การเจรจางบประมาณของสหรัฐเริ่มมีสัญญาณความคืบหน้าปรากฏให้เห็น เมื่อนางแพตตี้ เมอร์เรย์ ผู้เจรจาระดับสูงในวุฒิสภาจากพรรคเดโมแครตเปิดเผยว่า เขามองเห็นแนวทางที่จะนำไปสู่การทำข้อตกลงเพื่อผ่อนปรนมาตรการตัดงบรายจ่ายในวงกว้างของรัฐบาล (sequester)
ต่อข้อซักถามว่ามีความคืบหน้าในการเจรจาระหว่างเขาและนายพอล ไรอัน ตัวแทนจากพรรครีพับลิกันหรือไม่ นางเมอร์เรย์ตอบว่า "ดิฉันเชื่อว่ามี"
วุฒิสมาชิกในคณะกรรมการเจรจา ซึ่งมีนางเมอร์เรย์ และนายไรอัน เป็นประธาน เปิดเผยว่า สมาชิกสภานิติบัญญัติกำลังแข่งกับเวลาเพื่อบรรลุข้อตกลงก่อนกำหนดเส้นตายวันที่ 13 ธ.ค.
ทั้งนี้ ในวันที่ 15 ม.ค.2014 รัฐบาลจะไม่มีงบสำหรับการบริหารงานต่างๆของรัฐ และถ้าไม่มีการบรรลุข้อตกลงงบประมาณก่อนวันดังกล่าวหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐอาจจะปิดทำการอีกครั้ง
นางเมอร์เรย์ ซึ่งเป็นประธานคณะกรรมาธิการงบประมาณของวุฒิสภา ไม่ได้แจกแจงรายละเอียดเกี่ยวกับฉันทามติที่อาจจะเกิดขึ้นในการเจรจา แต่กล่าวว่า ทั้งสองฝ่ายกำลังดำเนินการเพื่อบรรลุข้อตกลงย่อยๆ
ความเห็นของเขาสอดรับกับความรู้สึกเชิงบวกของที่ปรึกษาบางคนของพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครต และนายแองกัส คิง วุฒิสมาชิกสายอิสระที่มีมติสนับสนุนพรรครีพับลิกัน
นายคิงกล่าวว่า เขารู้สึกประทับใจที่การประชุมระหว่างนายไรอัน ประธานคณะกรรมาธิการงบประมาณของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ และ นางเมอร์เรย์ มีความคืบหน้าในการเจรจา แต่เขาก็เสริมว่า "ผมเข้าใจว่า ยังคงมีเรื่องใหญ่ๆที่ค้างคาอยู่ และเรื่องหลักๆ ก็คือเรื่องรายได้"
นางเมอร์เรย์ และสมาชิกพรรคเดโมแครตในคณะกรรมาธิการงบประมาณกำลังหารายได้ชดเชยการยุติการยกเว้นภาษีให้แก่กลุ่มผู้ที่มีฐานะร่ำรวย และบริษัทขนาดใหญ่ เพื่อทดแทนมาตรการ sequester บางส่วน ซึ่งจะทำให้งบอุดหนุนหน่วยงานรัฐบาลและโครงการพิเศษหายไป 9.1 หมื่นล้านดอลลาร์ในปีหน้า
พรรครีพับลิกันปฏิเสธการพิจารณาขึ้นภาษี และต้องการให้มีการผ่อนปรนมาตรการ sequester ด้วยการปรับลดงบรายจ่าย ในโครงการสวัสดิการของรัฐบาลกลาง
มาตรการปรับลดงบรายจ่ายทั้งระบบรอบต่อไป หรือ sequestration จะเริ่มขึ้นในวันที่ 15 ม.ค. ซึ่งเป็นวันเดียว
กับที่งบประมาณของรัฐบาลจะหมดลงอีกครั้ง แต่นายไรอันกล่าวว่า เขาคาดการณ์ว่าจะไม่มีการปิดทำการของ หน่วยงานรัฐบาลสหรัฐเกิดขึ้นอีกครั้งในวันที่ 15 ม.ค. เนื่องจากทั้งเขาและนางเมอร์เรย์จะสามารถบรรลุข้อตกลง
(ข่าวจากสำนักข่าว รอยเตอร์)
ทวีสุข ธรรมศักดิ์
Executive Vice President.
