xs
xsm
sm
md
lg

ลานเบียร์ละเหี่ยใจ ลุ้นม็อบไม่ลากยาว หวังดันยอดขายช่วงโค้งท้าย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สรกฤต ลัทธิธรรม ผู้จัดการฝ่าการตลาดอาวุโส บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด
ตลาดเบียร์ในไทยว่ากันว่ามีมูลค่าประมาณ 1.2 แสนล้านบาทต่อปี ซึ่งถือได้ว่าเป็นตลาดที่มีมูลค่ามหาศาลเลยทีเดียว เนื่องจากตลาดรวมมีการเติบโตมาโดยตลอดระหว่าง 5-10% ต่อปี แม้ว่าทุกปีจะมีอุปสรรคในการทำตลาดบ้างก็ตาม

ทว่า แต่ตลาดเบียร์รวมปีนี้มีแนวโน้มอย่างมากที่จะไม่ได้เติบโตแบบมีนัยหรืออย่างเก่งที่สุดก็คือเสมอตัวไม่เติบโตเลย ทั้งนี้มีการประเมินไว้ตั้งแต่ต้นปีแล้วว่าตลาดรวมปีนี้อาจจะเติบโตประมาณ 4-10% แต่ด้วยปัญหาต่างๆ ที่รุมเร้าตั้งแต่ต้นปี คนในวงการต่างก็หวั่นว่าปีนี้อาจจะเป็นปีที่ตลาดเบียร์นิ่งก็เป็นได้

นายปริญ มาลากุล ณ อยุธยา ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการองค์กร บริษัท ไทยเอเชีย แปซิฟิค บริวเวอรี่ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เบียร์ไฮเนเก้น ไทเกอร์ ให้ความเห็นว่า ช่วงสองไตรมาสแรกตลาดเบียร์ยังคงเติบโตดี แต่เริ่มมาลดลงบ้างในช่วงไตรมาสที่สาม เพราะกำลังซื้อเริ่มลดลง และภาวะเศรษฐกิจไม่ค่อยดีด้วย

หากจะมองอุปสรรคตลาดเบียร์ปีนี้อย่างชัดๆ ก็คือ 1. กำลังซื้อผู้บริโภคลดลงเพราะภาระค่าครองชีพสูงขึ้น 2. ผลกระทบจากกลุ่มผู้บริโภคกลุ่มใหญ่ที่ต้องมีภาระผ่อนรถคันแรก และตกงานเพราะนายจ้างปิดกิจการจากนโยบายค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำขึ้นเป็น 300 บาทต่อวัน ทำให้หลายกิจการต้องปิดตัว 3. ภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ 4. ผลกระทบจากภาษีแอลกอฮอล์ที่ปรับอัตราขึ้นมาไม่นานนี้ ทำให้ราคาเบียร์ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สูงขึ้น 5. ปัญหาการเมืองที่ทำให้อารมณ์การจับจ่ายของคนไทยลดน้อยลงด้วย และหวาดหวั่นต่อความไม่ปลอดภัย

อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการค่ายเบียร์ทั้งหลายต่างก็มุ่งหวังว่าในช่วงปลายปีนี้ซึ่งเป็นเทศกาลเฉลิมฉลองความสุขและเป็นหน้าขายที่สำคัญของเบียร์จะกระเตื้องขึ้นมาบ้าง ทั้งการจัดงานลานเบียร์ หรือการจัดงานรื่นเริงต่างๆ แต่ก็มีปัจจัยลบเกิดขึ้นอีกจนได้ เนื่องจากการจัดงานลานเบียร์ต้องเปิดบริการล่าช้าออกไปเกือบ 1 เดือน เนื่องจากกำหนดเปิดบริการเดิมนั้นอยู่ในช่วงคาบเกี่ยวของการไว้ทุกข์ จากกรณีที่สมเด็จพระสังฆราชสิ้นพระชนม์ และเพิ่งเปิดบริการได้จริงเมื่อสัปดาห์ที่แล้วนี้เอง ทำให้โอกาสในการขายหายไปเกือบเดือน
อีกทั้งยังต้องเผชิญกับปัญหาการเมืองที่เริ่มรุนแรงมากขึ้นในเวลานี้อีก

แม้ว่ายอดขายจากงานลานเบียร์จะมีสัดส่วนไม่ถึง 1% ของมูลค่าตลาดเบียร์โดยรวมทั้งปีก็ตาม เพราะถือเป็นการสร้างแบรนด์ที่สำคัญ แต่ด้วยสถานการณ์เช่นนี้อย่างน้อยที่สุดผู้ประกอบการก็ย่อมต้องหวังยอดขายมากที่สุดเป็นธรรมดา และพยายามผลักดันรายได้ให้มากที่สุดมาทดแทนตลาดที่ซบเซาลงไป

ผู้บริหารค่ายเบียร์มองคล้ายกันว่า ม็อบการเมืองที่กระจายทั่วประเทศยามนี้จะเป็นตัวกระทบที่สำคัญอีกตัวแปรหนึ่ง

นายฉัตรชัย วิรัตน์โยสินทร์ ผู้อำนวยการสายการตลาด บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด มองว่า ไตรมาสสุดท้ายนี้ตลาดรวมเบียร์ไม่ค่อยดี เพราะมีทั้งม็อบการเมือง การขึ้นภาษีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และเรื่องน้ำท่วม อารมณ์จับจ่ายไม่ค่อยมีแถมกำลังซื้อยังถูกฉุดอีก แต่เชื่อว่าช่วงสามไตรมาสแรกของปีที่ดีคงอาจจะชดเชยได้บ้าง

