การบินไทยเตรียมเลิกบินหาดใหญ่ 30 มี.ค.นี้ ยกให้ไทยสมายล์บินแทน พนักงานประจำสถานีหาดใหญ่ป่วนทำหนังสือถึงผู้บริหารขอให้ชี้แจง เผยทำให้สูญเสียรายได้จาก Cargo, ลูกค้าระดับพรีเมียม และข้าราชการในพื้นที่ภาคใต้จำนวนมาก รวมถึงการบินภารกิจสำคัญที่หน่วยงานรัฐขอความร่วมมือพิเศษ และผู้โดยสารมุสลิมช่วงแสวงบุญ และทำให้พนักงานเสียขวัญขาดความมั่นคงอย่างมาก แนะบินคู่เพื่อดูแลผู้โดยสารได้ทุกกลุ่มเหมือนกระบี่ ด้านสหภาพฯ เรียกประชุมสามัญฯ 21 ก.พ. เตรียมชำแหละปัญหา
รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้พนักงานบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ที่สถานีหาดใหญ่ ได้ลงลายมือชื่อและทำหนังสือยื่นต่อบริษัทฯ เพื่อขอให้ผู้บริหารชี้แจงข้อเท็จจริง ทิศทาง และอนาคตของการบินไทยและสถานะของพนักงานกรณีที่การบินไทยจะหยุดทำการบินที่สถานีหาดใหญ่ โดยให้สายการบินไทยสมายล์ทำการบินแทนตั้งแต่วันที่ 30 มีนาคม 2557 เป็นต้นไป เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อผู้โดยสารและพนักงาน
เนื่องจาก 1. ผู้โดยสารของการบินไทยที่สถานีหาดใหญ่มีหลายระดับ รวมทั้งสมาชิกระดับ Platinum Card, Gold Card, Siver Card และผู้โดยสาร VIP ที่มีจำนวนมาก ผู้โดยสารดังกล่าวจะเสียสิทธิ์ในการรับบริการจากการบินไทย เช่น บริการห้อง Lounge ในทันที 2. หาดใหญ่มีปริมาณ Cargo จำนวนมาก ทั้ง Special Cargo และ Cargo ทั่วไป ในขณะที่การบินไทยสมายล์มีข้อจำกัดในการรับ Cargo ทำให้การบินไทยเสียโอกาส และขาดรายได้จำนวนมาก 3. ทุกๆ ปีการบินไทยได้รับมอบหมายจากรัฐบาลในการจัดบริการสำหรับผู้โดยสารมุสลิมที่เดินทางไปแสวงบุญที่นครเมกกะ ประเทศซาอุดีอาระเบีย ซึ่งพนักงานการบินไทยที่สถานีหาดใหญ่มีประสบการณ์ยาวนานในการให้บริการผู้โดยสารกลุ่มดังกล่าว ซึ่งจำเป็นต้องใช้เครื่องบินแบบ Wide Body รวมถึงคง Ground Equipment ไว้ที่สถานีหาดใหญ่เพื่อความพึงพอใจของผู้โดยสาร
4. ทำให้ผู้โดยสารที่ใช้บริการการบินไทยไม่มีทางเลือก เช่น บริการห้อง Lounge, บริการพิเศษ เช่น AVIH (ผู้โดยสารที่นำสัตว์เลี้ยง สุนัข แมวมาด้วย), STCR (ผู้ป่วยสาหัสที่ต้องนอนเตียง, ขนส่งเลือดตามที่สภากาชาดไทยขอความอนุเคราะห์และอวัยวะมนุษย์ ตลอดจนบริการขนส่งสินค้ากรณีพิเศษ เช่น ศพทหาร ที่มาจากการปฏิบัติหน้าที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ เป็นต้น 5. การบินไทยได้รับความนิยมจากข้าราชการในท้องถิ่น คณาจารย์ของมหาวิทยาลัยภาคใต้ในการเดินทางตลอดมา 6. หากอนาคตใน 3 จังหวัดใต้เกิดความสงบ สภาพเศรษฐกิจการค้าจะดีขึ้น ถือเป็นโอกาสของการบินไทย
7. พนักงานทุกคนหมดขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ ท่ามกลางกระแสข่าวลือต่างๆ เช่น เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 57 ผู้บริหารการบินไทยสมายล์ (นายวรเนติ หล้าพระบาง) มาพบพนักงานการบินไทยที่สถานีหาดใหญ่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับไทยสมายล์ แต่พนักงานไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจนเกี่ยวกับสถานะของพนักงานการบินไทยในกรณีที่ไทยสมายล์ทำการบินแทนการบินไทยทุกเที่ยวบิน ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่มีผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของพนักงานทุกคนและครอบครัว
