เหมราชฯ ลุยซื้อที่ดินใหม่เข้าพอร์ต พลิกวิกฤตการเมืองเป็นโอกาสกวาดได้อีกหมื่นไร่ เน้นภาคตะวันออก เผยปี 57 วางเป้าขายแบบอนุรักษนิยมประมาณ 1,600 ไร่ พร้อมเปิดนิคมฯ เหมราชฯ แห่ง 8 โซนอีสเทิร์นซีบอร์ด เจาะกลุ่มลูกค้ายานยนต์ คาดเปิดขายปลายปีนี้
นายเดวิด นาโดน กรรมการผู้จัดการ บริษัท เหมราชพัฒนที่ดิน จำกัด (มหาชน) หรือ “HEMRAJ” กล่าวว่า จากสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศไทย อาจจะส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติชะลอการตัดสินใจเข้ามาซื้อที่ดินประมาณ 10-20% ของลูกค้าใหม่ ซึ่งกระทบเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็เชื่อว่านักลงทุนยังมองไทยเป็นทำเลที่น่าสนใจสำหรับการตั้งฐานการผลิต และสถานการณ์ทางการเมืองจะกระทบแค่ช่วงสั้นเท่านั้น
“ข่าวจากสื่อต่างประเทศดูแย่กว่าความจริง แต่บริษัทก็มีการบริหารความเสี่ยง มีการจัดการด้านการเงินการคลัง อย่างการออกกองอสังหาฯ ปลายปีก็เป็นไปตามแผน มีธุรกิจหลากหลาย ทั้งสาธารณูปโภค ธุรกิจให้เช่า ถ้ากระทบธุรกิจใดธุรกิจหนึ่ง แต่ธุรกิจอื่นทดแทนได้” นายเดวิด กล่าว
ทั้งนี้ ลูกค้าหลักยังเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ 35% ในจำนวนนี้ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าญี่ปุ่น นิคมฯ ยังคงเป็นธุรกิจหลักที่สร้างรายได้แก่บริษัท 45% ส่วนธุรกิจสาธารณูปโภค ตั้งเป้ารายได้เติบโต 14% ต่อปี ช่วงใน 5 ปีข้างหน้า คาดว่าจะมีปริมาณการใช้น้ำสูงถึง 270,000 ลูกบาศก์เมตร/วัน ในปี 57 และจะเติบโตขึ้นปีละ 14% ไปจนถึงปี 2561 ซึ่งจะสร้างรายได้ราว 2,000 ล้านบาท ในปี 2558 และ 2,500 ล้านบาท ในปี 2561
บริษัทคาดว่าจะมีพื้นที่ให้เช่าโรงงานสำเร็จรูปเพิ่มขึ้น 30% ในปีนี้ ส่วนพื้นที่คลังสินค้าให้เช่าคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีกราว 4-5 หมื่น ตร.ม. ทั้ง 2 ส่วนจะเป็นแหล่งรายได้ระยะยาวของบริษัท
ทั้งนี้ ในปี 57 วางเป้ายอดขายไว้ 1,600 ไร่ ส่วนนิคมอุตสาหกรรมเหมราช ชลบุรี 2 ซึ่งเป็นนิคมอุตสาหกรรม แห่งที่ 7 ของบริษัท มีพื้นที่ 632 ไร่ พร้อมให้บริการแก่นักลงทุนช่วงไตรมาส 4 ปี 57 โดยปีนี้วางงบลงทุน 6,000 ล้านบาท ภายใต้แผนลงทุน 5 ปี (2555-2559) วงเงินรวม 40,000 ล้านบาท โดยช่วงก่อนหน้าใช้แล้ว 18,000 ล้านบาท หรือ 45% ของงบรวม 5 ปี
โดยบริษัทเตรียมเปิดนิคมฯ เหมราชแห่งที่ 8 คลุมพื้นที่ 3,200 ไร่ บริเวณอีสเทิร์นซีบอร์ด โดย 40% ของลูกค้าเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งขณะนี้มีการเจรจากับลูกค้ารายใหญ่แล้ว คาดว่าจะเริ่มเปิดขายได้อย่างเป็นทางการในช่วงปลายปี 57
ด้านนายสวัสดิ์ หอรุ่งเรือง ผู้ก่อตั้งและกรรมการบริหารบริษัทเหมราชฯ กล่าวว่า ช่วง 2-3 เดือนที่มีสถานการณ์การเมืองในประเทศวุ่นวาย แต่บริษัทมีโอกาสซื้อที่ดินเพิ่มเข้าพอร์ตได้รวม 10,000 ไร่ จากปัจจุบันที่บริษัทมี 7 นิคมฯ พื้นที่รวม 39,000 ไร่ โดยที่ดินใหม่ดังนั้นเป็นเตรียมพัฒนาอยู่ในภาคตะวันออก ได้แก่ ชลบุรี ระยอง และสระบุรี ซึ่งภายใต้วิกฤตการเมืองถือเป็นโอกาสของบริษัทที่สามาถซื้อที่ดินได้ราคาถูก
