การเมืองยืดเยื้อยังไม่เห็นอนาคต ป่วนฉุดตลาดสร้างบ้าน กทม.ทรุด พีดีเฮ้าส์ ชี้ตลาดรวมรับสร้างบ้านปี 57 โต-ไม่โตอยู่ที่ผู้ประกอบการปรับตัวได้-ไม่ได้ เผยยอดขายเดือนแรกหดตัวกว่าครึ่ง พร้อมเบนเข็มเจาะตลาดต่างจังหวัดเต็มตัว เล็งเปิด 10 สาขาใหม่ ภาคเหนือ-กลาง-อีสาน หวังเพิ่มแชร์ส่วนแบ่งตลาดชดเชยตลาด กทม. หดตัว พร้อมตั้งเป้ายอดขายบ้านปีม้า 2 พันล้านบาท
นายพิศาล ธรรมวิเศษ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีดีเฮ้าส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า การชุมนุมทางการเมือง และบรรยากาศทางการเมืองในพื้นที่ กทม. ที่ยังยืดเยื้อมากว่า 3 เดือน และยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าจะยุติลงเมื่อไร เริ่มส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจอสังหาฯ และรับสร้างบ้าน ทั้งในแง่จำนวนผู้บริโภคที่สนใจจะเลือกซื้อ-สร้างบ้านที่ลดลงอย่างหนัก รวมทั้งการตัดสินใจลงทุนเรื่องสร้างบ้าน หรือที่อยู่อาศัยหลังใหม่ ของผู้บริโภคในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลมีแนวโน้มชะลอตัวจนถึงครึ่งปีแรก ทำให้ผู้ประกอบการต้องมีการปรับตัวครั้งใหญ่เพื่อรับมือกับกำลังซื้อที่หดตัวรุนแรงในปีนี้
ทั้งนี้ สถานการณ์ดังกล่าวข้างต้น เริ่มส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของ พีดีเฮ้าส์ อย่างต่อเนื่อง โดยจำนวนลูกค้าใหม่ที่เข้ามาติดต่อ และยอดขายของสาขาที่ตั้งอยู่ใน กทม.และปริมณฑล ในช่วงเดือนแรกของปีนี้ปรับตัวลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้ากว่าครึ่ง ดังนั้น บริษัทฯ จึงมีแผนการดำเนินธุรกิจใหม่ให้สอดรับกับสถานการณ์ตลาด โดยบริษัทได้หันมาเน้นให้ความสำคัญในการทำตลาดต่างจังหวัดมากขึ้น โดยเลือกใช้สื่อท้องถิ่น และจัดกิจกรรมทางการตลาดในต่างจังหวัดเป็นหลัก เพื่อผลักดันให้เกิดการรับรู้ในแบรนด์ และสินค้าของพีดีเฮ้าส์ในกลุ่มผู้บริโภคกต่างจังหวัดเพิ่มมากขึ้น
“ที่ผ่านมา พีดีเฮ้าส์ฯ เริ่มจัดกิจกรรมโรดโชว์ และออกบูทตามห้างสรรพสินค้า เเละโมเดิร์นเทรดในต่างจังหวัด รวมไปถึงการติดตั้งป้ายโฆษณาริมทาง การซื้อโฆษณาทางเคเบิลทีวี และวิทยุท้องถิ่น เป็นต้น ขณะเดียวกัน ก็เดินหน้าขยายสาขาในต่างจังหวัดให้มากขึ้น โดยปีนี้ตั้งเป้าว่าจะเปิดสาขาใหม่เพิ่มอีก 10 สาขา ในพื้นที่ที่ยังมีช่องว่างตลาดอยู่ เพื่อเจาะกำลังซื้อในพื้นที่ตลาดใหม่ๆ มาชดเชยกับตลาดเดิมที่ชะลอตัว โดยบริษัทฯ จะเน้นเปิดสาขาใหม่ทางภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคอีสาน เนื่องเพราะการเมืองมีผลกระทบกับพื้นที่ดังกล่าวน้อยมาก”
นายพิศาล กล่าวว่า สำหรับภาพรวมตลาดรับสร้างบ้านปี 2557 ต้องแยกพิจารณาออกเป็น 2 ตลาดหลักๆ คือ 1.ตลาดรับสร้างบ้านในกรุงเทพฯ และปริมณฑล และ 2.ตลาดรับสร้างบ้านต่างจังหวัด ซึ่งในส่วนของตลาดต่างจังหวัดนั้นขยายตัวมาตลอดในระยะหลายปีที่ผ่านมา และเชื่อว่าปีนี้จะยังเติบโตได้ต่อเนื่อง เพราะความต้องการที่อยู่อาศัย หรือฐานตลาดรับสร้างบ้านขยายตัวตามทิศทางการเติบโตของเศรษฐกิจในภูมิภาค ขณะที่ตลาดรับสร้างบ้านใน กทม.และปริมณฑล มีโอกาสชะลอตัวสูงจากผลกระทบทางการเมืองในปัจจุบัน และอาจจะยืดเยื้อจนถึงครึ่งปีแรก ฉะนั้น หากผู้ประกอบการส่วนใหญ่สามารถปรับตัวโดยมุ่งขยายสู่ตลาดใหม่ หรือเข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่ได้มากขึ้นก็มีโอกาสที่ตลาดรับสร้างบ้านจะขยายตัว แต่หากไม่มีการปรับตัวก็เชื่อว่ามูลค่าตลาดรวมรับสร้างบ้านปีนี้คาดว่าจะปรับตัวลดลง หรืออย่างดีก็แค่ทรงตัว อย่างไรก็ดี สถานการณ์เช่นนี้คงต้องประเมินกับแบบเดือนต่อเดือนอีกครั้ง
ปีนี้บริษัทฯ จะเน้นแข่งขัน และทำกิจกรรมทางตลาดในต่างจังหวัดมากกว่าทุกๆ ปี ปัจจุบันบริษัทฯ มีสาขาให้บริการรวม 38 สาขา แบ่งเป็นต่างจังหวัด 31 สาขา กรุงเทพฯ และปริมณฑล 7 สาขา ภายใต้แบรนด์พีดีเฮ้าส์ และเอคิวโฮม โดยเร็วๆ นี้ เตรียมเปิดศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ สาขาสุพรรณบุรี เป็นสาขาที่ 39 เพื่อขยายฐานตลาด และเจาะกลุ่มลูกค้าภาคกลางเพิ่มมากขึ้น ตามแผนการตลาด และเป้ายอดขายที่ตั้งไว้ 2 พันล้านบาท และเนื่องในโอกาสเทศกาลตรุษจีนปีนี้ บริษัทฯ ได้จัดโปรโมชันพิเศษสำหรับลูกค้าที่จองสร้างบ้านในต่างจังหวัดทุกท่านจะได้รับ “ม้าทองคำ” หนัก 2-10 บาท นายพิศาลกล่าวทิ้งท้าย