“แดรี่ควีน” เปิดเกมรุก แผนถึงปี 2559 วางเป้าผุดให้ครบ 500 สาขา งบรวมกว่า 400 ล้านบาท รับศึกซอฟท์เสิร์ฟแข่งรุนแรง
นายนครินทร์ ธรรมหทัย ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ไมเนอร์ ดีคิว จำกัด ผู้บริหารร้านแดรี่ควีน ในเครือไมเนอร์ฟู้ดกรุ๊ป เปิดเผยว่า ปีนี้ตั้งเป้าหมายยอดขายการเติบโตไว้มากถึง 30% มากกว่าปรกติที่เฉลี่ยเติบโต 20% เนื่องจากปีนี้ภาวะเศรษฐกิจไม่ค่อยดี กำลังซื้อลดลง และปัญหาการเมืองต่างๆ คาดว่าจะทำให้ผู้บริโภคหันมาจับจ่ายสินค้าที่มีราคาไม่สูงมากนักซึ่งผลิตภัณฑ์ของแดรี่ควีนเองก็มีหลากหลายตั้งแต่ 9 บาทที่เป็นไอศกรีมซอฟท์เสิร์ฟไปถึงเค้กไอศกรีม 457 บาทซึ่งมีความหลากหลายด้านราคา โดยที่สัดส่วนยอดขายมาจากไอศกรีมซอฟท์เสิรฟ์ 9 บาท จำนวน 80% เครื่องดื่ม 10% และเค้กไอศกรีม 10% ซึ่งการใช้จ่ายของผู้บริโภคต่อบิลที่เข้ามาใช้บริการเฉลี่ยอยู่ที่ 40-50 บาทต่อบิล
ตลาดไอศกรีมซอฟท์เสิรฟ์ในไทยซึ่งมีราคาไม่สูงมาก ช่วง 2 ปีที่ผ่านมามีการแข่งขันที่รุนแรงจาก 3 ค่ายใหญ่คือ แดรี่ควีน เคเอฟซี และแมคโดนัลด์ ซึ่งแต่ละรายก็พยายามที่จะทำตลาดมากขึ้น มีการปรับตัวตลอดเวลา ซึ่งปีนี้เราก็จะมีการทำตลาดเต็มที่เช่นเดิมด้วยงบไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท เพื่อรักษาความเป็นผู้นำตลาดไว้ได้ ด้วยส่วนแบ่งมากกว่า 60% ในแง่ของจำนวนสาขา
ส่วนแผนลงทุนในปีนี้ บริษัทฯวางเป้าหมายการขยายสาขาไว้ที่ 30-40 สาขา ด้วยงบลงทุนประมาณ 2-3 ล้านบาทต่อสาขา พื้นที่ 12-40 ตารางเมตร จะเน้นการขายแฟรนไชส์ในพื้นที่ต่างจังหวัด ส่วนในกรุงเทพฯจะเน้นลงทุนเอง ซึ่งปีนี้เปิดน้อยกว่าสองปีที่แล้วคือ ปี 2555 เปิด 53 สาขา และปี 2556 เปิด 63 สาขา มากกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 40 สาขา โดย 60% เป็นการเปิดสาขาในต่างจังหวัด ซึ่งถือว่ามากที่สุดในรอบ 18 ปีของการตเปิดแดรี่ควีนในไทย แต่ปีนี้แม้จะน้อยกว่าแต่ก็อาจจะมากกว่าที่ตั้งเป้าไว้ได้หากมีทำเลที่ดีมากเพียงพอต่อการเปิดสาขา
ปัจจุบันแดรี่ควีนมีสาขารวมประมาณ 380 สาขา อยู่ในกรุงเทพฯ 130 สาขา ในต่างจังหวัด 250 สาขา และเป็นสาขาของแฟรนไชส์ประมาณ 120 สาขา ของบริษัท 260 สาขา โดยการขยายสาขายังคงเน้นไปในกลุ่มศูนย์การค้า ดิสเคานท์สโตร์ เป็นหลัก โดยเปิดแบบสแตนด์อโลนน้อยมาก ทั้งนี้ตั้งเป้าหมายว่าภายในปี 2559 หรืออีก 2 ปีจากนี้ จะต้องขยายสาขาให้ครบ 500 สาขาทั่วประเทศได้ ด้วยงบลงทุนรวมไม่ต่ำกว่า 400 ล้านบาท
“แดรี่ควีนประเทศไทย ถือเป็น ตลาดที่มีการเติบทั้งโตทั้งด้านยอดขายและการขยายสาขาอย่างมาก บริษัทฯแม่ของแดรี่ควีนก็ให้ความสำคัญมากเช่นกัน ซึ่งไทยเป็นประเทศที่ได้รับโลกที่มีการเติบโตดีด้วย คือ ไทย จีน ฟิลิปปินส์ เม็กซิโก และแคนาดา”
นายนครินท์ กล่าวต่อว่า ปีนี้ตั้งเป้ายอดขายรวมไว้ที่ 2,300 ล้านบาท เติบโต 30% จากปีที่แล้วที่ทำได้ 1,800 ล้านบาท ส่วนภายในปี 2559 ที่มีสาขาครบ 500 สาขา คาดว่าจะมียอดขายประมาณ 4,000 ล้านบาท ส่วนสาขาที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมืองมีน้อยมากแค่ไม่เกิน 10 สาขา แต่ไม่มีผลกระทบมากมายนักด้านยอดขาย
