xs
xsm
sm
md
lg

“MINT” รุกตลาดต่างประเทศตั้งเป้า 5 ปี โต 15-20% ต่อเนื่องทุกปี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“บมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล” ตั้งเป้าระยะยาว 5  ปีเติบโตไม่น้อยกว่า 15-20% ต่อปี อัดฉีดงบลงทุนเพิ่มกว่า 1.2 หมื่นล้านบาท ดันกลยุทธ์สร้างแบรนด์สินค้าให้เติบโตและหลากหลายมากขึ้น และเตรียมเจรจา M&A เพื่อเข้าซื้อโรงแรมเพิ่มขึ้นเน้นกลุ่มประเทศอาเซียน รองรับการเปิด AEC ปี 2558

นายชัยพัฒน์ ไพฑูรย์ รองประธานฝ่ายกลยุทธ์ บมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล หรือ MINT กล่าวว่า บริษัทฯ ตั้งเป้าการเติบโตในระยะยาว 5 ปี ในอัตราเฉลี่ยที่ 15-20% ต่อปี ซึ่งได้วางแผนในการผลักดันธุรกิจ โดยเน้นกลยุทธ์สร้างแบรนด์สินค้าให้เติบโต และมีความหลากหลายมากขึ้น เช่น การเพิ่มกลุ่มสินค้าแฟรนไชส์เพื่อขยายช่องทางการจัดจำหน่าย และเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้ง่ายขึ้น อย่างไรก็ดี บริษัทได้วางงบการลงทุนเพิ่มในกล่มสินค้าใหม่ที่จะเข้าไปลงทุนในระยะยาว 5 ปี ด้วยเม็ดเงินลงทุนกว่า 1.2 หมื่นล้านบาท โดยจะเน้นการลงทุนในโรงแรมทั้งใน ประเทศ และ M&A ในต่างประเทศเพิ่มมากขึ้่นเพื่อรองรับอุตสาหกรรมท่องเที่ยว และการเปิดเขตการค้าเสรีอาเซียน ในปี2558

“ขณะที่ในส่วนของรายได้รวม 9 เดือนของปีนี้  ปรับเพิ่มขึ้นถึง 11% จากงวดเดียวกันของปีที่แล้ว โดยผลประกอบการในไตรมาส 3 บริษัทฯ มีรายได้ 707 ล้านบาท เกินกว่าที่บริษัทฯ ตั้งเป้าไว้ 650 ล้านบาท ซึ่งถือเติบโตแบบก้าวกระโดด หากเทียบกันกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว บริษัทคาดว่าแนวโน้มในไตรมาสที่ 4 จะเป็นช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวที่จะทำรายได้ให้บริษัทเพิ่มมากขึ้น และยังสามารถเติบโตได้ในระยะยาว”

ทั้งนี้ แบ่งเป็นการเติบโตของบริษัทใน 3 ธุรกิจหลัก คือ ธุรกิจโรงแรม 8% ธุรกิจอาหาร 16% และธุรกิจค้าปลีก 8%   ดังนั้น จึงมองว่าไม่กระทบต่อรายได้ภาพรวมธุรกิจของบริษัทฯ โดยแนวโน้มไตรมาส 4 ภาพรวมธุรกิจยังดีอยู่ ทั้งธุรกิจโรงแรม และร้านอาหาร แม้มีเรื่องการเมืองแต่ก็ยังมีจำกัดอยู่ในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ เป็นหลัก ด้านการท่องเที่ยว และเขตการค้าก็ยังดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าจะดีต่อเนื่องในระยะยาวได้ ส่วนด้านธุรกิจอาหารที่ไตรมาส 3 คนกังวลเรื่องการบริโภคภายในประเทศที่ชะลอลง แต่บริษัทฯ ก็ยังคงเติบโตได้ต่อเนื่อง ดังนั้น การชุมนุมประท้วงที่เกิดขึ้นยังคงไม่กระทบต่อบริษัทมากนัก ในส่วนของโรงแรมยังไม่ได้รับผลกระทบมากนัก ซึ่งถ้าหากกรณีที่เกิดผลกระทบขึ้นจริง คาดว่าจะส่งผลต่อรายได้ในกลุ่มธุรกิจโรงแรมน้อยกว่า 10% ซึ่งสัดส่วนรายได้ของธุรกิจโรงแรมคิดเป็น 43% ของรายได้รวมทั้งหมด
กำลังโหลดความคิดเห็น