ASTVผู้จัดการรายวัน - “เคเอฟซี” โหมโมเดลไดรฟ์ทรูสแตนด์อะโลนหนักในปีหน้า วางแผนผุด 10 แห่ง จากแผนเปิดสาขาใหม่ 50 แห่งในปี 2557 ด้วยงบลงทุนรวม 2,200 ล้านบาท
นางสาวแววคนีย์ อัสโสรัตน์กุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ยัม เรสเทอรองตส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด ผู้บริหารร้านเคเอฟซีและพิซซ่าฮัท ในไทย เปิดเผยว่า ในปีหน้า (2557) บริษัทฯ มีแผนที่จะขยายสาขาเคเอฟซีในเชิงรุกด้วยงบรวมกว่า 2,200 ล้านบาท แบ่งเป็นงบการตลาด 650 ล้านบาท และที่เหลืออีกกว่า 1,600 ล้านบาทจะเป็นการขยายสาขาใหม่อีก 50 สาขาและรีโนเวตสาขาเดิม ทั้งนี้ ตั้งเป้าหมายระยะยาวไว้ที่ปี 2563 จะเปิดเคเอฟซีในไทยให้ครบ 750 สาขา จากปัจจุบันเปิดแล้ว 500 สาขา โดยจำนวน 50 สาขาในปีหน้าจะเน้นการขยายรูปแบบใหม่ที่จะเป็นโมเดลร้านเคเอฟซีแบบไดรฟ์ทรูประมาณ 10 สาขา ที่รวมทั้งของบริษัทฯ กับของแฟรนไชส์คือบริษัท เซ็นทรัล เรสเตอรองตส์ กรุ๊ป จำกัด ซึ่งจะเริ่มบุกหนักในปีหน้าเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม การที่จะขยายสาขาโมเดลไดรฟ์ทรูสแตนด์อะโลนได้ครบตามเป้าหมายหรือไม่นั้นปัจจัยเรื่องเงินทุนไม่มีปัญหา แต่สำคัญอยู่ที่ว่าจะสามารถหาทำเลที่ดีและมีขนาดพื้นที่ที่เหมาะสมจะเปิดได้หรือไม่ เพราะอย่างสาขาแรกโมเดลไดรฟ์ทรูสแตนด์อะโลนที่ถนนศรีนครินทร์นี้ต้องใช้เวลาอย่างน้อยกว่า 2 ปีจึงสำเร็จ
“ข้อดีของโมเดลไดรฟ์ทรูสแตนด์อะโลนคือ เปิดบริการได้ตลอด 24 ชั่วโมงไม่เหมือนร้านในศูนย์การค้าที่มีข้อจำกัดด้านเวลา แต่บริการได้ทุกรูปแบบ เข้าถึงลูกค้าได้ง่ายกว่าแทนที่จะต้องขับรถเข้าไปในห้างมีความสะดวกกว่า แต่ข้อเสียคือลงทุนสูงมาก หาพื้นที่ใหญ่ที่เหมาะสมยาก
จากเดิมที่ผ่านมาเคเอฟซีจะมีไดรฟ์ทรูที่เป็นแบบตั้งอยู่ในปั๊มน้ำมัน และทั่วไปประมาณ 4 สาขา เช่นที่แหลมฉบัง หัวหิน ราชพฤกษ์ เป็นต้น แต่ยังไม่ได้เป็นโมเดลไดรฟ์ทรูสแตนด์อะโลนสมบูรณ์แบบเหมือนอย่างสาขาที่ถนนศรีนครินทร์ ซึ่งเป็นโมเดลไดรฟ์ทรูสแตนด์อะโลนเต็มรูปแบบสาขาแรก และเป็นสาขาที่ 500 ในไทย
ทั้งนี้ ในต่างประเทศ เคเอฟซีบางประเทศมีรายได้จากไดรฟ์ทรูมาก เช่นในอเมริกามีมากกว่าแบบไดรฟ์อินหรือนั่งรับประทานในร้าน ส่วนที่ออสเตรเลียและแอฟริกาใต้มีสัดส่วนรายได้จากไดรฟ์ทรูประมาณ 50%
สำหรับสาขาแรกที่เป็นรูปแบบที่ถนนศรีนครินทร์นี้มีพื้นที่ประมาณ 400 ตารางเมตร ลงทุนกว่า 40 ล้านบาท มีลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการแบบไดรฟ์ทรูประมาณ 25% ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่น่าพอใจจากจำนวนลูกค้าที่เข้าร้านเฉลี่ย 800 คนต่อวัน โดยเปิดบริการเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
“โมเดลนี้คาดว่าจะมีคนเข้าร้านมากกว่าโมเดลปกติ 30% เพราะมีทางเลือกมากขึ้น และคาดว่าโมเดลนี้จะคืนทุนภายใน 3-5 ปี และคาดว่าเมื่อเราเปิดครบ 10 สาขาในปีหน้าในโมเดลนี้แล้วจะทำให้สัดส่วนรายได้ที่มาจากไดรฟ์ทรูประมาณ 2% ซึ่งถือเป็นการเริ่มต้นที่ดี แต่ปีหน้าตั้งเป้าโต 15%” นางแววคนีย์กล่าว
ส่วนแบรนด์พิซซ่าฮัท ปีนี้เปิด 10 สาขา ส่วนปีหน้าจะเปิด 30 สาขา จากปัจจุบันมี 78 สาขา
ปัจจุบันตลาดบริการอาหารจานด่วนหรือคิวเอสอาร์ หรือควิกเซอร์วิสเรสเตอรองต์ส มีมูลค่าประมาณ 28,700 ล้านบาท เติบโตเฉลี่ย 10% ต่อปี โดยมีเซกเมนต์ไก่ทอดเป็นตลาดใหญ่ที่สุด ซึ่งเคเอฟซีมีแชร์ในตลาดรวมคิวเอสอาร์ 48%