RHB-OSK Securities (Thailand)PLC
RHB Banking Group
ต่อข้อซักถามว่ามีความคืบหน้าในการเจรจาระหว่างเขาและนายพอล ไรอัน ตัวแทนจากพรรครีพับลิกันหรือไม่ นางเมอร์เรย์ตอบว่า "ดิฉันเชื่อว่ามี"
วุฒิสมาชิกในคณะกรรมการเจรจา ซึ่งมีนางเมอร์เรย์ และนายไรอัน เป็นประธาน เปิดเผยว่า สมาชิกสภานิติบัญญัติกำลังแข่งกับเวลาเพื่อบรรลุข้อตกลงก่อนกำหนดเส้นตายวันที่ 13 ธ.ค.
ทั้งนี้ ในวันที่ 15 ม.ค.2014 รัฐบาลจะไม่มีงบสำหรับการบริหารงานต่างๆของรัฐ และถ้าไม่มีการบรรลุข้อตกลงงบประมาณก่อนวันดังกล่าวหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐอาจจะปิดทำการอีกครั้ง
นางเมอร์เรย์ ซึ่งเป็นประธานคณะกรรมาธิการงบประมาณของวุฒิสภา ไม่ได้แจกแจงรายละเอียดเกี่ยวกับฉันทามติที่อาจจะเกิดขึ้นในการเจรจา แต่กล่าวว่า ทั้งสองฝ่ายกำลังดำเนินการเพื่อบรรลุข้อตกลงย่อยๆ
ความเห็นของเขาสอดรับกับความรู้สึกเชิงบวกของที่ปรึกษาบางคนของพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครต และนายแองกัส คิง วุฒิสมาชิกสายอิสระที่มีมติสนับสนุนพรรครีพับลิกัน
นายคิงกล่าวว่า เขารู้สึกประทับใจที่การประชุมระหว่างนายไรอัน ประธานคณะกรรมาธิการงบประมาณของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ และ นางเมอร์เรย์ มีความคืบหน้าในการเจรจา แต่เขาก็เสริมว่า "ผมเข้าใจว่า ยังคงมีเรื่องใหญ่ๆที่ค้างคาอยู่ และเรื่องหลักๆ ก็คือเรื่องรายได้"
นางเมอร์เรย์ และสมาชิกพรรคเดโมแครตในคณะกรรมาธิการงบประมาณกำลังหารายได้ชดเชยการยุติการยกเว้นภาษีให้แก่กลุ่มผู้ที่มีฐานะร่ำรวย และบริษัทขนาดใหญ่ เพื่อทดแทนมาตรการ sequester บางส่วน ซึ่งจะทำให้งบอุดหนุนหน่วยงานรัฐบาลและโครงการพิเศษหายไป 9.1 หมื่นล้านดอลลาร์ในปีหน้า
พรรครีพับลิกันปฏิเสธการพิจารณาขึ้นภาษี และต้องการให้มีการผ่อนปรนมาตรการ sequester ด้วยการปรับลดงบรายจ่าย ในโครงการสวัสดิการของรัฐบาลกลาง
มาตรการปรับลดงบรายจ่ายทั้งระบบรอบต่อไป หรือ sequestration จะเริ่มขึ้นในวันที่ 15 ม.ค. ซึ่งเป็นวันเดียว
กับที่งบประมาณของรัฐบาลจะหมดลงอีกครั้ง แต่นายไรอันกล่าวว่า เขาคาดการณ์ว่าจะไม่มีการปิดทำการของ หน่วยงานรัฐบาลสหรัฐเกิดขึ้นอีกครั้งในวันที่ 15 ม.ค. เนื่องจากทั้งเขาและนางเมอร์เรย์จะสามารถบรรลุข้อตกลง
(ข่าวจากสำนักข่าว รอยเตอร์)
ทวีสุข ธรรมศักดิ์
Executive Vice President.
RHB-OSK Securities (Thailand)PLC
RHB Banking Group