เคที ออพติค เท 75 ล้านบาทลุยปีหน้า เปิดอีก 10 สาขา เล็งจัดเอ็กซิบิชันสร้างแบรนด์สู่การเติบโตอีก 5% เท่าปีนี้ที่คาดว่าจะปิดรายได้ที่ 950 ล้านบาท เผยกลุ่มเคทีพร้อมลุยอสังหาริมทรัพย์ต่อเนื่อง ปีหน้าทุ่มอีก 150 ล้านบาทผุด 3 โครงการในนครสวรรค์ และ 120 ล้านบาทกับคอมมูนิตีมอลล์แห่งแรกใน กทม.ย่านนวมินทร์ พร้อมให้บริการ เม.ย.ปีหน้า
นายชัชวาลย์ วณิชไพสิฐ ผู้อำนวยการด้านการบริหาร บริษัท เคที ออพติค จำกัด เปิดเผยว่า ภาพการแข่งขันของตลาดรวมแว่นตาปีนี้ค่อนข้างรุนแรง โดยเฉพาะในกลุ่มแมสที่มีการลดราคาไม่ต่ำกว่า 50% ส่งผลให้ทั้งปียังมีการเติบโตที่ 5% จากมูลค่าตลาด 6,000 ล้านบาท เช่นปีที่ผ่านๆ มา
ในส่วนของเคที ออพติค ปีนี้มีการเติบโต 5% เท่าตลาดรวม คิดเป็นรายได้กว่า 950 ล้านบาท หรือมีส่วนแบ่งอยู่ในตลาดรวม 14% และมีส่วนแบ่ง 50% ในตลาดระดับบนที่มีสัดส่วน 30% ของตลาดแว่นตาทั้งหมด ที่มีราคาจำหน่ายตั้งแต่ 1 หมื่นบาทขึ้นไป ส่วนสำคัญมาจากแผนการทำตลาดอย่างต่อเนื่อง และการเปิดสาขาใหม่อีก 22 สาขา
ส่วนปีหน้ายังมั่นใจว่าจะมียอดขายเติบโตขึ้นไม่ต่ำกว่า 5% เท่าปีนี้ โดยเตรียมงบลงทุนไว้กว่า 75 ล้านบาท แบ่งเป็นงบ 60 ล้านบาทสำหรับขยายสาขาใหม่อีก 10 สาขา เป็นแฟลกชิปสโตร์ 1 สาขา ลงทุนราว 8-10 ล้านบาท และแบบชอปอินชอปอีก 9 สาขา ลงทุนสาขาละ 4 ล้านบาท ที่เหลือสำหรับการปรับปรุงสาขาเดิม จากปัจจุบันเคที ออพติด เปิดให้บริการทั้งสิ้น 200 สาขาทั่วประเทศ และงบอีก 15 ล้านบาทจะใช้สำหรับการทำกิจกรรมทางการตลาด เช่น การจัดเอ็กซิบิชันเกี่ยวกับแว่นตา เพื่อสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งมากขึ้น
ล่าสุดได้จัดแคมเปญ Big Gift ลดราคาแว่นตาสูงสุด 50% ในช่วงเดือน ธ.ค. 56-ม.ค. 57 เชื่อว่าจะมียอดขายเพิ่มจากปกติราว 5-7% นอกจากนี้ยังนำเข้าแว่นตา Ray-Ban Limited Edition รุ่น Aviator Solid Gold 10 อัน จากยอดผลิตทั่วโลก 1,200 อัน เสนอขายในราคา 1.2 แสนบาท ขณะนี้มียอดจองแล้ว 5 อัน
นายชัชวาลย์กล่าวต่อว่า ทิศทางตลาดแว่นตาในอนาคตช่องทางออนไลน์จะสำคัญมากขึ้น โดยจะถูกขับเคลื่อนจากเรื่องของแฟชั่น และไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ส่วนชอปจะเป็นเพียงหน้าร้านมากขึ้น ดังนั้นทางบริษัทจึงไม่เน้นขยายสาขามากนักหลังจากนี้ เพราะปัจจุบัน 200 กว่าสาขาถือว่าครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายแล้ว
โดยเคที ออพติค เป็นร้านเชนแว่นตาที่จับกลุ่มลูกค้าระดับกลางขึ้นไป หรือคิดเป็นอันดับ 2 ในแง่จำนวนสาขา รองจากอันดับ 1 คือ ท็อปเจริญ และอันดับ 3 คือ กรุงไทยการแว่น
ส่วนแผนขยายตลาดสู่ต่างประเทศนั้น มองว่ายังเป็นไปได้ยาก โดยเฉพาะร้านแว่นในระดับกลางถึงพรีเมียม แต่ก็เริ่มมีการศึกษาและเจรจากับหลายประเทศ ทั้งพม่า ลาว เขมร และกัมพูชา ซึ่งคิดว่า 3 ปีหลังจากนี้น่าจะได้เห็นการลงทุนในต่างประเทศในลักษณะของการร่วมทุนเป็นหลัก
ด้านนายสุเมธ กรรมการ บริษัท เคที ออพติค จำกัด กล่าวว่า ในส่วนของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของกลุ่มเคทีนั้น ปีหน้าเตรียมงบลงทุนไว้อีก 150-180 ล้านบาทสำหรับ 3 โครงการใหม่ แบบอาคารพาณิชย์และบ้านจัดสรร ในจังหวัดนครสวรรค์ ลงทุนโครงการละ 50-60 ล้านบาท และล่าสุดกับโครงการคอมมูนิตีมอลล์ ย่านนวมินทร์ 157 พื้นที่ 5 ไร่ แบบฟูดเซ็นเตอร์ โดยยังไม่ได้คิดชื่อโครงการ รองรับกลุ่มหอพักต่างๆ ในย่านดังกล่าว เบื้องต้นใช้งบก่อสร้างราว 20 ล้านบาท ส่วนที่ดินนั้นเป็นที่ดินที่มีอยู่แล้ว คิดเป็นมูลค่าราว 200 ล้านบาท คาดเปิดให้บริการ เม.ย.ปีหน้า ขณะนี้กำลังเตรียมเปิดให้จองพื้นที่แล้ว
ทั้งนี้ กลุ่มเคทีได้เริ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มาได้ 3 ปี โดยมีทั้งหมด 7 โครงการ คือ คอนโดมิเนียม @Tree ที่พิษณุโลก 1 โครงการ, โรงแรม42C 1 โครงการที่นครสวรรค์, บ้านจัดสรรที่พิษณุโลก 1 โครงการ และนครสวรรค์ 3 โครงการ ซึ่งเมื่อรวมรายได้ทั้งหมดแล้ว รายได้จากธุรกิจแว่นตายังเป็นอันดับ 1 หรือส่วนแบ่งกว่าครึ่งเมื่อเทียบกับรายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบัน