สรุปข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ
• ดัชนี PMI เบื้องต้นของยูโรโซนในเดือน ธ.ค. ปรับขึ้นสู่ระดับ 52.1 สูงสุดในรอบ 3 เดือน จาก 51.7 ในเดือน พ.ย. โดยดัชนี PMI ภาคการผลิตเพิ่มขึ้นสู่ 52.7 สูงสุดในรอบ 31 เดือน จาก 51.6 ในเดือน พ.ย. และดัชนี PMI ภาคบริการลดลงมาอยู่ที่ 51.0 ต่ำสุดในรอบ 4 เดือน เทียบกับ 51.2 ในเดือน พ.ย.
• ดัชนี PMI เบื้องต้นของเยอรมนีในเดือน ธ.ค. ลดลงแตะ 55.2 ต่ำสุดในรอบ 2 เดือน จาก 55.4 ในเดือน พ.ย. โดยดัชนี PMI ภาคการผลิตเพิ่มขึ้นสู่ 54.2 สูงสุดในรอบ 30 เดือน จาก 52.7 ในเดือน พ.ย. และดัชนี PMI ภาคบริการปรับลงมาอยู่ที่ 54.0 ต่ำสุดในรอบ 2 เดือน เทียบกับ 55.7 ในเดือน พ.ย.
• ดัชนี PMI เบื้องต้นของฝรั่งเศสในเดือน ธ.ค. ลดลงแตะ 47.0 ต่ำสุดในรอบ 7 เดือน จาก 48.0 ในเดือน พ.ย. โดยดัชนี PMI ภาคการผลิตปรับลงสู่ 47.1 ต่ำสุดในรอบ 7 เดือน จาก 48.4 ในเดือน พ.ย.และดัชนี PMI ภาคบริการร่วงลงมาอยู่ที่ 47.4 ต่ำสุดในรอบ 6 เดือน เทียบกับ 48.0 ในเดือน พ.ย.
• DBS Global Research คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB :European Central Bank) จะลดดอกเบี้ยจาก 0.25% เหลือ 0.00% ในไตรมาส 2 ปีหน้า เพราะฐานะการคลังรัฐบาลในกลุ่มประเทศยูโรส่วนใหญ่ยังไม่พ้นปัญหา ภาวะการว่างงานสูง มีหนี้เสียมาก และธนาคารต่างๆ ก็ยังไม่แข็งแรง
• บริษัทไรท์มูฟ เปิดเผยผลสำรวจว่าราคาบ้านในอังกฤษเดือน ธ.ค. ลดลง 1.9% จากเดือน พ.ย. แต่ยังคงเพิ่มขึ้น 5.4% เมื่อเทียบกับช่วงสิ้นปี 2555 ทั้งนี้ ไรท์มูฟคาดว่าราคาบ้านในอังกฤษจะยังคงปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยคาดว่าราคาจะพุ่งขึ้น 8% ในปี 2557
• มีการคาดการณ์กันมากว่า FED จะลด QE ในการประชุม FOMC วันที่ 17-18 ธ.ค.นี้ แต่ Ben Bernanke ประธาน FED เคยระบุไว้ว่าจะรักษาดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำ 0.25% ต่อไป จนกว่าตัวเลขว่างงานจะลดลงเหลือ 6.5% ซึ่งล่าสุดอยู่ที่ 7.00% ดังนั้น จึงเป็นไปได้ว่าหากสหรัฐสามารถสร้างงานเพิ่มขึ้นได้อีก การเริ่มลดมาตราการ QE น่าจะเกิดขึ้นเร็วสุดในช่วงเดือน มี.ค.2557
• ผลสำรวจทังกันญี่ปุ่นไตรมาสที่ 4 ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของกลุ่มผู้ผลิตรายใหญ่เพิ่มขึ้นเป็น +16 จากไตรมาส 3 ที่เป็น +12 ทำสถิติเพิ่มขึ้นติดต่อกัน 4 ไตรมาส ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการนอกภาคการผลิตเป็น +20 เพิ่มจาก +14 ในไตรมาส 3 แต่บริษัทขนาดใหญ่ในอุตสาหกรรมทุกประเภทวางแผนที่จะเพิ่มการใช้จ่ายด้านทุนน้อยลงจาก 5.1% เป็น 4.6%
• ก.พาณิชย์จีน ประกาศเดินหน้าผ่อนคลายข้อกำหนดด้านการลงทุนข้ามพรมแดนโดยตรงด้วยเงินหยวน โดยจะปรับเปลี่ยนระเบียบข้อบังคับใหม่เกี่ยวกับการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศด้วยสกุลเงินหยวนให้สะดวกยิ่งขึ้น ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2557 เป็นต้นไป
