xs
xsm
sm
md
lg

คลังอัดงบ7แสนล.ดันจีดีพีเกิน4%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - คลังลุ้นเม็ดเงินภาครัฐ 7 แสนล้านช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจปีนี้โตถึง 4% พร้อมเดินหน้าลดภาษีสินค้าฟุ่มเฟือยควบคู่ลดภาษีวัตถุดิบช่วยผู้ประกอบการในประเทศในต.ค. รองรับฤดูท่องเที่ยวปลายปี

นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่าวันที่ 26 กันยายนนี้ สศค.จะปรับประมาณการตัวเลขเศรษฐกิจของปี 2556 ใหม่ โดยจากตัวเลขเครื่องชี้วัดต่างๆ ที่ปรับตัวดีขึ้นในไตรมาส 2 ถือเป็นสัญญาณที่ดีที่เศรษฐกิจจะขยายตัวได้ตามที่คาดหวังไว้ไม่ต่ำกว่า4%

ทั้งนี้ เนื่องจากได้รับแรงขับเคลื่อนจากการเบิกจ่ายงบลงทุนและการเร่งใช้จ่ายเงินของกองทุนต่างๆ ซึ่งเฉพาะเงินประมาณปี 2556 ก็อยู่ที่ระดับ 7แสนล้านบาทแล้ว ยังไม่รวมตัวเลขการใช้จ่ายเงินไตรมาสแรกของงบประมาณปี 2557 ช่วงเดือนต.ค.-ธ.ค.นี้น่าจะอีกเป็นแสนล้าน จึงน่าจะเป็นเม็ดเงินที่เข้าไปกระตุ้นเศรษฐกิจได้ในช่วงปลายปี

"การส่งออกที่ลดลงนั้นเป็นไปตามที่สศค.คาดการณ์ไว้อยู่แล้ว จึงต้องหันมาเร่งรัดการใช้จ่ายและเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐและหน่วยงานหรือกองทุนต่างๆ ซึ่งทางสำนักงบประมาณได้จัดลำดับการใช้เงินของโครงการต่างๆ ที่ทำได้เร็วพบว่าเป็นเม็ดเงินที่ค่อนข้างมากและมีผลต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจได้น่าพอใจ จึงมีการประสานไปยังกรมบัญชีกลางด้วยเพื่อให้แน่ใจว่าจะมีการเบิกจ่ายได้จริงเพราะหากไม่ได้ก็จะทำให้การประเมินตัวเลขของสศค.คาดเคลื่อนๆ ไปด้วย" นายสมชัยกล่าว

ส่วนการลดภาษีสินค้าฟุ่มเฟือยเพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวให้มากขึ้นนั้น กระทรวงการคลังจะเรียกผู้ประกอบการมาหารืออีกครั้ง เพื่อดูแลไม่ให้ดารลดภาษีมีผลกระทบกับผู้ประกอบการมากเกินไปโดยนอกจากลดภาษีสินค้าสำเร็จรูปแล้วอาจพิจารณาลดภาษีวัตถุดิบช่วยภาคเอกชนด้วย เพื่อลดต้นทุนการผลิตสินค้าในประเทศให้แข่งขันกับสินค้านำเข้าที่ถูกลงได้

ด้านนายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงปลายปี นายกรัฐมนตรีได้เร่งรัดให้กระทรวงการคลัง สรุปแผนกระตุ้นการท่องเที่ยว "ช็อบปิ้ง พาราไดซ์" ผ่านหลายมาตรการ ด้วยการลดภาษีสินค้าฟุ่มเฟือยจาก 30% เหลือ 5 %เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวมีการใช้จ่ายซื้อสินค้าในช่วงปลายปีมากขึ้น

ทั้งนี้ ยอมรับว่าการลดภาษีแต่ละตัวจะต้องศึกษาผลกระทบที่เกิดขึ้นกับส่วนต่างๆ แต่รายได้จากการท่องเที่ยวจะทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้อีกทางหนึ่ง รวมไปถึงการพิจารณาส่งเสริมการค้าตามแนวชายแดน ด้วยการเพิ่มวงเงินการถือเงินสดข้ามแดนสำหรับการค้าการลงทุนให้เพิ่มขึ้น และเพิ่มความคล่องตัวให้กับการค้าการลงทุน เนื่องจากการค้าตามแนวชายแดนมีการเติบโตสูงมาก 20 % ต่อปี

โดยที่ผ่านมา ธปท.ได้อนุมัติหน่วยแลกเปลี่ยนเงินตราให้กับภาคเอกชนเพิ่มขึ้น 30-40 ราย จึงน่าจะทำให้การค้าตามแนวชายแดนเติบโตดีขึ้น จึงเตรียมสรุปตัวเลขการลดภาษี และแนวทางต่างๆ ต่อที่ประชุม ครม. ภายในสิ้นเดือนตุลาคมนี้ เพื่อรองรับฤดูกาลท่องเที่ยวในช่วงปลายปี.
กำลังโหลดความคิดเห็น