเสนอที่ประชุมบอร์ดในเดือนธันวาคมนี้ เพื่อใช้เป็นโรดแมปในการปรังองค์กรทั้งในเรื่องโครงสร้าง วิธีคิด วิธีการทำงานใหม่
ให้สอดคล้องกับการแข่งขันในธุรกิจการบินที่รุนแรงมากขึ้นและเพื่อสามารถตอบสนองความต้องการและความพึงพอใจของลูกค้าได้ครอบคลุม โดยมีเป้าหมายว่าจะต้องทำให้บริษัทฯมีกำไรมากขึ้น และมีค่าใช้จ่ายที่ลดลง ซึ่งในปี 2557 การแข่งขันจะรุนแรงมากขึ้นเพราะจะมีสายการบินเข้ามาให้บริการที่สนามบินดอนเมืองมากขึ้น
สำหรับการการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) ที่มีนายอำพน กิตติอำพน เป็นประธานเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายนนั้น ได้รายงานผลประกอบการในไตรมาส 3/ 2556 (ก.ค.-ก.ย.) ให้บอร์ดรับทราบแล้ว โดยอยู่ระหว่างแจ้งตลาดหลักทรัยพ์แห่งประเทศไทย พร้อมกันนี้บอร์ดได้รับทราบผลการดำเนินงานด้านการขนส่งประจำเดือนตุลาคม 2556 เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน บริษัทฯ
มีปริมาณการผลิตด้านผู้โดยสาร (Available Seat - Kilometer : ASK) เพิ่มขึ้น 10.2 % จากการรับมอบเครื่องบินใหม่และปรับเส้นทางบินให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้โดยสาร ปริมาณการขนส่งผู้โดยสาร (Revenue Passenger – Kilometer : RPK) เพิ่มขึ้น 7.2% ส่งผลให้มีอัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) รวมทั้งระบบเฉลี่ย 71.6 %ลดลงเมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเฉลี่ย 73.5% อย่างไรก็ตามจำนวนผู้โดยสารรวมเพิ่มขึ้นจาก 1.71 ล้านคนในเดือนตุลาคม 2555 เป็น 1.77 ล้านคนในเดือนตุลาคม 2556 หรือเพิ่มขึ้น3.5 %
ส่วนการดำเนินงานด้านการขนส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ ยังคงได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวและการแข่งขันที่รุนแรง เป็นผลให้ปริมาณการขนส่งสินค้าพัสดุภัณฑ์ (Revenue Freight Ton-Kilometers : RFTK) ลดลงจากเดือนเดียวกันของปีก่อน 0.9 % แต่ในขณะที่ปริมาณการผลิต (Available Dead Load Ton-Kilometers : ADTK) สูงกว่าปีก่อน 5.8 % จากการรับมอบเครื่องบินใหม่ ส่งผลให้มีอัตราส่วนการบรรทุกสินค้า (Freight Load Factor) โดยรวมทั้งใต้ท้องเครื่องบิน (Belly) และเครื่องบินขนส่งสินค้า (Freighter) เฉลี่ยเท่ากับ 53.2 %ต่ำกว่าเดือนเดียวกันของปีก่อนที่เฉลี่ย 56.6%
"อยากให้การชุมนุมยุติเร็วที่สุด เพราะหากยืดเยื้ออาจจะส่งผลกระทบมากขึ้น กรณี 16 ประเทศที่เตือนนักท่องเที่ยวของตัวเองเดินทางมาไทยนั้น ได้ให้ติดตามจำนวนผู้โดยสารแบะการจองตั๋วล่วงหน้า เพื่อประเมินสถานการณ์ได้ทัน"นายสรจักรกล่าว