• ครม.จีน ระบุว่า ได้พิจารณาขยายตลาด OTC ให้ครอบคลุมธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก ที่มีคุณสมบัติที่เหมาะสมทั้งหมด โดยจะครอบคลุมทุกบริษัทที่มีนวัตกรรมและศักยภาพ
• ดัชนี PMI ภาคการผลิตเบื้องต้นของจีนในเดือน ธ.ค. ลดลงแตะ 50.5 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน โดยดัชนี อ่อนแรงลงเล็กน้อย แต่ยังคงอยู่เหนือระดับเฉลี่ยของช่วงไตรมาส 3 บ่งชี้ว่าแนวโน้มการฟื้นตัวของภาคการผลิตที่เริ่มขึ้นตั้งแต่เดือน ก.ค. ยังคงมีความต่อเนื่อง
• ก.พาณิชย์อินเดีย เปิดเผยว่า เงินเฟ้อระดับค้าส่งในเดือน พ.ย. ขยายตัวเร็วเกินคาด โดยดัชนีราคาค้าส่งเพิ่มขึ้น 7.52% เมื่อเทียบรายปี และ 7% เมื่อเทียบรายเดือน เป็นการปรับตัวขึ้นสูงสุดในรอบ 14 เดือน สร้างแรงกดดันต่อ ธ.กลางอินเดีย ในการพิจารณาระดับอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์นี้
• หอการค้าและอุตสาหกรรมอินโดนีเซีย ระบุว่า นโยบายยกเลิกส่งออกนิคเกิลของอินโดนีเซียอาจทำให้คนตกงานกว่า 800,000 คน ทั้งนี้ รัฐบาลต้องการเพิ่มมูลค่าการส่งออกสินแร่ด้วยการห้ามผู้ดำเนินธุรกิจเหมืองนิคเกิลรายใหญ่ที่สุดของประเทศส่งออกแร่ดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 12 ม.ค. เป็นต้นไป ส่งผลให้สัญญานิคเกิลในตลาดลอนดอนพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 1 เดือน
สรุปข่าวเศรษฐกิจในประเทศ
• รมช.พาณิชย์ ระบุว่า สถิติการจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัททั่วไทยเดือน พ.ย. ลดลง 16% เมื่อเทียบกับเดือน ต.ค.56 เพราะปัญหาทางการเมืองส่งผลกระทบต่อความมั่นใจในการลงทุนทำธุรกิจ
• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับตัวขึ้นเล็กน้อยในช่วง 0.00% ถึง 0.01% โดยมีมูลค่าซื้อขายรวม 50,682 ล้านบาท สำหรับวันนี้จะมีการประมูลพันธบัตร ธปท. รุ่น 3 และ 6 เดือน มูลค่ารวม 56,000 ล้านบาท
• SET Index ปิดที่ 1,328.40 จุด ลดลง 12.73 จุด (-0.95%) ด้วยมูลค่าซื้อขาย 23,137 ล้านบาท โดยดัชนีเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดวัน มีจุดสูงสุดที่ 1,338.74 จุด ต่ำสุดที่ 1,326.01 จุด ซึ่งปรับตัวในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ต่างปรับตัวลงเพราะคาดว่าจะมีการขายทำกำไรก่อนการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 17-18 ธ.ค.นี้ โดยมีประเด็นการลดขนาด QE นอกจากนี้ ตลาดบ้านเราก็ยังเจอปัจจัยการเมืองกดดัน ซึ่งก็ยังต้องติดตามสถานการณ์ต่อไป
สรุปยอดสุทธิการซื้อขายของแต่ละกลุ่ม(16 ธ.ค.56)
กลุ่มนักลงทุน ล้านบาท
นักลงทุนสถาบัน +1,150.35
บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ -474.26
นักลงทุนต่างชาติ -2,443.40
นักลงทุนทั่วไป +1,767.31
ที่มา : Good Morning News บลจ.บัวหลวง
• ดัชนี PMI เบื้องต้นของยูโรโซนในเดือน ธ.ค. ปรับขึ้นสู่ระดับ 52.1 สูงสุดในรอบ 3 เดือน จาก 51.7 ในเดือน พ.ย. โดยดัชนี PMI ภาคการผลิตเพิ่มขึ้นสู่ 52.7 สูงสุดในรอบ 31 เดือน จาก 51.6 ในเดือน พ.ย. และดัชนี PMI ภาคบริการลดลงมาอยู่ที่ 51.0 ต่ำสุดในรอบ 4 เดือน เทียบกับ 51.2 ในเดือน พ.ย.
