บอร์ด รฟม.มีมติไม่เพิ่มทุนใน BMCL ตามความเห็นที่ปรึกษาการเงินและการวิเคราะห์ของ CFO เผยแม้สัดส่วนหุ้นลดจาก 25%เหลือ 14% จะไม่กระทบต่อการกำกับดูแลสัมปทานและในฐานะผู้ถือหุ้นยังออกเสียงได้ตามปกติ เร่งเสนอคมนาคมเพื่อขออนุมัติ ครม.เห็นชอบ ด้าน “รัชนี” สั่งฝ่ายกฎหมายศึกษาผลสะท้อนกรณี รฟม.เข้าไปถือหุ้นในบริษัทที่ให้สัมปทานไปเพื่อความชัดเจนในอนาคต
นางสาวรัชนี ตรีพิพัฒน์กุล ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมบอร์ด รฟม.เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ได้มีมติเห็นชอบไม่เพิ่มทุนในบริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BMCL หลังจากพิจารณารายงานผลการศึกษาของที่ปรึกษาทางการเงิน และการวิเคราะห์ผลดี-ผลเสียแนวทางเพิ่มทุนหรือไม่เพิ่มทุนของหัวหน้าเจ้าหน้าที่ด้านการเงิน (CFO) ของ รฟม.ประกอบกัน โดยได้เสนอมติบอร์ด รฟม.ไปที่กระทรวงคมนาคมและเสนอไปยังคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อขอนุมัติตามขั้นตอนแล้ว
ทั้งนี้ การไม่เพิ่มทุนใน BMCL ซึ่งจะทำให้สัดส่วนหุ้นของ รฟม.จะลดลงจาก 25% เหลือ 14% ในแง่ของการเป็นผู้ถือหุ้น รฟม.สามารถออกความเห็นได้ตามปกติ ส่วนในแง่การกำกับดูแลสัมปทานนั้นสามารถดำเนินการได้ตามขั้นตอนที่สัญญาสัมปทานกำหนดไว้ได้ไม่มีปัญหา
นอกจากนี้บอร์ด รฟม.ยังเห็นว่า ขณะนี้หน้าที่หลักของ รฟม.คือการเร่งผลักดันการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าทั้ง 6 สายที่อยู่ในความรับผิดชอบให้แล้วเสร็จตามแผน ซึ่งในอนาคตหากจะมีการทำสัญญากับเอกชนให้เข้ามารับสัมปทานเป็นผู้เดินรถไฟฟ้าอีกนั้นจะต้องคำนึงถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในกรณีที่ รฟม.เข้าไปถือหุ้นในบริษัทที่ได้รับสัมปทานด้วย ซึ่งบอร์ดได้มอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายของ รฟม. ศึกษาผลสะท้อนที่จะเกิดขึ้นในทุกๆ ด้าน
“ขณะนี้ รฟม.ได้ข้อสรุปชัดเจนแล้วว่าจะไม่เพิ่มทุนใน BMCL และได้เสนอเรื่องไปยังกระทรวงคมนาคมเพื่อเสนอ ครม.ขออนุมัติในการเปลี่ยนแปลงสัดส่วนหุ้น จากเดิมที่ ครม.เคยมีมติให้ รฟม.ถือหุ้นใน BMCL จากเดิม 25% เหลือ 14% แต่หากฝ่ายนโยบายเห็นว่า รฟม.ควรรักษาสัดส่วนหุ้นไว้เท่าเดิมที่ 25% เพราะอาจมองในแง่ยุทธศาสตร์ซึ่งกระทรวงคมนาคมและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสัมคมแห่งชาติ (สศช.) จะต้องหารือกับกระทรวงการคลังในประเด็นการจัดหาเงินเพิ่มทุนประมาณ 2,100 ล้านบาท” นางสาวรัชนีกล่าว
