สภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไปและวิถีชีวิตที่เร่งรีบ ทำให้สุขภาพของคนสมัยใหม่แย่ลง แม้ว่าวิทยาการในการรักษาโรคจะทันสมัยมากขึ้น สามารถต่อสู้กับโรคร้ายแรงได้ดีกว่าเดิม แต่ทิศทางการแพทย์ในอนาคต กำลังให้ความสำคัญกับการป้องกันมากกว่ารักษา รวมทั้งการฟื้นฟูสภาพร่างกายในนะดับเซลล์ เพื่อให้ร่างกายสามารถต่อสู้กับโรคร้ายแรงต่างๆ ได้ดีกว่าการรักษาที่มุ่งเน้นการให้ยาทำลายเชื้อโรค ที่หลายครั้งพบว่ามีผลข้างเคียงทำร้ายร่างกายของผู้ป่วยไปด้วย
ร.ต.ต.นพ.อัญวุฒิ ช่วยวงษ์ญาติ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ชะลอวัยแบบองค์รวม จากคลินิก บาลานซ์ บาย ไฮโดรเฮลท์ มีคำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพแบบแบบใหม่ ที่มุ่งเน้นการดูแลสุขภาพร่างกายให้สมบูรณ์และป้องกันการเกิดขึ้นของโรคอันสืบเนื่องมาจากความเสื่อมของเซลล์ในร่างกายมากกว่าการรักษาเมื่อโรคเกิดขึ้นแล้วหรือการรักษาที่ปลายเหตุ ซึ่งแนวทางการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมนั้น จะต้องเริ่มที่การรู้จักสังเกตุสุขภาพของตัวเอง เช่น มื่อใดก็ตามที่เรามีอาการอย่างใดอย่างหนึ่ง นั่นหมายถึงร่างกายเรามีความผิดปกติแล้ว หากเราไม่สนใจสิ่งบอกเหตุ (อาการต่างๆ) อาจเป็นมากขึ้น และอาจจะสายเกินไปในการเยียวยา ในการตรวจสุขภาพโดยทั่วไปจะหมายถึง ณ เวลาที่เราตรวจเป็นอย่างไรแต่ไม่ได้บอกเราว่าเราจะไม่เป็นโรคในอนาคต
ดังนั้นจึงต้องเริ่มต้นด้วยการตรวจความสมบูรณ์ของร่างกายโดยวิธีการที่ละเอียดที่สุดคือ การตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด หรือ Live Blood Cell Analysis โดยการตรวจในลักษณะนี้จะทำให้เห็นว่าเซลล์เม็ดเลือดแดงและเม็ดเลือดขาวของเรามีความสมบูรณ์มากน้อยเพียงใด และมีการอักเสบของร่างการเกิดขึ้นหรือไม่ อาทิ มีโลหะหนักตกค้างในร่างกายหรือไม่ และมากน้อยเพียงใด นอกจากนี้ยังสามารถตรวจการทำงานของเซลล์ของอวัยวะต่างๆ ผ่านเครื่องมือทันสมัยที่เรียกว่า ES teck-Complex 3D Scan เทคโนโลยีเยอรมัน ซึ่งสามารถแสดงให้เห็นได้ว่าเซลล์อวัยวะส่วนไหนที่เริ่มเสื่อมหรือสึกหรอ ฮอร์โมนต่างๆ ซึ่งสามารถแก้ไขโรคที่เป็นอยู่ได้ เช่น โรคอ้วน, โรคเบาหวาน, ความดันโลหิตสูง เป็นต้น
หลังจากพบว่ามีการอักเสบของอวัยวะเกิดขึ้นและหรือมีสารพิษตกค้างภายในร่างกาย ต้องมีขจัดของเสียและสิ่งตกค้างด้วยการล้างพิษหรือดีท็อกซ์ด้วยการสวนล้างลำไส้ใหญ่ (Colon Hydrotherapy) รวมถึงการล้างโลหะหนักออกจากร่างการผ่านทางเส้นเลือด หรือที่เรียกว่าคีเลชัน (Chelation) การนวดกระตุ้นต่อมน้ำเหลืองและการทำอินฟาเรดซาวน่าเพื่อขับสารพิษ
