คาดเงินสะพัดปีใหม่ 1.1 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.6% คนแห่เที่ยวต่างประเทศเพิ่มขึ้น พร้อมขออวยพรให้ “ในหลวง-ราชินี” มีพระพลานามัยแข็งแรง และอยากให้การเมืองมีเสถียรภาพ “ธนวรรธน์” ห่วงรัฐไม่ต่อมาตรการลดภาษีดีเซลจะกระทบการขยายตัวเศรษฐกิจไตรมาสแรกปี 57
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลการสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2557 ว่าจะมีเงินสะพัดรวม 111,757 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.6% แยกเป็นการใช้จ่ายเพื่อเดินทางท่องเที่ยว 60.3% โดยเป็นการท่องเที่ยวในประเทศ 50,617.71 ล้านบาท ต่างประเทศ 28,841.53 ล้านบาท และอยู่บ้าน 39.7% โดยมีค่าใช้จ่ายเป็นการเลี้ยงสังสรรค์ 8,222.94 ล้านบาท ทำบุญ 8,957.56 ล้านบาท อุปโภคบริโภค 12,840.83 ล้านบาท สินค้าฟุ่มเฟือย 739.54 ล้านบาท สินค้าคงทน 1,536.91 ล้านบาท
ทั้งนี้ การเดินทางท่องเที่ยวช่วงปีใหม่ พบว่ามีการเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 15.7% ท่องเที่ยวในประเทศ 84.3% ซึ่งเพิ่มจากปี 2556 ที่ไปเที่ยวต่างประเทศ 10.9% และเที่ยวในประเทศ 89.1% โดยใช้จ่ายเงินเพื่อท่องเที่ยวในประเทศเฉลี่ยคนละ 9,856.24 บาท และต่างประเทศเฉลี่ยคนละ 75,228.22 บาท
สำหรับคำอวยพรที่อยากอวยพรให้ประเทศ คือ ขอให้พระเจ้าอยู่หัวและพระราชินีมีพระพลานามัยแข็งแรง ขอให้คนไทยกลุ่มต่างๆ มีความสมานฉันท์ การเมืองมีเสถียรภาพ สงบเรียบร้อย ขอให้ภาคใต้สงบสุข ขอให้ค้าขายดี ขอให้เศรษฐกิจดีขึ้น ขอให้สังคมมีความสุข เป็นต้น
ส่วนปัญหาที่อยากให้รัฐบาลแก้ไขอย่างเร่งด่วนที่สุด คือ การสร้างเสถียรภาพทางการเมือง ผลักดันให้เศรษฐกิจโดยรวมขยายตัว แก้ปัญหาสังคม และปัญหาภัยธรรมชาติ โดยมองว่าสถานการณ์ทางเศรษฐกิจจะปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย ขณะที่ราคาสินค้ายังคงมีมูลค่าที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่จำนวนชิ้นจะน้อยลง และสถานการณ์ทางการเมืองของปี 2557 ในทัศนะของประชาชนยังมองมีสถานการณ์ที่เหมือนเดิม
นายธนวรรธน์กล่าวว่า ศูนย์ฯ ได้ประเมินภาวะเศรษฐกิจไทยในไตรมาสแรกของปี 2557 โดยคาดว่าจะขยายตัวลดลงหากไม่มีการยืดอายุของมาตรการลดภาษีน้ำมันดีเซลที่จะสิ้นสุดในช่วงเดือน ธ.ค. 2556 เพราะการเก็บภาษีน้ำมันดีเซลในรูปแบบเดิมจะมีผลทำให้ต้นทุนในการเดินทาง ต้นทุนการขนส่งจะเพิ่มขึ้น ทำให้ประชาชนจะต้องชะลอการใช้จ่ายและการบริโภคลง ซึ่งมองว่าหากเศรษฐกิจในไตรมาสแรกปี 2557 โตไม่ถึง 3% อาจจะเป็นปัจจัยเสี่ยงทำให้เศรษฐกิจไทยในปีหน้าโตไม่ถึง 4%
