หุ้นไทยผันผวนแกว่งในกรอบแคบ ปิดภาคเช้าเพิ่มขึ้น 3 จุด นักลงทุนเลือกเล่นเป็นรายตัว ดัชนีตะกายยืนเหนือ 1,400 จุดสำเร็จ โบรกฯ แนะจับตาเพดานหนี้สหรัฐฯ ความชัดเจน “คิวอี” และการพิจารณาร่าง พ.ร.บ. 2 ล้านล้านบาท
ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ (13 ก.ย.) ดัชนีปิดครึ่งวันเช้าที่ระดับ 1,401.05 จุด เพิ่มขึ้น 3.15 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +0.23% มูลค่าการซื้อขาย 15,848.05 ล้านบาท โดยภาพรวมตลาดผันผวนแกว่งตัวทั้งในแดนบวกและลบ นักลงทุนเลือกซื้อหุ้นเป็นรายตัว ส่งผลให้ดัชนีกลับมาปิดเหนือระดับ 1,400 จุด
นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ไอร่า จำกัด ยอมรับว่า ทิศทางตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ( Sideway) ทิศทางเดียวกับภูมิภาค โดยให้น้ำหนักประเด็นต่างประเทศ โดยเฉพาะการประชุมเฟดวันที่ 17-18 กันยายนนี้
อย่างไรก็ตาม มีการคาดการณ์ว่าเฟดอาจจะเริ่มพิจารณาปรับลดวงเงิน QE ลงในรอบหลัง ช่วงที่ผ่านมาตัวเลขเศรษฐกจิของสหรัฐฯ มีสัญญาณที่ดีโดยเฉพาะการจ้างงาน และแนะจับตาการไหลของเงินทุนหลังแรงซื้อทั่วภูมิภาคเอเชียเริ่มชะลอตัว รวมถึงไทย ที่มียอดซื้อสุทธิจากต่างชาติ ลดลงเหลือเพียง 74 ล้านบาท
ขณะที่ยังแนะให้ติดตามประเด็นหนี้ของรฐับาลสหรัฐฯ ที่คาดจะถึงเพดานที่กำหนด ซึ่งหากการขยายเพดานหนี้ไม่ทันกำหนดอาจส่งผลต่อการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐฯ รวมถึงอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของสหรัฐฯ ที่ยังอยู่ในระดับสูง ล่าสุด อยู่ที่ร้อยละ 2.91
ด้านปัจจัยในประเทศ ยังคงจับตาดูการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะตัวเลขการส่งออกว่า จะสามารถฟื้นตัวได้ตามเศรษฐกิจโลกหรือไม่ และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วง 4 เดือนสดุท้ายของปี 2556 เช่น การปรับลดภาษีนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยให้เหลือร้อยละ 5 จากเดิมร้อยละ 30 และต้องจับตาประเด็น พ.ร.บ.เงินกู้ 2.0 ล้านล้านบาท รวมถึงทิศทางค่าเงินบาทที่ส่งผลต่อกลุ่มส่งออก