หลังจากนั้นจะต้องมีการปรับสมดุลของเซลล์ทั่วร่างกาย โดยรับประทานสารอาหารต่างๆ ได้แก่ วิตามิน และแร่ธาตุต่างๆ ควบคู่ไปกับการปรับและเสริมความสมดุลของฮอร์โมนโดยใช้สมุนไพร ทั้งนี้สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้นอกเหนือไปจากการปรับสมดุลของเซลล์และอวัยวะต่างๆ ภายในร่างกายแล้วก็คือ การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ มีสารอาหารครบถ้วน โดยมื้อที่จะขาดไปไม่ได้เลยคือมื้อเช้า ซึ่งจากการวิจัยพบว่าช่วยลดโอกาสการเกิดโรคมะเร็งได้ นอกจากนี้ยังต้องพักผ่อนให้เพียงพอและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสม
นอกจากนี้ยังมีเรื่องของการใช้ cell บำบัดคือการใช้เซลล์ที่มาจากสัตว์ (Live Cell) หรือจากมนุษย์ (Stem Cell) โดยหวังว่าเซลล์ที่เข้าไปในร่างกายจะช่วยซ่อมแซมอวัยวะภายในที่เสื่อมสภาพจากการใช้งานมานาน ให้อวัยวะเหล่านั้นสามารถทำงานได้ใกล้เคียงปกติ หรือปกติ ซึ่งจะทำให้เราแก่ช้า ป่วยยาก โดยเซลล์ที่ใช้ในการซ่อมแซมจะต้องมีคุณภาพ ปลอดภัย ผ่านมาตรฐาน GMP และการใช้เซลล์จะต้องใช้ให้เหมาะสมกับสภาวะร่างกายของแต่ละคน
“เป้าหมายหลักสำคัญของบาลานซ์ บาย ไฮโดรเฮท์ คือ การสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีและสุขภาพที่แข็งแรงให้กับผู้ที่มารับบริการ โดยเน้นการดูแลรักษา 4 ขั้นตอนหลักได้แก่ 1. Drain & Deto 2. Physical Balanze 3. Rejuvenation, Repair and Health Maintenanc 4. Beauty Balanze ซึ่งก็คือการเน้นการดูแลในเรื่อง (1) การดูแลและปรับสมดุลอวัยวะทุกส่วนของร่างกาย (2) การดูแลและปรับความสมดุลการทำงานของเซลล์ทั้งร่างกาย (3) การดูแลอารมณ์และจิตใจ นั่นเอง”ร.ต.ต.นพ.อัญวุฒิกล่าว
ทั้งนี้ บาลานซ์ บาย ไฮโดรเฮลท์ มีการตรวจสุขภาพเชิงบูรณาการ (เชิงป้องกัน) ซึ่งหากตรวจพบสามารถป้องกันที่จะให้เกิดโรคช้าที่สุด หรือไม่ให้เกิดได้ (โรคที่เกิดส่วนใหญ่เกิดจากเซลล์เสื่อมทั้งสิ้น เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง หลอดเลือดตีบ มะเร็ง เป็นต้น)
ร.ต.ต.นพ.อัญวุฒิ ช่วยวงษ์ญาติ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ชะลอวัยแบบองค์รวม จากคลินิก บาลานซ์ บาย ไฮโดรเฮลท์ มีคำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพแบบแบบใหม่ ที่มุ่งเน้นการดูแลสุขภาพร่างกายให้สมบูรณ์และป้องกันการเกิดขึ้นของโรคอันสืบเนื่องมาจากความเสื่อมของเซลล์ในร่างกายมากกว่าการรักษาเมื่อโรคเกิดขึ้นแล้วหรือการรักษาที่ปลายเหตุ ซึ่งแนวทางการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมนั้น จะต้องเริ่มที่การรู้จักสังเกตุสุขภาพของตัวเอง เช่น มื่อใดก็ตามที่เรามีอาการอย่างใดอย่างหนึ่ง นั่นหมายถึงร่างกายเรามีความผิดปกติแล้ว หากเราไม่สนใจสิ่งบอกเหตุ (อาการต่างๆ) อาจเป็นมากขึ้น และอาจจะสายเกินไปในการเยียวยา ในการตรวจสุขภาพโดยทั่วไปจะหมายถึง ณ เวลาที่เราตรวจเป็นอย่างไรแต่ไม่ได้บอกเราว่าเราจะไม่เป็นโรคในอนาคต