โดยพนักงานเรียกร้องให้ผู้บริหารการบินไทย 3 เรื่อง คือ 1. ชี้แจงให้ความกระจ่างแก่พนักงาน ต่อข้อสงสัย ความสับสน และความรู้สึกไม่มั่นคงในสถานะของพนักงานในปัจจุบัน และต่อไปเพื่อให้ขวัญกำลังใจกลับคืนมา 2. ฝ่ายการตลาดควรมีนโยบายในการกำหนดราคาบัตรโดยสารให้สอดคล้องกับเทศกาลของภูมิภาคและทันเหตุการณ์ และยังต้องประชาสัมพันธ์ข้อมูล ราคา Promotion ให้ทั่วถึง ไม่ใช่กว่าผู้โดยสารจะรู้ราคาก็เกือบหมดเวลาแล้ว และควรพัฒนาการขายผ่านระบบ Online ให้มากขึ้นเพราะจะลดต้นทุนได้มาก 3. ให้จัดตารางการบินของการบินไทยในช่วงเวลาที่เหมาะสม เสนอราคาที่จูงใจสู้กับ Lowcost ได้ โดยไทยสมายล์ยังทำการบินเพื่อให้บริการผู้โดยสารเป้าหมายรูปแบบเดียวกับสนามบินกระบี่ที่การบินไทยและไทยสมายล์ให้บริการไปพร้อมๆ กัน
ทั้งนี้ ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2557 สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย (สร.กบท.) จัดประชุมใหญ่วิสามัญ ครั้งที่ 1/2557 ซึ่งนอกจากวาระเรื่อง การขึ้นเงินเดือนประจำปี 2557 และเงินเพิ่มพิเศษ และการที่บริษัทฯ มีมติให้ฟ้องตัวแทนพนักงาน 4 คนกรณีการขึ้นเงินเดือนประจำปี 2556 และการขอเงินเพิ่มพิเศษแล้ว ยังมีเรื่องสายการบินไทยสมายล์ด้วย
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ นายโชคชัย ปัญญายงค์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่อาวุโสสายการพาณิชย์ และรักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (ดีดี) การบินไทย เคยระบุว่า ธุรกิจการบินพาณิชย์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจะมีการแข่งขันค่อนข้างรุนแรงมากขึ้น โดยในปี 2556-2557 คาดจะมีการนำเครื่องบินพาณิชย์มาให้บริการเพิ่มอีกไม่น้อยกว่า 500 ลำ ดังนั้นการบินไทยจึงมีนโยบายปรับยุทธศาสตร์การบินให้สอดคล้อง และสนองตอบความต้องการของลูกค้าให้ได้มากที่สุด ซึ่งการเปิดตัวสายการบินไทยสมายล์เพื่อรองรับลูกค้าในกลุ่มระดับกลาง จากปัจจุบันที่การบินไทยจะแบ่งกลุ่มลูกค้าออกเป็น 2 กลุ่มหลักคือ ลูกค้าระดับพรีเมียม จะมีการบินไทยเป็นผู้ให้บริการ และลูกค้าราคาประหยัด (Lowcost) จะมีนกแอร์ให้บริการลูกค้าอีกกลุ่มหนึ่งที่เดินทางในระยะไม่ไกลมากนัก หรือไม่เกิน 3 ชั่วโมง แต่ต้องการบริการที่ดีสะดวกสบายกว่า Lowcost ซึ่งสายการบินไทยสมายล์จะเป็นการตอบโจทย์ลูกค้าในกลุ่มนี้ โดยใช้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเป็นฐานไปยัง 10 จุด ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ได้แก่ มาเก๊า อัห์มดาบาด มัณฑะเลย์ โคลัมโบ เชียงใหม่ สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต กระบี่ อุดรธานี และอุบลราชธานี และล่าสุดเพิ่มอีก 2 จุด รวมเป็นทั้งสิ้น 12 จุด คือ เส้นทางไปกลับกรุงเทพฯ-ฉงชิ่ง และกรุงเทพฯ-ฉางซา เมื่อเดือนตุลาคม 2556