นายสรกฤต ลัทธิธรรม ผู้จัดการฝ่ายการตลาดอาวุโส บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด กล่าวว่า สถานการณ์ทางการเมืองในตอนนี้ต้องยอมรับว่าส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคในทางจิตวิทยามากกว่า แต่ก็คงไม่มากเท่าปัจจัยลบอย่างอื่น เช่น การปรับภาษีและปัญหาการเมืองทั้งปีได้ส่งผลกระทบต่อตลาดเบียร์รวมที่มีมูลค่าประมาณ 1 แสนล้านบาทในปีนี้คงเติบโตได้แค่ 1% เท่านั้นแน่นอน จากปกติโต 7-8%

ขณะที่นายปริญ มาลากุล ณ อยุธยา ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการองค์กร บริษัท ไทยเอเชีย แปซิฟิค บริวเวอรี่ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เบียร์ไฮเนเก้น ไทเกอร์ก็กล่าวในทำนองเดียวกันว่า แม้ว่าเทศกาลลานเบียร์จะไม่ได้เป็นช่วงที่ทำยอดขายให้มากแก่ผู้ประกอบการเบียร์ก็ตาม ประมาณแค่ 1% ของตลาดรวม เพราะเป็นเพียงแค่การสร้างสีสันและการสร้างแบรนด์เท่านั้น แต่เมื่อสถานการณ์ไม่ดี ผู้ประกอบการก็ต้องการที่อยากจะได้ยอดขายมากที่สุด ปีนี้ลานเบียร์ก็ได้รับผลกระทบเช่นกันเพราะปัจจัยลบทางการเมือง ซึ่งยังไม่รู้ว่าจะมีปัญหาลากยาวไปนานเท่าใด ถ้ายิ่งนานก็คงกระทบอารมณ์ของผู้บริภคที่ไม่อยากจะมาดื่มเบียร์ก็เป็นได้

ในปีนี้จึงจะเห็นได้ว่าค่ายเบียร์ใหญ่ๆ จัดลานเบียร์ที่เป็นของตัวเองกันน้อยมากไม่เหมือนหลายปีที่ผ่านมาที่จัดหลายที่ โดยยังคงยึดเอาทำเลหลักอย่างลานหน้าเซ็นทรัลเวิลด์เป็นฐานที่มั่นเหมือนทุกปีทุกค่าย และมุ่งเน้นไปที่กิจกรรมที่หลากหลายและความแตกต่างใแง่ของสินค้าเป็นหลัก

โดยค่ายไฮเนเก้นก็จัดลานเบียร์สำหรับแบรนด์ไทเกอร์ที่หน้าเซ็นทรัลเวิลด์ฝั่งโรงพยาบาลตำรวจ ส่วนแบรนด์ไฮเนเก้นเองนั้นไปจัดที่เดียวที่เอสพลานาด รัชดาภิเษก ขณะที่แบรนด์สิงห์นั้นก็ปักหลักที่ลานหน้าเซ็นทรัลเวิลด์เหมือนกัน

ส่วนค่ายไทยเบฟจัด 3 ลานแต่ 2 ทำเลคือ หน้าเซ็นทรัลเวิลด์ 2 ลาน ประกอบด้วย “ช้างเอ็กซ์พอร์ตเบียร์” และ “ช้างเดอะซีเลกชันส์” โดยได้เปิดให้บริการตั้แต่เมื่อวันที่ 24 พ.ย.ที่ผ่านมา ส่วนอีกทำเลคือที่เอเชียทีค ได้เปิดบริการเมื่อ 20 พ.ย.ที่ผ่านมาแล้วเช่นกัน ซึ่งทั้ง 3 ลานของเบียร์ช้างจะเป็นการทำโครงสร้างลานเบียร์ขึ้นมาใหม่ทั้งหมด ทั้งสามลานนี้ใช้งบประมาณรวม 70 ล้านบาท

ทุกค่ายจะดึงเอากิจกรรมด้านดนตรีและการแสดงด้วยการเปิดตัวศิลปินชั้นนำมาเป็นตัวขับกล่อมและดึงลูกค้า แต่ที่แปลกหน่อยสำหรับปีนี้คือ ค่ายเบียร์ช้างที่ “ช้างเดอะซีเลกชันส์” [Chang The Selections] เพิ่มทางเลือกให้ผู้บริโภคได้ดื่มด่ำในบรรยากาศที่แตกต่าง นอกจากนี้ยังเป็นการแนะนำครั้งแรกของ innovative product เช่น เบียร์ 4 รสชาติ, ไอศกรีม Chang Export Soft Serve และ Chang Export Lemon Freeze เบียร์ปั่นไอศกรีมเลมอน เน้นเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่มุ่งสร้างแบรนด์เอ็กซ์พีเรียนซ์ที่ดีต่อ “ช้างเอ็กซ์พอร์ต”

คงต้องจับตาลุ้นกันต่อไปว่า ลานเบียร์ปีนี้จะสร้างสีสันและสามารถสร้างยอดขายให้แก่เบียร์แต่ละแบรนด์ได้มากน้อยเพียงใด ท่ามกลางปัจจัยลบหลากหลาย โดยเฉพาะ “ม็อบ” ที่จะลากยาวหรือไม่
กำลังโหลดความคิดเห็น