ดังนั้นจึงต้องเริ่มต้นด้วยการตรวจความสมบูรณ์ของร่างกายโดยวิธีการที่ละเอียดที่สุดคือ การตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด หรือ Live Blood Cell Analysis โดยการตรวจในลักษณะนี้จะทำให้เห็นว่าเซลล์เม็ดเลือดแดงและเม็ดเลือดขาวของเรามีความสมบูรณ์มากน้อยเพียงใด และมีการอักเสบของร่างการเกิดขึ้นหรือไม่ อาทิ มีโลหะหนักตกค้างในร่างกายหรือไม่ และมากน้อยเพียงใด นอกจากนี้ยังสามารถตรวจการทำงานของเซลล์ของอวัยวะต่างๆ ผ่านเครื่องมือทันสมัยที่เรียกว่า ES teck-Complex 3D Scan เทคโนโลยีเยอรมัน ซึ่งสามารถแสดงให้เห็นได้ว่าเซลล์อวัยวะส่วนไหนที่เริ่มเสื่อมหรือสึกหรอ ฮอร์โมนต่างๆ ซึ่งสามารถแก้ไขโรคที่เป็นอยู่ได้ เช่น โรคอ้วน, โรคเบาหวาน, ความดันโลหิตสูง เป็นต้น
หลังจากพบว่ามีการอักเสบของอวัยวะเกิดขึ้นและหรือมีสารพิษตกค้างภายในร่างกาย ต้องมีขจัดของเสียและสิ่งตกค้างด้วยการล้างพิษหรือดีท็อกซ์ด้วยการสวนล้างลำไส้ใหญ่ (Colon Hydrotherapy) รวมถึงการล้างโลหะหนักออกจากร่างการผ่านทางเส้นเลือด หรือที่เรียกว่าคีเลชัน (Chelation) การนวดกระตุ้นต่อมน้ำเหลืองและการทำอินฟาเรดซาวน่าเพื่อขับสารพิษ
หลังจากนั้นจะต้องมีการปรับสมดุลของเซลล์ทั่วร่างกาย โดยรับประทานสารอาหารต่างๆ ได้แก่ วิตามิน และแร่ธาตุต่างๆ ควบคู่ไปกับการปรับและเสริมความสมดุลของฮอร์โมนโดยใช้สมุนไพร ทั้งนี้สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้นอกเหนือไปจากการปรับสมดุลของเซลล์และอวัยวะต่างๆ ภายในร่างกายแล้วก็คือ การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ มีสารอาหารครบถ้วน โดยมื้อที่จะขาดไปไม่ได้เลยคือมื้อเช้า ซึ่งจากการวิจัยพบว่าช่วยลดโอกาสการเกิดโรคมะเร็งได้ นอกจากนี้ยังต้องพักผ่อนให้เพียงพอและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสม
นอกจากนี้ยังมีเรื่องของการใช้ cell บำบัดคือการใช้เซลล์ที่มาจากสัตว์ (Live Cell) หรือจากมนุษย์ (Stem Cell) โดยหวังว่าเซลล์ที่เข้าไปในร่างกายจะช่วยซ่อมแซมอวัยวะภายในที่เสื่อมสภาพจากการใช้งานมานาน ให้อวัยวะเหล่านั้นสามารถทำงานได้ใกล้เคียงปกติ หรือปกติ ซึ่งจะทำให้เราแก่ช้า ป่วยยาก โดยเซลล์ที่ใช้ในการซ่อมแซมจะต้องมีคุณภาพ ปลอดภัย ผ่านมาตรฐาน GMP และการใช้เซลล์จะต้องใช้ให้เหมาะสมกับสภาวะร่างกายของแต่ละคน
“เป้าหมายหลักสำคัญของบาลานซ์ บาย ไฮโดรเฮท์ คือ การสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีและสุขภาพที่แข็งแรงให้กับผู้ที่มารับบริการ โดยเน้นการดูแลรักษา 4 ขั้นตอนหลักได้แก่ 1. Drain & Deto 2. Physical Balanze 3. Rejuvenation, Repair and Health Maintenanc 4. Beauty Balanze ซึ่งก็คือการเน้นการดูแลในเรื่อง (1) การดูแลและปรับสมดุลอวัยวะทุกส่วนของร่างกาย (2) การดูแลและปรับความสมดุลการทำงานของเซลล์ทั้งร่างกาย (3) การดูแลอารมณ์และจิตใจ นั่นเอง”ร.ต.ต.นพ.อัญวุฒิกล่าว
ทั้งนี้ บาลานซ์ บาย ไฮโดรเฮลท์ มีการตรวจสุขภาพเชิงบูรณาการ (เชิงป้องกัน) ซึ่งหากตรวจพบสามารถป้องกันที่จะให้เกิดโรคช้าที่สุด หรือไม่ให้เกิดได้ (โรคที่เกิดส่วนใหญ่เกิดจากเซลล์เสื่อมทั้งสิ้น เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง หลอดเลือดตีบ มะเร็ง เป็นต้น)