xs
xsm
sm
md
lg

THAI ปรับทัพรับแข่งเดือด ส่งไทยสมายล์รุกตลาดระดับกลาง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

โชคชัย ปัญญายงค์
บมจ.การบินไทย ปรับทัพรับการแข่งขันธุรกิจการบินพาณิชย์แข่งขันดุเดือด คลอดสายการบินไทยสมายล์ รองรับลูกค้าระดับกลางที่ต้องการบริการที่ดีกว่าโลว์คอสต์ แต่ไม่ต้องการจ่ายแพงเท่าลูกค้าพรีเมียม เพื่อให้ครอบคลุมลูกค้าทุกระดับ ล่าสุด เปิดเส้นทางการบินใหม่ 2 จุด กรุงเทพฯ-ฉงชิ่ง และกรุงเทพฯ-ฉางซา หวังใช้แหล่งท่องเที่ยวมรดกโลกดึงคนไทยท่องเที่ยว พร้อมกระตุ้นคนจีนท่องเที่ยวไทยมากขึ้น

    นายโชคชัย ปัญญายงค์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่อาวุโสสายการพาณิชย์ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI เปิดเผยถึงภาวะการแข่งขันของธุรกิจการบินพาณิชย์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ว่า ธุรกิจการบินพาณิชย์มีการแข่งขันค่อนข้างรุนแรงมากขึ้น โดยในปี 2556-2557 คาดจะมีการนำเครื่องบินพาณิชย์มาให้บริการเพิ่มอีกไม่น้อยกว่า 500 ลำ ดังนั้น การบินไทยจึงมีนโยบายปรับยุทธศาสตร์การบินให้สอดคล้อง และสนองตอบความต้องการของลูกค้าให้ได้มากที่สุด

    จากการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น การบินไทยจึงได้เปิดตัวสายการบินไทยสมายล์ รองรับลูกค้าในกลุ่มระดับกลางเพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าให้ครบทุกกลุ่มเป้าหมาย จากปัจจุบันที่การบินไทยจะแบ่งกลุ่มลูกค้าออกเป็น 2 กลุ่มหลักคือ ลูกค้าระดับพรีเมียม จะมีการบินไทยเป็นผู้ให้บริการ และลูกค้าราคาประหยัด (โลว์คอสต์) จะมีนกแอร์ เป็นผู้ให้บริการ ขณะที่ยังมีลูกค้าอีกกลุ่มหนึ่งที่เดินทางในระยะไม่ไกลมากนัก หรือไม่เกิน 3 ชั่วโมง แต่ต้องการบริการที่ดีสะดวกสบายกว่าโลว์คอสต์ ซึ่งสายการบินไทยสมายล์ จะเป็นการตอบโจทย์ลูกค้าในกลุ่มนี้

    ทั้งนี้ บริษัท ไทยสมายล์แอร์เวย์ จำกัด ผู้ให้บริการสายการบินไทยสมายล์ ได้จดทะเบียนก่อตั้งเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2556 ที่ผ่านมา ด้วยทุนจดทะเบียน 180 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท รวมทุนจดทะเบียนทั้งสิ้น 1,800 ล้านบาท โดยมี บมจ.การบินไทย ถือหุ้นใหญ่ทั้งสิ้น 100% ปัจจุบัน ให้บริการในเส้นทางไปกลับจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิไปยัง 10 จุด ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ได้แก่ มาเก๊า อัห์มดาบาด มัณฑะเลย์ โคลัมโบ เชียงใหม่ สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต กระบี่ อุดรธานี และอุบลราชธานี

    ล่าสุด ได้ปิดให้บริการเพิ่มอีก 2 จุด รวมเป็นทั้งสิ้น 12 จุด คือ เส้นทางไปกลับกรุงเทพฯ-ฉงชิ่ง และกรุงเทพฯ-ฉางซา ซึ่งได้เปิดเที่ยวบินปฐมฤกษ์เมื่อวันที่ 27 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็นจุดที่ 7 และ 8 ของการบินไทยที่เปิดให้บริการในประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน

    ด้านการลงทุนนั้น การบินไทยคาดว่าจะใช้เงินลงทุนในปี 2556-2557 จำนวน 450 ล้านบาท และ 1,350 ล้านบาท ตามลำดับ และมีแผนจะเพิ่มฝูงบินเป็น 20 ลำ ในปี 2558 พร้อมประมาณการรายได้สายการบินไทยสมายล์แอร์เวย์ในปี 2556 ไว้ที่ 54 ล้านบาท และเพิ่มเป็น 1,946 ล้านบาท ในปี 2560 จากจำนวนผู้โดยสารเติบโตเฉลี่ย 75%

    สำหรับสาเหตุที่การบินไทยสมายล์ เลือกเปิดให้บริการกรุงเทพฯ-ฉงชิ่ง และกรุงเทพฯ-ฉางซา นั้น นายโชคชัย กล่าวว่า ประเทศจีนมีศักยภาพในด้านการขยายตัวสูง โดยเฉพาะฉงชิ่ง-ฉางชา นับเป็นสถานที่ที่มีแหล่งท่องเที่ยวสวยงามสามารถดึงดูดความสนใจของคนไทย ขณะเดียวกัน คนจีนเองก็ให้ความสนใจเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็น กรุงเทพฯ ภูเก็ต เชียงใหม่ ซึ่งคนจีนเองมีความพร้อมในการเดินทางท่องเที่ยว เพราะเศรษฐกิจมีการขยายตัวในอัตราที่สูง โดยฉงชิ่งเองมีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ หรือจีดีพีเติบโตสูงกว่า 12%

    ทั้งนี้ มหานครฉงชิ่ง เป็นที่ตั้งของเขตเศรษฐกิจใหม่เหลี่ยงเจียง และเป็นฐานการผลิตอุตสาหกรรมยานยนต์ที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลก ขณะที่เมืองฉางซา เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของมณฑลหูหนาน

    สำหรับแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่สามารถดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยวภายในมหานครฉงชิ่ง ประกอบด้วย แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และวัฒนธรรมที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองการยูเนสโก เช่น อุทยานแห่งชาติหลุมฟ้า-สะพานสวรรค์ ซึ่งเกิดจากการยุบตัวของเปลือกโลกจนกลายเป็นหลุมธรรมชาติขนาดใหญ่ มีความสวยงาม ถ้ำฝูหยงต้ง ถ้ำที่สวยที่สุดอีกแห่งหนึ่งของจีน และผาหินแกะสลักต้าจู๋ งานแกะสลักของต้าจู๋ ศิลปะสมัยราชวงศ์ถัง และซ่ง ที่นำเสนอเรื่องราวทางพุทธศาสนานิกายมหายาน หลักธรรมลัทธิเต๋า และปรัชญาคำสอนของขงจื้อ นอกจากนี้ ยังมีหมู่บ้านโบราณฉือซี่โข่ว ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่มีชนกลุ่มน้อยหลากหลายเชื้อชาติอาศัยอยู่ อาคารบ้านเรือนคงรูปแบบสถาปัตยกรรมจีนโบราณไว้ เป็นต้น
ผู้บริหารบมจ.การบินไทย ร่วมพิธีเปิดเที่ยวบินปฐมฤกษ์กรุงเทพฯ-ฉงชิ่ง และกรุงเทพฯ-ฉางซา
อุทยานหลุมฟ้า (แฟ้มภาพ)
อุทยานหลุมฟ้า (แฟ้มภาพ) – สะพานสวรรค์
ผาหินแกะสลักต้าจู๋ (แฟ้มภาพ)
ถ้ำฝูหยงต้ง
กำลังโหลดความคิดเห็น