• ดัชนี PMI เบื้องต้นของเยอรมนีในเดือน ธ.ค. ลดลงแตะ 55.2 ต่ำสุดในรอบ 2 เดือน จาก 55.4 ในเดือน พ.ย. โดยดัชนี PMI ภาคการผลิตเพิ่มขึ้นสู่ 54.2 สูงสุดในรอบ 30 เดือน จาก 52.7 ในเดือน พ.ย. และดัชนี PMI ภาคบริการปรับลงมาอยู่ที่ 54.0 ต่ำสุดในรอบ 2 เดือน เทียบกับ 55.7 ในเดือน พ.ย.
• ดัชนี PMI เบื้องต้นของฝรั่งเศสในเดือน ธ.ค. ลดลงแตะ 47.0 ต่ำสุดในรอบ 7 เดือน จาก 48.0 ในเดือน พ.ย. โดยดัชนี PMI ภาคการผลิตปรับลงสู่ 47.1 ต่ำสุดในรอบ 7 เดือน จาก 48.4 ในเดือน พ.ย.และดัชนี PMI ภาคบริการร่วงลงมาอยู่ที่ 47.4 ต่ำสุดในรอบ 6 เดือน เทียบกับ 48.0 ในเดือน พ.ย.
• DBS Global Research คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB :European Central Bank) จะลดดอกเบี้ยจาก 0.25% เหลือ 0.00% ในไตรมาส 2 ปีหน้า เพราะฐานะการคลังรัฐบาลในกลุ่มประเทศยูโรส่วนใหญ่ยังไม่พ้นปัญหา ภาวะการว่างงานสูง มีหนี้เสียมาก และธนาคารต่างๆ ก็ยังไม่แข็งแรง
• บริษัทไรท์มูฟ เปิดเผยผลสำรวจว่าราคาบ้านในอังกฤษเดือน ธ.ค. ลดลง 1.9% จากเดือน พ.ย. แต่ยังคงเพิ่มขึ้น 5.4% เมื่อเทียบกับช่วงสิ้นปี 2555 ทั้งนี้ ไรท์มูฟคาดว่าราคาบ้านในอังกฤษจะยังคงปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยคาดว่าราคาจะพุ่งขึ้น 8% ในปี 2557
• มีการคาดการณ์กันมากว่า FED จะลด QE ในการประชุม FOMC วันที่ 17-18 ธ.ค.นี้ แต่ Ben Bernanke ประธาน FED เคยระบุไว้ว่าจะรักษาดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำ 0.25% ต่อไป จนกว่าตัวเลขว่างงานจะลดลงเหลือ 6.5% ซึ่งล่าสุดอยู่ที่ 7.00% ดังนั้น จึงเป็นไปได้ว่าหากสหรัฐสามารถสร้างงานเพิ่มขึ้นได้อีก การเริ่มลดมาตราการ QE น่าจะเกิดขึ้นเร็วสุดในช่วงเดือน มี.ค.2557
• ผลสำรวจทังกันญี่ปุ่นไตรมาสที่ 4 ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของกลุ่มผู้ผลิตรายใหญ่เพิ่มขึ้นเป็น +16 จากไตรมาส 3 ที่เป็น +12 ทำสถิติเพิ่มขึ้นติดต่อกัน 4 ไตรมาส ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการนอกภาคการผลิตเป็น +20 เพิ่มจาก +14 ในไตรมาส 3 แต่บริษัทขนาดใหญ่ในอุตสาหกรรมทุกประเภทวางแผนที่จะเพิ่มการใช้จ่ายด้านทุนน้อยลงจาก 5.1% เป็น 4.6%
• ก.พาณิชย์จีน ประกาศเดินหน้าผ่อนคลายข้อกำหนดด้านการลงทุนข้ามพรมแดนโดยตรงด้วยเงินหยวน โดยจะปรับเปลี่ยนระเบียบข้อบังคับใหม่เกี่ยวกับการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศด้วยสกุลเงินหยวนให้สะดวกยิ่งขึ้น ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2557 เป็นต้นไป
• ครม.จีน ระบุว่า ได้พิจารณาขยายตลาด OTC ให้ครอบคลุมธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก ที่มีคุณสมบัติที่เหมาะสมทั้งหมด โดยจะครอบคลุมทุกบริษัทที่มีนวัตกรรมและศักยภาพ
