ยอดติดตั้ง LPG-NGV ในรถยนต์ชะลอตัวต่อเนื่องหลังการบริโภคลดต่ำจากวิกฤตการเมือง ปี 2557 ยังประเมินทิศทางไม่ได้ ขณะที่ปี 2556 ยอดติดตั้งลดวูบ 50% ทั้ง ศก.แย่ นโยบายขึ้นราคาก๊าซซ้ำเติม ขณะที่ยอดการใช้ LPG ครัวเรือนทรงตัวตาม ด้านปั๊ม LPG เริ่มแข่งดุหลัง “ปตท.” เริ่มรุกตลาดเพิ่ม
นายสุรศักดิ์ นิตติวัฒน์ ประธานกรรมการ บริษัท เอนเนอร์จีรีฟอร์ม จำกัด และนายกสมาคมธุรกิจก๊าซรถยนต์ไทย เปิดเผยว่า สถานการณ์ทางการเมืองปัจจุบันส่งผลให้ขณะนี้ยอดการติดตั้งก๊าซปิโตรเลียมเหลว หรือ LPG ในรถยนต์ และก๊าซธรรมชาติสำหรับรถยนต์ (NGV) ยังคงลดลงต่อเนื่องตามแรงซื้อที่ลดต่ำ ส่งผลให้ภาพรวมปี 2557 ยังไม่สามารถจะประเมินทิศทางการเติบโตได้ โดยเบื้องต้นประมาณการว่าการติดตั้ง LPG และ NGV ในรถยนต์เฉลี่ยจะใกล้เคียงกับปี 2556 ที่ระดับ 1 หมื่นคันต่อเดือน
“เราคาดเดาตลาดไม่ได้เพราะมีปัจจัยการเมืองกดตลาดอยู่ และสุญญากาศการเมืองเองก็ยังไม่รู้ทิศทางที่ชัดเจนว่าราคาแอลพีจีขนส่งจะปรับขึ้นอีกหรือไม่อย่างไรแน่ แต่ปัจจัยบวกคือระดับราคาน้ำมันที่ยังคงระดับราคาสูง และการที่ปั๊ม LPG และ NGV มีมากขึ้น โดยเฉพาะล่าสุดดีลเลอร์ของ ปตท.หันมาขาย LPG ทำให้ปั๊มมีมาตรฐานส่งผลต่อตลาดรวม” นายสุรศักดิ์กล่าว
สำหรับปี 2556 ที่ผ่านมายอดการติดตั้ง LPG และ NGV ในรถยนต์ลดลง 50% จากปี 2555 โดยเฉลี่ยมีการติดตั้งรวมที่ระดับ 1 หมื่นคันต่อเดือน แยกเป็น LPG 85% และที่เหลือเป็น NGV แต่ส่วนใหญ่ NGV จะเป็นการติดตั้งมาจากบริษัทรถยนต์โดยตรงมากขึ้น ขณะที่ปี 2555 เฉลี่ยติดตั้งรวมจะอยู่ที่ 1.7 หมื่นคันต่อเดือน ทั้งนี้ สาเหตุสำคัญที่ยอดติดตั้งลดลงเนื่องจาก 1. รัฐบาลในขณะนั้นประกาศปรับโครงสร้างราคา LPG และ NGV โดยเฉพาะการทยอยขึ้น LPG ครัวเรือนและขนส่ง 2. เศรษฐกิจปี 2556 ซบเซามากเมื่อเทียบกับปี 2555 และ 3. มีข่าวช่วงต้นปีกรณีที่ รมว.พลังงานมีแนวคิดที่จะไม่ส่งเสริมรถติด LPG
ทั้งนี้ การติดตั้ง LPG ที่ผ่านมาพบว่าเฉลี่ยอายุรถใช้งาน 1-3 ปีเท่านั้น ซึ่งถือว่ายังเป็นรถยนต์ค่อนข้างใหม่เทียบกับอดีตที่ผ่านมาที่รถยนต์จะติด LPG จะมีอายุมากกว่า 5 ปี และก็พบว่าเป็นป้ายแดงเข้ามาติดตั้งก็มีมากขึ้นจากอดีต ซึ่งสาเหตุน่าจะมาจากการที่ระบบติดตั้งปัจจุบันมีมาตรฐานทำให้ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นมากขึ้น และประชาชนเองก็สามารถประหยัดเงินได้จริงๆ
นายชิษณุพงศ์ รุ่งโรจน์งามเจริญ นายกสมาคมผู้ค้า LPG กล่าวว่า ภาพรวมยอดขาย LPG ขณะนี้ยอมรับว่ายังอยู่ในภาวะทรงตัวตามทิศทางการบริโภคที่ลดลงจากเศรษฐกิจและการเมือง ส่วนปั๊ม LPG ล่าสุดจากจำนวนที่เพิ่มขึ้นทำให้เกิดการแข่งขันด้วยการจัดโปรโมชันแจกน้ำกันมากขึ้นก็ถือเป็นประโยชน์ที่ผู้บริโภคจะได้รับ อย่างไรก็ตาม ราคา LPG ที่ทยอยปรับขึ้นเดือนละ 50 กิโลกรัมทำให้ราคาปรับขึ้นรวมแล้ว 3 บาทต่อ กก. ส่งผลให้ประชาชนที่มีสิทธิ์ใช้ LPG ราคาเดิมเริ่มหันมาใช้สิทธิ์มากขึ้นเช่นเดียวกับร้านค้าก็เข้าร่วมโครงการเพิ่ม ส่วน LPG ขนส่งคงต้องติดตามว่าจะมีการปรับราคาตามแผนหรือไม่อย่างไร