• ดัชนี PMI ภาคการผลิตเบื้องต้นของจีนในเดือน ธ.ค. ลดลงแตะ 50.5 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน โดยดัชนี อ่อนแรงลงเล็กน้อย แต่ยังคงอยู่เหนือระดับเฉลี่ยของช่วงไตรมาส 3 บ่งชี้ว่าแนวโน้มการฟื้นตัวของภาคการผลิตที่เริ่มขึ้นตั้งแต่เดือน ก.ค. ยังคงมีความต่อเนื่อง
• ก.พาณิชย์อินเดีย เปิดเผยว่า เงินเฟ้อระดับค้าส่งในเดือน พ.ย. ขยายตัวเร็วเกินคาด โดยดัชนีราคาค้าส่งเพิ่มขึ้น 7.52% เมื่อเทียบรายปี และ 7% เมื่อเทียบรายเดือน เป็นการปรับตัวขึ้นสูงสุดในรอบ 14 เดือน สร้างแรงกดดันต่อ ธ.กลางอินเดีย ในการพิจารณาระดับอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์นี้
• หอการค้าและอุตสาหกรรมอินโดนีเซีย ระบุว่า นโยบายยกเลิกส่งออกนิคเกิลของอินโดนีเซียอาจทำให้คนตกงานกว่า 800,000 คน ทั้งนี้ รัฐบาลต้องการเพิ่มมูลค่าการส่งออกสินแร่ด้วยการห้ามผู้ดำเนินธุรกิจเหมืองนิคเกิลรายใหญ่ที่สุดของประเทศส่งออกแร่ดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 12 ม.ค. เป็นต้นไป ส่งผลให้สัญญานิคเกิลในตลาดลอนดอนพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 1 เดือน
สรุปข่าวเศรษฐกิจในประเทศ
• รมช.พาณิชย์ ระบุว่า สถิติการจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัททั่วไทยเดือน พ.ย. ลดลง 16% เมื่อเทียบกับเดือน ต.ค.56 เพราะปัญหาทางการเมืองส่งผลกระทบต่อความมั่นใจในการลงทุนทำธุรกิจ
• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับตัวขึ้นเล็กน้อยในช่วง 0.00% ถึง 0.01% โดยมีมูลค่าซื้อขายรวม 50,682 ล้านบาท สำหรับวันนี้จะมีการประมูลพันธบัตร ธปท. รุ่น 3 และ 6 เดือน มูลค่ารวม 56,000 ล้านบาท
• SET Index ปิดที่ 1,328.40 จุด ลดลง 12.73 จุด (-0.95%) ด้วยมูลค่าซื้อขาย 23,137 ล้านบาท โดยดัชนีเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดวัน มีจุดสูงสุดที่ 1,338.74 จุด ต่ำสุดที่ 1,326.01 จุด ซึ่งปรับตัวในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ต่างปรับตัวลงเพราะคาดว่าจะมีการขายทำกำไรก่อนการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 17-18 ธ.ค.นี้ โดยมีประเด็นการลดขนาด QE นอกจากนี้ ตลาดบ้านเราก็ยังเจอปัจจัยการเมืองกดดัน ซึ่งก็ยังต้องติดตามสถานการณ์ต่อไป
สรุปยอดสุทธิการซื้อขายของแต่ละกลุ่ม(16 ธ.ค.56)
กลุ่มนักลงทุน ล้านบาท
นักลงทุนสถาบัน +1,150.35
บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ -474.26
นักลงทุนต่างชาติ -2,443.40
นักลงทุนทั่วไป +1,767.31
ที่มา : Good Morning News บลจ.บัวหลวง
